นายกฯหารือเครียด สั่งจับตา4จ. รับมือแดงเคลื่อน

นายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยมั่นคงถกรับมือคนเสื้อแดงเคลื่อนพลอีกรอบ สั่งจับตา 4 จังหวัดแดง “อุดรฯ-อุบลฯ-ขอนแก่น-มุกดาหาร” อาจยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินบางจังหวัด คาดสัปดาห์นี้รู้ “บิ๊กกองทัพ” ยัน “อนุพงษ์” ไม่ได้พูดเรื่อง “ทักษิณ” ไม่จงรักภักดีสถาบันกษัตริย์...

เมื่อเวลา 13.00 น. 9 มิ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง

โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทย ตัวแทนจากกระทรวงยุติธรรม และตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประเมินสถานการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะตามการประกาศบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวม 24 จังหวัด ซึ่งขณะนี้พบว่า ยังมีกลุ่มคนเสื้อแดงบางกลุ่มออกเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านรัฐบาล โดยนำประเด็นเหตุการณ์วันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการใช้กำลังทหารกระชับวงล้อม จนทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงต้องสลายการชุมนุมในที่สุด มาเป็นเงื่อนไขในการชุมนุม

แหล่งข่าวในที่ประชุม เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้ นายอภิสิทธิ์ได้สอบถามหน่วยงานด้านความมั่นคงถึงผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา

โดยเฉพาะภาพรวมแนวโน้มของสถานการณ์บ้านเมือง รวมถึงผลการปฏิบัติงานของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ยังพบว่ากลุ่มคนเสื้อแดงยังเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลอยู่ โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวในพื้นที่จ.นครราชสีมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับหน่วยงานด้านความมั่นคง ให้ติดตามการเคลื่อนไหวกลุ่มคนเหล่านี้ให้ดี เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะเป็นตัวเชื่อมโยง ทำให้เกิดสถานการณ์วุ่นวายอีกครั้ง นอกจากนี้ยังสั่งการให้จับตาในพื้นที่ 4 จังหวัด ที่กลุ่มคนเสื้อแดงก่อการจลาจลด้วยการเผาศาลากลางจังหวัด คือ จ.อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น และมุกดาหาร

"การประชุมส่วนใหญ่ นายกรัฐมนตรีต้องการติดตามสถานการณ์เป็นหลัก หากสถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ อาจจะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน บางจังหวัด โดยเบื้องต้นให้หน่วยงานด้านความมั่นคงไปศึกษารายละเอียด และประเมินสถานการณ์บ้านเมือง เพื่อนำกลับมารายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า หากสถานการณ์ดีขึ้นก็จะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินในบางจังหวัด เบื้องต้นหน่วยงานด้านความมั่นคงเสนอนายกรัฐมนตรีว่า ยังให้คงพ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้อีกระยะหนึ่งก่อน เนื่องจากขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงได้เคลื่อนไหวในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้สั่งให้หน่วยงานด้านความมั่นคง เร่งติดตามจับกุมแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยังหลบหนีอยู่ เนื่องจากขณะนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงสืบทราบว่า มีแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงรุ่นใหม่ กระจายปลุกระดมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน โดยใช้วิทยุชุมนุมเป็นเครื่องมือปลุกระดมในครั้งนี้" แหล่งข่าว กล่าว

นอกจากนี้ แหล่งข่าวคนเดิมยังระบุอีกว่า ที่ประชุมไม่ได้พูดถึงกรณีที่มีข่าวว่า ตำรวจเตรียมออกหมายจับนายทหารชั้นนายพล

ที่ร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงในการเคลื่อนไหว จนนำไปสู่เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง ในวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่การดำเนินการต้องเป็นไปตามหลักฐานต่างๆ ที่ตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ แต่พล.อ.อนุพงษ์ไม่ได้ให้ความเห็นอะไรกับเรื่องดังกล่าว แต่รับที่จะไปดำเนินการ โดยเฉพาะการประเมินแนวโน้มสถานการณ์บ้านเมืองโดยทั่วไป ก่อนที่จะนำมาเสนอให้นายกรัฐมนตรีอีกครั้งในสัปดาห์หน้าว่าจะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินในจังหวัดใดบ้าง และนำเข้าหารือในการประชุมศอฉ.

แหล่งข่าวนายทหารระดับสูง กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวิตเตอร์โจมตีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก

ที่กล่าวกับผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะส่วนใหญ่ที่พล.อ.อนุพงษ์ได้พูดคุยกับผบ.หน่วยขึ้นตรงคือ การให้ติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่องานด้านความมั่นคง รวมถึงให้ผบ.หน่วยไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าทหารไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ และไม่ต้องการที่จะทำร้ายประชาชนตามที่ถูกโจมตีในเวลานี้