ชวนไม่สบายใจถูกกล่าวหาเอี่ยวตุลาการ รธน.คดียุบปชป.

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา

พร้อมด้วยนายทศพล เพ็งส้ม ส.ส.นนทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้กรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นคัดค้านตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์


นายวิรัตน์ กล่าวว่า นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคและประธานคณะทำงานสู้คดียุบพรรค

ไม่สบายใจกรณีที่นายพร้อมพงศ์ยื่นคัดค้านคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ โดยกล่าวหาว่าผู้ที่ยื่นขอขยายเวลาส่งคำแก้ข้อกล่าวหาได้เข้าพบ นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคได้มอบหมายให้นายทศพล และนางภัทธมน เพ็งส้ม ทีมกฎหมายของพรรคไปยื่นขอขยายเวลาส่งคำแก้ข้อกล่าวหาในคดี 29 ล้านบาทต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้มอบกับทางเจ้าหน้าที่ โดยไม่มีตุลาการผู้ใหญ่คนใดมาพบเลย และนายวสันได้แถลงชัดเจนแล้วว่าวันดังกล่าวอยู่ที่ประเทศเกาหลี ดังนั้น การกล่าวหาของพรรคเพื่อไทยเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้นและยายามกดดันศาลรัฐธรรมนูญเหมือนกับที่เคยกดดันคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)มาแล้ว


นายวิรัตน์ กล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่คิดทำอย่างที่ถูกกล่าวหาเหมือนกับที่บางพรรคเคยทำมาแล้ว

เราไม่เคยหิ้วถุงขนม 2 ล้านบาทไปให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ การกล่าวหาครั้งนี้เป็นการกระทำนอกกระบวนการอย่างไม่ตรงไปตรงมา พยายามให้เห็นว่าหากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไม่ยุบ จะกล่าวหาว่าเป็นสองมาตรฐานโดยไม่ได้ลงลึกไปในรายละเอียดว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำผิดในกรณี 29 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การกล่าวหาของโฆษกพรรคเพือไทยในครั้งนี้ เป็นการหมิ่นศาลและทำให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียชื่อเสียง รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์เสียชื่อเสียงด้วย หากยังไม่ยุติการกระทำดังกล่าว จะดูว่าต้องมีการดำเนินการในการฟ้องร้องหรือไม่


ด้านนายทศพล กล่าวว่า ตนพร้อมทั้งนางภัทธมน ได้เดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยื่นขอขยายเวลาส่งคำแก้ข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 10 พ.ค.เวลา 09.05 น.

เลขรับที่ 980 โดยได้ยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ โดยไม่มีตุลาการมารับเรื่องแต่อย่างเ และหลังจากยื่นเสร็จเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารความถูกต้อง ตนจึงเดินทางกลับ ไม่ได้เข้าไปพบบุคคลใดโดยเฉพาะนายวสันต์ ตนไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัวมาก่อน และในวันดังกล่าว นายบัณฑิต ศิริพันธุ์ หัวหน้าทนายผู้ว่าความคดียุบพรรค ก็ไม่ได้เดินทางไปด้วยเพราะเดินทางไปต่างประเทศ และที่สำคัญในศาลรัฐธรรมนูญมีการคุมเข้มใครเข้าออกก็ต้องมีการตรวจสอบ ขนาดเข้าห้องน้ำยังมีคนเดินตามเลย ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ว่ามีใครเข้าไปบ้าง เพราะการกล่าวหาเช่นนี้ทำให้เกิดความเสีหาย


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์