"ออฟ-พงษ์พัฒน์"เปิดใจวาทะ"ไม่รักพ่อจงออกไป" ยันไม่เกี่ยวการเมือง คนไทยต่างสีได้ แต่"ในหลวง"ต้องสีเดียว หลังขึ้นเวทีประกาศรางวัล "นาฏราช" เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา "ออฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง" ก็ได้กล่าววาทะที่ทำให้ทั้งวงการบันเทิง และวงการการเมืองสั่นสะเทือนด้วยประโยคที่ว่า "...ถ้าเกลียดพ่อ ไม่รักพ่อแล้ว จงออกไปจากที่นี่ซะ เพราะที่นี่คือบ้านของพ่อ เพราะที่นี่คือแผ่นดินของพ่อ" ทำให้เกิดกระแสเสียงทั้งคนรักและคนชัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการโยงไปถึงว่า "ออฟ-พงษ์พัฒน์" มีนัยยะทางการเมืองในการออกมาพูด เพราะสายสัมพันธ์พี่ชายภรรยา (แดง-ธัญญา) เป็นส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ "ออฟ-พงษ์พัฒน์" ได้เปิดใจแบบหมดเปลือกกับ "มติชนออนไลน์" กับข่าวที่เกิดขึ้น ว่า ความจริงเรื่องนี้มันจบไแล้ว ไม่อยากจะพูดถึงอีก แต่ถ้าถามว่าตนเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ก็ต้องบอกว่าเกี่ยวข้องกับทุกพรรค แต่ละคนก็เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองทั้งนั้น เพราะเราต้องไปเลือกตั้งไปใช้สิทธิ ซึ่งก็เป็นสิทธิของแต่ละคนว่าจะเลือกพรรคไหน ใครชอบพรรคไหนก็เลือกพรรคนั้น อย่างเสื้อแดงก็อาจจะไม่จำเป็นต้องเลือกเพื่อไทยก็ได้ หรือคนเสื้อเหลืองก็อาจไม่จำเป็นต้องเลือกประชาธิปัตย์ก็ได้ จึงมองว่าคนทุกคนเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองทั้งนั้น
"อย่างส่วนตัวถ้าจะมองว่า พี่ชายภรรยาคือคุณแดงเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ถ้าจะมองอย่างนั้นก็ย่อมทำได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความส่วนตัวหรือตัวเองนั้นจะชื่นชอบพรรคนี้ เวลาไปใช้สิทธิก็อาจจะเลือกพรรคอื่นก็ได้ ซึ่งมันก็เป็นสิทธิของเรา แต่ถามว่าสิ่งที่พูดไปในวันนั้น ผมไม่ได้พูดถึงการเมืองหรือพรรคการเมือง แต่ผมพูดถึงในหลวง แล้วถามว่าในหลวงท่านทรงเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ ไม่มี ไม่ว่ากฎหมายใดก็เกี่ยวข้องด้วยไม่ได้ เพราะฉะนั้นยืนยันได้ว่าสิ่งที่พูดนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่ได้หวังผลให้พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคใดๆ ทั้งสิ้น"
ออฟ-พงษ์พัฒน์ กล่าวต่อว่า ถ้าจะว่าไปแล้วคนรอบข้างคนอื่นๆ ก็มีหลายคนที่เกี่ยวข้องกับพรรคไทยรักไทย แต่ตนเองก็ยังให้ความรักและเคารพเสมอ แล้วเราก็ไม่ได้เกลียดกัน สิ่งที่ตนเองพูดในงานวันนาฏราชก็ไม่เกี่ยวกับการเมือง ขอร้องว่าอย่าไปโยง ถ้าทำอย่างนั้นก็เหมือนกับเราได้ทำผิดไปที่ดึงเบื้องสูงลงมา
"วันนี้เราต้องยอมรับว่ามีการจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ เราปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้มีเหตุการณ์อย่างนี้ แต่ครั้งหนึ่งตนได้ทราบมาว่า ดร.สุเมธ (ตันติเวชกุล) ได้ยินในหลวงรับสั่งว่า ถ้าเราทำอะไรไม่ดีให้บอก เราพร้อมเปลี่ยนแปลง ทำให้ผมรู้สึกแย่มากว่าพระองค์ท่านทำให้พวกเรามามากมาย ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ ตลอดระยะเวลา 60 ปี ที่พระองค์ท่านทรงงาน แต่ก็มีบางคนบางพวกไม่ใส่ใจ ตรงจุดนี้ทำให้เป็นแรงฮึดที่ผมอยากจะออกมาพูดในวันนั้น ผมอยากจะออกมาทำอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องสถาบันที่รักของเรา"
