พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย กล่าวเมื่อวันที่ 4 พ.ค. ถึงการปรับ ครม.
การปรับ ครม.ครั้งนี้เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี เพราะเมื่อมีสถานการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น ต้องตัดสินใจ เพื่อให้รัฐบาลสามารถทำงานต่อไปได้ โดยเฉพาะ ร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่ายปี 2554 ที่จะต้องผ่านมติสภาผู้แทนราษฎร หากไม่ผ่านแล้วจะยุ่ง เพราะรัฐบาลไหนมา ก็ไม่สามารถใช้งบประมาณได้ ดังนั้น รัฐบาลต้องปรับบางกลุ่ม ของบางพรรคออกไป โดยนายกรัฐมนตรีต้องดูว่าใครจะเหมาะสมกับกระทรวงไหนและเชิญพรรคนั้นมาพูดจากัน ซึ่งเมื่อเกิดเหตุอย่างนี้ก็จำเป็นที่พรรคแกนนำจะต้องปรับ ซึ่งถ้าจัดการให้เรียบร้อยก็คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะรัฐบาลเองก็จะอยู่อีกปีกว่าเท่านั้น
พล.ต.สนั่น กล่าวว่า พรรคชาติไทยคงจะไม่ปรับอะไร และยังอยู่ในเก้าอี้เดิมทั้งหมด
ส่วนกระแสข่าวว่านายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร บุตรชายรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการในกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งแทนตน ซึ่งจะสละเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีนั้น คงยังไม่ได้ เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรียังไม่ยอม เนื่องจากอยากให้ตนอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไปด้วย
เมื่อถามว่า กลุ่มของพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน
ที่ไม่เคยสนับสนุนนายอภิสิทธิ์และรัฐบาลเลย จะเกิดปัญหาในการทำงานร่วมกันหรือไม่ พล.อ.สนั่น กล่าวว่า ตอนนี้ก็เป็นปัญหาอยู่แล้ว ในอนาคตคงไม่มีอะไร เมื่อก่อนตนก็เคยเอาพรรคประชากรไทย เข้ามาร่วมรัฐบาลชวน หลีกภัย 2 เหมือนกัน ก็เป็นงูเห่า ของพรรคประชากรไทย ที่มาร่วมรัฐบาล โดยไม่ได้มาหมดทั้งพรรค
เมื่อถามว่าที่ผ่านมา พล.ต.อ.ประชา และนายศราวุธ เพชรพนมพร อดีต ส.ส.อุดรธานี ลูกเขยของพล.ต.อ.ประชา
ก็ยังมีความสัมพันธ์ดีกับพรรคเพื่อไทย พล.ต.สนั่น กล่าวว่า "ก็ต้องแยกกันให้ออก เพราะเป็นความจำเป็นของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุดและเมื่อมันเกิดอย่างนี้ก็ต้องมีงูเห่า และตอนนี้งูเห่าเมืองไทยก็เหลือน้อยแล้ว และที่ผ่านมางูเห่าก็ดูเชื่องดี อบอุ่น"
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
