เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการแบ่งงานใหม่ในตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ ว่า นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะเข้ามากำกับดูแลงานทางด้านสื่อมวลชน คือ กรมประชาสัมพันธ์, บมจ.อสมท.(MCOT) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) ขณะที่ตนเองจะกำกับดูแล สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.), สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.), สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(กพร.),สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง(สทบ.) สำหรับการปรับเปลี่ยนการกำกับดูแลงานในส่วนของ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็เพื่อให้การทำงานมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ซึ่งนายอภิสิทธิ์เห็นว่าตนเองกำกับดูแลงานด้านสื่อมวลชนมาปีกว่าแล้ว อาจจะเจอแรงกดดันมามาก จึงเห็นควรให้มีการปรับเปลี่ยน
“การปรับครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงคนที่เข้ามาทำงานให้งานเข้มแข็งขึ้น นายกฯ บอกว่าผมทำงานมาปีกว่า เผชิญแรงกดดันมามาก มีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ ซึ่งปีกว่าก็ช้ำมามาก ก็ควรมีการเปลี่ยนแปลง” นายสาทิตย์ ระบุและว่า ยืนยันว่าไม่น้อยใจที่ถูกปรับเปลี่ยนงานภายใต้การกำกับดูแล และยังถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้ทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าที่ผ่านมาไม่ได้บริหารงานด้านสื่อล้มเหลว แต่ได้พยายามทำงานอย่างเต็มที่และเชื่อว่าสิ่งที่ทำลงไปจะได้รับการยอมรับ
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 08.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าหากนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ามารับงานแล้วอาจจะมีการแบ่งงานโดยให้นายองอาจดูแลสื่อ ว่า เรื่องการแบ่งงานของสำนักนายกรัฐมนตรีแล้วแต่นายกรัฐมนตรีจะมอบหมาย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงงานนั้นขึ้นอยู่กับช่วงเวลา เพราะเมื่อทำงานไประยะหนึ่งแล้วอาจจะต้องมีการปรับ งานสำนักนายกฯมีมาก จึงยอมรับว่านายกฯอาจจะคุยเพื่อเกลี่ยงานกันใหม่ โดยรัฐมนตรี 2 คนนี้ต้องแบกงานกันพอสมควร ซึ่งนายกฯนัดหารือกันในบ่ายวันเดียวกันนี้ ว่างานในส่วนของสำนักนายกฯจะแบ่งกันอย่างไรเพื่อให้งานต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามตนทำงานตรงไหนก็ไม่มีปัญหาอะไร ทำตรงไหนก็ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวการเกลี่ยงานใหม่นี้สอดคล้องกับกรณีที่ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสาทิตย์แทรกแซงสื่อ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น เพราะเป็นธรรมดา ตนโดนพาดพิงมาตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐมนตรีแล้ว แต่ก็ชี้แจงได้ตลอด เพราะการจัดงานขึ้นอยู่กับนายกฯที่จะจัดภารกิจงานให้คนรับผิดชอบอย่างไร