เพื่อไทย มีมติขับ จุมพฎ-ปรพล ออกจากพรรค


"เพื่อไทย" มีมติขับ "จุมพฎ-ปรพล" ออกจากพรรค เหตุตัวเป็นเพื่อไทยใจอยู่พรรคอื่น "สมบูรณ์-นิคม" จ่อถูกเชือด

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 มิถุนายน ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์  นพฤทธิ์  โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ครั้งที่ 2 / 2553  มีนายยงยุทธ  วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเป็นประธานในการประชุม ว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคมติให้ขับ ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี และนายจุมพฏ  บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร ออกจากพรรค ในข้อหาทำผิดระเบียบข้อบังคับพรรคการเมืองอย่างร้ายแรง ขาดการประชุมพรรคเป็นเวลานาน ไม่เข้าร่วมในกิจกรรมของพรรค ไปร่วมกิจกรรมกับพรรคการเมืองอื่น รวมไปถึงการไปร่วมทำกิจกรรมกับพรรคการเมืองอื่นอย่างเปิดเผย ซึ่งผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญรวมถึงกฏหมายพรรคการเมือง ที่ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องสังกัดพรรคการเมืองเดียว แต่การกระทำของร.ต.ปรพล และนายจุมพฏ ชื่ออยู่พรรคเพื่อไทยตามหลักนิตินัย แต่พฤติกรรมและการปฎิบัติตัวกับอยู่อีกพรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดต่อเจตนารมณ์ในการทำหน้าที่ที่เป็นตัวแทนประชาชนอย่างชัดเจน 


นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยโดยคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณของพรรคได้ทำหนังสือขอให้ ร.ต.ปรพล และนายจุมพฏ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ทั้งสองก็ไม่ได้ชี้แจงใดๆ กับเพิกเฉย คณะกรรมการบริหารพรรคจึงมีมติขับ ส.ส.ทั้งสองออกจากพรรค ในขั้นตอนต่อไปกรณีที่สมาชิกผู้ถูกกล่าวหาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและต้องถูกกำหนดโทษให้พ้นจากการเป็นสมาชิกให้เสนอสำนวนพร้อมความเห็นต่อที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค เพื่อให้ที่ประชุมร่วมพิจารณา หากมีมติให้พ้นจากการเป็นสมาชิกต้องมีคะแนนไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารและ ส.ส. โดยการลงมติให้ลงคะแนนลับ ตามข้อบังคับของพรรคข้อ 23

               
นายพร้อมพงศ์  กล่าวว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ยังได้มีมติให้นำเรื่อง นายสมบูรณ์  วันชัยธนวงศ์ ส.ส. สัดส่วน และนายนิคม เชาว์กิตติโสภณ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่กระทำขัดต่อข้อบังคับพรรคอย่างร้ายแรง เสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณของพรรค ได้สอบข้อเท็จจริงและพิจารณาข้อกล่าวหาของ ส.ส. ทั้งสองต่อไป รวมถึงให้นายสมบูรณ์และนายนิคม มาชี้แจงต่อคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณของพรรคต่อไป


อนึ่ง ข้อบังคับพรรคเพื่อไทยข้อที่ 23 ระบุไว้ว่าสมาชิกผู้ใดกระทำการอันเป็นการผิดวินัยและละเมิดจรรยาบรรณของพรรค ต้องได้รับโทษตามความร้ายแรงของการกระทำผิดวินัยและละเมิดจรรยาบรรณ ดังนี้


1.ตักเตือน
2. ภาคทัณฑ์
3.ตัดสิทธิที่พึงมีในฐานะสมาชิกตามข้อบังคับ
4. ให้พ้นจากสมาชิกภาพ ในกรณีสมาชิกที่ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการกระทำนั้นอาจมีผลให้สมาชิกผู้นั้นพ้นจากความเป็นสมาชิก ให้คณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณส่งผลการพิจารณาและข้อเสนอแนะให้ที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรคพิจารณา มติของที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรคให้สมาชิกผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากความเป็นสมาชิก ต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนคณะกรรมการบริหารและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคทั้งหมด การลงมติให้ลงคะแนนลับ


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์