คมชัดลึก :ทูตยูเออีรับคำไม่ยอมให้ "ทักษิณ" ใช้เป็นฐานขับเคลื่อนทางการเมือง บัวแก้ว รับ สัญญาณ"ทักษิณ" ขาดหาย ไม่รู้ซุกตัวที่ไหน เตรียมประสานส่ง "กษิต" เยือนมอนเตเนโกร เร็ว ๆ นี้ “กษิต”โฟนอินข้ามทวีปชี้กลุ่มซิกาเข้าใจสถานการณ์ไทย นายพนิช ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 มิ.ย. นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศ
ได้หารือกับ นายโมฮัมหมัด อาลี อัล ชัม ซี่ เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ประจำประเทศไทย โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที และกล่าวว่า ได้พูดคุยถึงสถานการณ์ในประเทศไทยและขอบคุณ ยูเออี ที่ยกเลิกการห้ามประชาชนเดินทางมาประเทศไทยช่วงที่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบ ซึ่งในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็เริ่มเห็นชาวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวในไทย โดยเฉพาะชาวยูเออีที่เข้ามาใช้บริการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลของไทยเฉลี่ยหลายหมื่นคนต่อปี
นายพนิช กล่าวว่า ทูตยูเออี พอใจการชี้แจงของไทย โดยเฉพาะที่ได้รับฟังจากนายกรัฐมนตรีแต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
เพราะแม้การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจะยุติ แต่การขับเคลื่อนทางการเมืองของฝ่ายต่อต้านยังไม่ยุติ ทั้งในต่างจังหวัดและต่างประเทศ จึงขอให้ ยูเออี ได้ติดตามสถานการณ์เหล่านี้ หากพบว่ามีบุคคลใดใช้ยูเอเอีเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมืองก็ให้ช่วยเป็นหูเป็นตา ซึ่งทาง ยูเออี ยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ยอมให้ใช้ประเทศเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมือง อย่างไรก็ตามการยกร่างสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนั้นยังไม่มีความคืบหน้า แต่คาดว่าคงจะดำเนินการต่อเนื่องในเร็วๆ นี้
อยู่ระหว่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลเข้ามายังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งขณะนี้ไม่มีความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ในทางการเมือง และยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่ที่ประเทศใด แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจะติดตามตัวเพื่อนำกลับมาสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป
กษิตเตรียมเยือนมอนเตฯแจงหมายจับทักษิณ
นายพนิช กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานเพื่อให้ รมว.ต่างประเทศ เดินทางเยือนมอนเตเนโกร แต่ยังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน
โดยประเด็นสำคัญที่ต้องการเดินทางเยือนประเทศดังกล่าวก็เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์ในประเทศ โดยเฉพาะคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ต้องการให้ความมั่นใจว่าไม่ใช่คดีทางการเมือง นอกจากนี้ได้เคยเสนอให้นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนไปยูเออีด้วยเพื่อประชับความสัมพันธ์ แต่ก็ยังไม่มีกำหนดการอะไรที่ชัดเจน
ที่กระทรวงการต่างประเทศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ
ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางไปร่วมประชุมว่าด้วยการแสวงหามาตรการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ (ด้านความมั่นคง) ในเอเชีย หรือ CICA ที่ประเทศตุรกี ให้สัมภาษณ์โฟนอินถึงผลการประชุม และการหารือทวิภาคีกับประเทศต่างๆ ว่า ในโอกาสนี้ตนได้ชี้แจงถึงสถานการณ์ทางการเมืองของไทย และแผนการปรองดองแห่งชาติ เพื่อให้ประเทศต่างๆ ได้เล็งเห็นถึงความรุดหน้าในการแก้ไขปัญหา ซึ่งประเทศต่างๆ ก็หวังว่าไทยจะฝ่าฟันวิกฤติการณ์ไปได้ ทั้งนี้ในการหารือทวิภาคีกับประเทศต่างๆ อาทิ ตุรกี คาซัคสถาน อาเซอไบจัน อิรัก ซึ่งเขาได้ติดตามสถานการณ์ของไทยอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด อีกทั้งก่อนหน้านั้นตนก็ได้ทำจดหมายถึง รมต.ต่างประเทศ ทั่วโลกเพื่อชี้แจงสถานการณ์ของไทย ทั้งเรื่องการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์วันที่ 19 พ.ค. การจัดตั้งคณะกรรมการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม
เมื่อถามถึงกรณีข่าวว่าบรูไนจะขอให้ไทยชี้แจงสถานการณ์ทางการเมืองเพราะยังมีข้อสงสัย นายกษิต กล่าวว่า คิดว่าวันนี้คงไม่มีข้อสงสัยต่อเพื่อนอาเซียนด้วยกัน
เพราะก่อนหน้านั้นประธานอาเซียนได้มีถ้อยแถลง ซึ่งตนได้อ่านร่างถ้อยแถลงก่อนหน้านั้นแล้วด้วย ก็ได้ชี้แจงสถานการณ์ และอีก 2 เดือนข้างหน้าตนก็จะเดินทางร่วมคณะนายกรัฐมนตรีเพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ที่กรุงฮานอย ก็จะได้ใช้โอกาสนี้คุยและชี้แจงกับประเทศต่างๆ อย่างไรก็ตามสำหรับข่าวดังกล่าวคิดว่าอาจจะเข้าใจผิดอะไรกันเท่านั้น และเมื่อถามถึงรายงานข่าวที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พำนักอยู่ในบรูไน นายกษิตตอบว่า ไม่มี
ด้านนายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า เข้าใจว่าข้อมูลอาจจะคลาดเคลื่อน
เนื่องจากผู้แทนหน่วยงานความมั่นคงได้รายงานให้ที่ประชุมศอฉ.ทราบว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการประชุมของหน่วยงานความมั่นคง 27 ประเทศภายใต้กรอบการหารือแชงกรีลาที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งผู้แทนไทยได้ชี้แจงถึงพัฒนาการล่าสุดในไทย และการดำเนินการของรัฐบาลไทยให้ที่ประชุมทราบ โดยที่ประชุมได้แสดงความเข้าใจและไม่ได้แสดงความสงสัย จึงไม่จำเป็นต้องชี้แจงเพิ่มเติม