ไพฑูรย์ดอดเก็บของกระทรวงจับกับงดวิจารณ์อายุรัฐ

"ไพฑูรย์" ดอดเก็บของจากกระทรวงจับกัง ปัดวิจารณ์อายุ รบ. โยน "ชัยวุฒิ-จุติ" ดูแลเลือกตั้งภาคเหนือเอง ปัดตอบตั้งพรรคใหม่ ไม่วิจารณ์ปัดวิจารณ์อายุรัฐบาล...

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่กระทรวงแรงงาน นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

ได้เดินทางมายังกระทรวงแรงงานเพื่อเก็บข้าวของส่วนตัวที่ห้องทำงานหลังจาก เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าถูกปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี โดยนายไพฑูรย์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าสำหรับตนแล้ว การถูกปรับออกจากรัฐมนตรีครั้งนี้ไม่มีปัญหาเพราะตนไม่ยึดติดกับตำแหน่งอยู่แล้ว และอีกอย่างก็เป็นมานานแล้วทั้งส.ส. 11 สมัย รมต. 6 สมัย แต่เป้าหมายของเราคือ ต้องทำอย่างไรให้พรรคที่เราอยู่ได้เสียงข้างมากที่สุดและมีโอกาสได้เป็น รัฐบาลต่อไป แต่ถ้าเขาคิดอย่างนี้และเห็นว่าเราแก่แล้วเพราะเท่าที่เขาให้เหตุผลบอกว่า อยากให้เด็กรุ่นหลังได้เติบโต มีประสบการณ์บ้างก็ทำไป

เมื่อถามว่า การปรับครม.ครั้งนี้ของพรรค ขัดกับยุทธศาสตร์การหาเสียงของพรรคหรือไม่

เพราะส่วนใหญ่รัฐมนตรีที่ได้ก็อยู่ในพื้นที่ที่ฐานเสียงแน่นอยู่แล้ว ขณะที่ในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานยังมีปัญหา นายไพฑูรย์ ตอบว่า ผู้บริหารพรรคก็ต้องคิดในเรื่องนี้ ซึ่งตนก็เคยบอกว่า การหาเสียงในภาคเหนือและอีสานมันผิดกับพื้นที่อื่น ไม่ใช่แค่กระแสหรือมาช่วยพูดปราศรัยอย่างเดียว มันไม่ได้ มันต้องผูกพันถึงตัวบุคคลในระดับต่างๆและ ผูกพันถึงจิตใจเข้าถึงกันและกัน แต่จะให้ตนพูดมากว่านี้ ก็ไม่เหมาะ

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ใครจะเป็นแม่ทัพในสนามเลือกตั้งภาคอีสาน

นายไพฑูรย์ ตอบว่า เขาต้องการคนหนุ่มก็ให้เอาคนหนุ่มขึ้นมา แต่มือจะถึงหรือไม่ ตรงนี้จะไปประมาทเขาไม่ได้เขาอาจะทำดีกว่าผมก็ได้ เพราะนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ก็เป็นรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคเหนือ นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก ก็ขึ้นมาเป็นถึงรัฐมนตรีก็ต้องใช้บารมีของตนเอง ที่จะคุมทางภาคเหนือ แต่คนที่จะขึ้นมาคุมต้องมีบารมีพอ เพราะพูดตรงๆ ถ้าหากจะใช้คนทำงาน มันก็ต้องมีตำแหน่งด้วย ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีพาวเวอร์ มันไม่ได้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา

โทรมาให้กำลังใจและชวนไปร่วมงานการเมืองโดยตั้งพรรคการเมืองร่วมกัน นายไพฑูรย์ ตอบว่า ท่านก็โทรมาให้กำลังใจแต่ยังไม่ได้พูดถึงการร่วมงานกัน ในฐานะที่รู้จักชอบพอกันเห็นว่า ออกมาอย่างนี้อาจจะเสียอกเสียใจ รวมถึงนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาพรรครวมชาติไทยพัฒนา ก็โทรมาให้กำลังใจ มีผู้ใหญ่หลายคน

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ เรื่องการตั้งพรรคใหม่ร่วมกัน นายไพฑูรย์ ตอบว่า เป็นเรื่องของอนาคต ยังบอกตอนนี้ไม่ได้

เพราะตอนนี้ผมยังเป็น ส.ส.ของพรรค เดี๋ยวจะหาว่าน้อยอกน้อยใจทิ้งพรรคไป เพราะยังมีหน้าที่ ส.ส.อยู่ก็ยังต้องทำตามมติพรรคอยู่แล้ว ส่วนเรื่องอนาคตก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยังพูดอะไรมากไม่ได้ เห็นไหมตอนที่พรรคความหวังใหม่จะได้เป็นรัฐบาล ผมยังหนีออกมาอยู่ที่อุดมการณ์และจิตใจของผม จะให้บอกตอนนี้ยังไม่ได้ ถ้าจะบอกว่าจะไปไหน ก็ต้องไปเลย

เมื่อถามว่า มองว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้รัฐบาลจะยู่ได้ยาวจนครบวาระหรือไม่ นายไพฑูรย์ ตอบว่า เป็นเรื่องที่พูดยากเพราะมันเกี่ยวกับตน

ยิ่งถอยออกมาอย่างนี้แล้ววิจารณ์ไปก็ลำบาก อาจจะเป็นการประมาทเขาหรือให้ความสำคัญกับตัวเองมากไป เขาอาจจะไม่ต้องการเราว่า สู้คนหนุ่มไม่ได้ แต่คิดว่า นายกฯ เขาเก่งอยู่แล้วคงไม่ต้องให้แง่คิดอะไร เพราะเมื่อยังอยู่ด้วยกัน ก็ต้องให้กำลังใจต่อไป

เมื่อถามย้ำว่า ในพื้นที่ภาคกลางก็มีแรงกระเพื่อมเรื่องการจัดสรรตำแหน่ง ที่ส.ส.ภาคตะวันออกระบุว่า ถูกตัดโควตา รมต.ไป 1 ตำแหน่ง นายไพฑูรย์ ตอบว่า ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่อย่าให้ตนวิพากษ์วิจารณ์เลยไม่ดี.