"ชาญชัย"กร้าวไม่สนอะไรจะเกิดขึ้นกับพผ. ลั่นขอยึดชาติ และปชช.เป็นที่ตั้ง ยกเหตุอดีตที่ผ่าน"ปชป."ก็เคยลงมติโหวตสวนเหมือนกัน ขอให้นายกฯตัดสิน
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน
กล่าวในรายการ"เก็บตกจากเนชั่น" ถึงกระแสข่าวที่ออกมาระบุว่ารมต.ของพรรคเพื่อแผ่นดินจะถูกปรับพ้นคณะรัฐมนตรี ว่า ตนยังไม่ได้มีการหารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แต่อย่างใด และที่สำคัญโทรศัพท์ของตนที่ใช้ประจำได้ลืมไว้ที่บ้านพักที่ต่างจังหวัด จึงทำให้ช่วงที่ผ่านมาไม่ได้พูดคุยกับใครเลย นอกจากในช่วงหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเสร็จสิ้นตนไม่มีเวลาว่างต้องทำงานให้กับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาระบุว่าจะมีการปรับรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดินออกจากการ่วมรัฐบาลนั้น ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่ทราบจริงๆ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีที่จะเป็นพิจารณาตัดสินใจ
"สำหรับกรณีปัญหาเรื่องการลงมติในการโหวตของส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดินในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ผมอยากจะชี้แจงว่า ทุกอย่างทางพรรคเพื่อแผ่นดินของว่าเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส. และที่สำคัญเรื่องดังกล่าวได้จบลงไปแล้ว เรื่องนี้ที่เกิดขึ้นก็เหมือนเหตุการณ์ในปี 2529 ซึ่งในตอนนั้นผมสังกัดอยู่ในพรรคกิจสังคม ในตอนนั้นพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองค์มนตรี ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น และมีพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคกิจสังคม เป็นพรรคร่วมรัฐบาล และในตอนนั้นพรรคฝ่ายค้านได้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ เลขาธิการพรรคกิจสังคม และในการลงมติพรรคประชาธิปัตย์ได้โหวตสวนในการอภิปรายในครั้งนั้น เพื่อต้องการให้พรรคกิจสังคมปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในเวลานั้นออก ดังนั้นผมจึงเห็นว่ามาตรฐานของพรรคการเมืองแต่ละพรรคควรจะมีด้วยกันทั้งนั้น อะไรก็ตามสิ่งที่เราควรจะทำเพื่อชาติ เพื่อประชาชน และนโยบายของพรรคเพื่อแผ่นดิน คือ เทิดราษฎร ราชบัลลังก์ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัติรย์ เราจะอยู่ตรงไหนก็ตาม เราได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ประชาชนทั้งประเทศดูโทรทัศน์มากที่สุดในการอภิปรายไม่ว่างในใจในครั้งนี้ ผมขอยืนยันว่าพรรคเพื่อแผ่นดิน จะทำงาน โดยเอาชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้ง " นายชาญชัย กล่าว
เมื่อถามว่า จากข่าวที่ออกในเวลานี้ มีกระแสข่าวออกมาว่ารัฐมนตรีของพรรคเพื่อผ่นดิน 3 กระทรวงจะต้องถูกปรับออก
นายชาญชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ก็แล้วแต่การพิจารณาของนายกฯ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผ่านมาเราก็ได้ร่วมทำง่านกันมาแล้ว อย่างที่ตนได้บอกไปแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์เองก็ถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ และถือว่าสถาบัน ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เองก็เคยโหวตลงคะแนนสวนเช่นกัน จนทำให้พรรคกิจสังคมต้องปรับครม.เหมือนกัน และนายกฯเปรมในตอนนั้น ก็ได้ให้ทำงานพรรคกิจสังคม และพรรคประชาธิปัตย์ทำงานร่วมกันต่อไป
เมื่อถามว่า การที่พูดเช่นนี้ หมายความว่าการปรับครม.ในครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะต้องปรับรัฐมนตรีที่ได้คะแนนน้อยออกใช่หรือไม่
นายชาญชัย กล่าวว่า ตนไม่มีสิทธิ์ที่จะไปเสนออะไรทั้งสิ้น แต่ตนมีสิทธิ์ที่จะทำในงานหน้าที่ของตน เพื่อประเทศชาติ และประชาชน ประชาชนหลายล้านครอบครัวที่ดูการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ พวกเขาก็มีคำตอบกันอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้เราเอาตรงนี้เป็นตัวตั้ง ดังนั้นอะไรจะเกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ เราจะต้องทำดีเพื่อผ่นดิน เพื่อชาติ และเพื่อประชาชน