คมชัดลึก : "สุเทพ"ยันเลือกตั้งต้นปีหน้าตามคำพูดนายกฯ ยืนยันเด็กปชป.ไม่มีใครไหลออก ยอมรับปรับครม.ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า มีคนไม่พอใจบ้าง เผยคุยกับไพฑูรย์แล้วเข้าใจกันดี แต่ปชป.มีมติเอกฉันท์ส่งว่าที่รมต.ใหม่4คนเข้าทำงานเพราะมีศักยภาพช่วยบ้านเมือง ยืนยันส.ส.พท.”นิคม เชาว์กิตติโสภณ”ติดต่อมาร่วมงานกับรัฐบาลเพราะไม่อยากอยู่ผิดข้าง หากส.ส.พท.10-20คนอยากย้ายมาก็ยินดี
(7มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.40 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงการปรับครม.โดยมีความขัดแย้งจากส.ส. และอดีตรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ไม่เป็นความขัดแย้งอะไรเพียงแต่เป็นธรรมชาติของพรรค ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ตามอัธยาศัยได้เต็มที่ จบกันแล้วก็จบกันไป ไม่เป็นปัญหาอะไร เมื่อถามว่าส.ส.ภาคตะวันออกของพรรคไม่พอใจที่ปรับนายธีระ สลักเพชร ออกจากรมว.วัฒนธรรม เพราะในพื้นที่จะไม่มีแม่ทัพนำ นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่เป็นอย่างนั้น
เมื่อถามว่าส.ส.ภาคเหนือก็ไม่พอใจที่ปรับนายไพฑูรย์ แก้วทอง ออจากรมว.แรงงาน นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคุยกับนายไพฑูรย์เเล้วและไม่มีอะไร
คุยกันธรรมดาไม่มีอะไร เมื่อถามว่านายนราพัฒน์ แก้วทอง ส.ส.พิจิตร พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะบุตรชายนายไพฑูรย์ระบุว่านายไพฑูรย์เป็นผู้ใหญ่ แต่ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าในการปรับออกจึงไม่พอใจ นายสุเทพหัวเราะ และกล่าวว่า ตนเป็นกำนันไม่ยิ่งกว่าหรือ ส่วนที่ระบุว่าไม่มีการแจ้งล่วงหน้านั้น กรณีการปรับครม.ครั้งนี้ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า และหลังการอภิปรายฯแล้วก็คิดว่าต้องรีบทำให้เสร็จเพราะสถานการณ์ทั้งหลายทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่ามันเกิดประเด็นที่ทำให้รู้สึกว่าหากปล่อยไว้นานรัฐบาลจะทำให้คนทั้งหลายขาดความเชื่อมั่นเรื่องเสถียรภาพ ฉะนั้นต้องรีบทำ จึงไม่ได้บอกใครล่วงหน้า
เมื่อถามว่า เหตุผลใดที่ปรับนายไพฑูรย์ออก นายสุเทพ กล่าวว่า ตนพูดในพรรคชัดเจนว่าตอนตั้งรัฐบาลใหม่ๆสมาชิกในพรรคที่มีความรู้ความสามารถสมควรเป็นรัฐมนตรีหลายคน
แต่เมื่อการไปเจรจาจัดตั้งรัฐบาลของตนได้กระทรวงมาไม่มากนักจนทำให้ได้คนไม่ครบตามที่คาดหวังไว้ ฉะนั้น 4 - 5 คนต้องรอไปก่อน เมื่อทำงานได้ระยะและมีการปรับครม.จึงเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะนำบุคคลเหล่านั้ที่มีศักยภาพนมาใช้งานบ้างเพื่อให้มาทำงานรับใช้บ้านเมือง และเมื่อมีการประชุมพรรคได้มีการหารือว่าบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีใหม่นั้นมีคนบ้าง ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและส.ส.ของพรรคเห็นชอบร่วมกันว่า4คนนี้และเป็นเอกฉันท์ แต่เมื่อถึงเวลาว่า4คนนี้จะมาเเทนใครมันก็เป็นธรรมดาที่เป็นปัญหาบ้างแต่ต้องนำเสียงส่วนใหญ่เป็นสำคัญ
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์มีเสียงส.ส.สนับสนุนรัฐบาลครั้งนี้เท่าใด
นายสุเทพ กล่าวว่า ตนกราบเรียนไปแล้ววว่าในกรณีที่ลงมติเรื่องสำคัญๆ ครม.ไม่สามารถลงคะแนนได้เช่น งบประมาณแผ่นดิน จึงต้องมีคะแนนเกิน 250 เสียงขึ้นไป เมื่อถามว่าตอบได้หรือไม่ว่ารัฐบาลมีเสียงเท่าใด นายสุเทพ กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่ามี 250 กว่าเสียง และไม่ปริมน้ำ หากบวกครม.ไปด้วยตนก็มี 270 กว่าเสียง คือ 273 - 274 เสียง มันเกินเยอะแยะแล้ว
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคได้ทาบทามส.ส.พรรคเพื่อไทยให้มาร่วมงานโดยมีค่าตอบแทน 7 - 8 หลัก
นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเห็นจากข่าวแล้วและคนของพรรคเพื่อไทยที่เเถลงข่าวนี้ไม่น่าเชื่อถือ เพราะพูดจาในเรื่องไม่จริงมาตลอด ตอนนี้มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยคนเดียวที่ลงคะแนนให้รัฐบาลและคนๆนี้มาหาตนที่ทำเนียบรัฐบาลเองโดยบอกว่าอยู่ตรงนั้นเห็นอะไรมามากและเข้าใจ จึงอยากมาช่วยงานรัฐบาล เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยพูดในสิ่งไม่น่าเชื่อถือจะฟ้องร้องหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ขอให้ลองระบุชื่อตนสิ ตนจะฟ้องร้อง จริงๆตนไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เวลาที่ทางนั้นพูดก็ไม่มีการได้ระบุชื่อใคร จะเที่ยวไปไล่ฟ้องร้องก็ใช่ที่ หากอยากพิสูจน์ความจริงก็ให้ระบุชื่อตน ตนจะได้ช่วยสงเคราะห์ เมื่อถามว่าระบุชื่อส.ส.พรรคเพื่อไทยที่มาพบได้หรือไม่ เพราะตอนนี้พรรคเพื่อไทยมีมติขับส.ส.คนนี้ออกจากพรรคแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า แสดงตัวชัดเจนตอนลงคะแนนโหวตในการอภิปรายฯแล้ว เมื่อถามว่า ส.ส.คนนั้นคือนายนิคม เชาวน์กิตติโสภณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และจะมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ กล่าวว่า ใช่ ที่จริงนายนิคมได้พูดเรื่องอื่นอีก แต่ตนขอพูดแค่นี้ดีกว่า
เทือกยันเลือกตั้งต้นปีเชื่อปชป.ไม่ไหลออก
เมื่อถามว่า มีเงื่อนไขเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่แน่ นายนิคมอาจมีฐานะดีกว่าตน
เมื่อถามว่าแสดงว่านายนิคมมาด้วยใจ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเรียนแล้วว่าใจเย็น ตนบอกไปแล้ว ขอให้ตั้งสติ เวลาที่ตนพูดอะไร เพราะตนต้องพูดจานั้นต้องระวังเพื่อไม่ให้นายนิคมลำบากด้วย นายนิคมบอกกับตนว่าอยู่ที่นั่นมานานเห็นอะไรต่างๆชัดเจน และเข้าใจทุกอย่างดี นายนิคมเห็นว่าอยู่ผิดข้างก็อยากมาอยู่ข้างรัฐบาลดีกว่า มันแค่นั้นแหละ และหากในอนาคตอาจมีใครตามนายนิคมมาอีกนั้น หากมีคนคิดแบบนายนิคมอีก10 - 20 คน ตนยินดีต้อนรับ
เมื่อถามว่าจะมีส.ส.ที่ออกจากพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มี
เมื่อถามว่า อดีตรัฐมนตรีที่อกหักจะออกจากพรรคหรือไม่ เพราะหลายพรรคสนใจที่จะดึงไปร่วมงาน นายสุเทพ กล่าวว่า พูดแบบนี้จะทำให้ตนทะเลาะกันสิ และเรื่องนี้เป็นธรรมดาอยู่แล้วเพราะบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลายจะดูว่าคนๆนี้อยู่กับพรรคเราแล้วอึดอัดก็ต้องเกี้ยวพาราสีเป็นธรรมดา
เมื่อถามว่าพลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนาโทรศัพท์ไปหานายไพฑูรย์นั้นมีนัยยะอะไร นายสุเทพ กล่าวว่า คนจ.พิจิตรด้วยกันก็อาจเห็นอกเห็นใจกันเป็นธรรมดา และไม่มีปัญหาอะไร
นายไพฑูรย์เป็นผู้ใหญ่ที่อยู่กับพรรคมานานเเล้ว เมื่อถามว่าหากนายไพฑูรย์ย้ายออกจริง พรรคจะเสียผู้นำในภาคเหนือหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเรียนไปหลายครั้งแล้วว่าอย่าถามเรื่องในอนาคตไกลไปขนาดนั้น และตนไม่ใช่หมอดูจึงตอบไม่ได้ เรื่องในปัจจุบันนี้ตนตอบได้ หากไปไกลๆตนตอบไม่ได้ หมอดูยังทายไม่ถูกเลย เมื่อถามว่า ที่บอกว่าคุยกับนายไพฑูรย์แล้ว แต่ทำไมท่าทีของนายไพฑูรย์และนายนราพัฒน์ยังน้อยใจ และเรื่องนี้จะขยายผลถึงการอยู่ร่วมกันไม่ได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ธรรมดา และคงไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อถามว่าจะคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรต้องคุยตอนนี้ เมื่อถามว่าปรับครม.ครั้งนี้รัฐบาลจะอยู่ยาวหรือไม่ นายสุเทพ ถอนหายใจว่า เอาให้บ้านเมืองอยู่รอดก่อน เรื่องรัฐบาลอย่ากังวลใจให้มากนัก เมื่อถามว่านายกฯระบุว่าต้นปีหน้าจะเตรียมเลือกตั้ง นายสุเทพกล่าวว่านายกฯพูดอย่างไรก็อย่างนั้นแล้วกัน