ออฟ-พงษ์พัฒน์เปิดใจวาทะไม่รักพ่อจงออกไป
นักแสดงรุ่นใหญ่ กล่าวด้วยว่า กับการจาบจ้วงสถาบันตนไม่ต้องการให้ทุกคนอยู่นิ่งๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงนิ่งเฉย เราควรที่จะออกมาช่วยกันปกป้อง ไม่เฉพาะแค่ตนแต่ต้องทุกคนมาช่วยกัน
"ถามว่าพี่ดา (ดารณี กฤตบุญญาลัย) รักในหลวงไหม เสื้อแดงรักในหลวงไหม ถ้ารักก็มาช่วยกัน เพราะฉะนั้นมันไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง" ออฟ-พงษ์พัฒน์ กล่าวและว่า วันนั้นที่พูดไปก็ยอมรับว่ามีทั้งคนรัก คนเกลียด คนหมั่นไส้ก็มี แต่ก็ต้องทำ ต้องลุกออกมาทำ
เมื่อถามว่าปัจจุบันมีเหล่าศิลปินดารานักแสดงแบ่งเป็นสีต่างๆ ขึ้นเวทีกันคนละฝ่าย ในฐานะนักแสดงคนหนึ่งคิดว่าจะเป็นการสร้างความแตกแยกหรือไม่ นักแสดงและผู้กำกับ กล่าวว่า วันนี้คนบันเทิงก็หลากสีมีทั้งสีแดง สีเหลือง แต่นั่นคือประชาธิปไตย แม้จะต่างสีกันแต่เราทุกคนก็อยู่ในสังคมเดียวกันได้ อย่าทำร้ายกัน หากไม่พอใจจะประท้วงก็ให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย แต่ถ้าใครออกนอกกรอบทำผิดก็ให้ว่ากันไปตามกฏหมาย
"แต่เรื่องของพระมหากษัตริย์เราต้องสีเดียวกัน ผมเห็นด้วยที่ในสังคมจะมีหลากสี เพราะถ้าจะให้ทุกคนสีเดียวกัน จะมาบอกว่าคนไทยเราต้องสีเดียวกัน อันนี้ผมเห็นต่าง ถ้าทำอย่างนั้นมันก็ไม่ต่างจากเผด็จการ คือเราสีต่างได้แต่ก็ยังรักกันได้ อย่างเพื่อนนักแสดงบางคนก็รักคุณทักษิณ (ชินวัตร) บางคนก็รักคุณอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) บางคนก็รับคุณบรรหาร (ศิลปอาชา) เราก็ยังทำงานร่วมกันได้ ไม่ใช่ เฮ้! มึงไม่ใช่สีเดียวกันกู กูจะไม่ทำงานกับมึง อันนี้ไม่มี"
นักแสดงชื่อดัง กล่าวว่า ความแตกต่างตรงนี้เรามาแสดงออกผ่านการเลือกตั้งตามแนวทางประชาธิปไตย ถ้าเราชอบพรรคไหนเราก็เลือกเค้าไปทำงานในสภา ประท้วงได้เดือดร้อนก็ออกมา ตรงนี้ตนไม่ได้คัคค้าน และขอให้ทุกคนใช้สติแล้วดึงกลับมา บางทีมันอาจจะหลุดไปบ้าง มีโมโหมีโกรธบ้าง แต่เมื่อเย็นลงแล้วขอให้กลับมาอยู่ในสติ ไม่ว่ากัน
เมื่อถามถึงนักแสดงรุ่นใหญ่อีกคน "โกวิท วัฒนกุล" ที่ถูกกล่าวหาพร้อมกับลูกสาว ("มิ้น มิณฑิตา วัฒนกุล") ว่าเป็นพวกไม่จงรักภักดี ออฟ-พงษ์พัฒน์ กล่าวว่า "ผมเคยได้ยินว่าพี่เมาจะสร้างละครเทิดพระเกียรติพระเทพฯ นะ"
ต่อข้อถามว่า หลังจากเหตุกาณ์ในวันประกาศรางวัล "นาฏราช" มีข่าวว่าชีวิตถูกคุกคาม นักแสดงรุ่นใหญ่ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็เป็นปกติธรรมดา ในเมื่อวันนั้นเราได้พูดอะไรที่เป็นอิมแพ็คขนาดนั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนไม่พอใจ มีคนโกรธ ไม่เห็นด้วยมันก็มี แต่เราก็พยายามดำเนินชีวิตต่อไปอย่างปกติ อันนั้นเข้าใจเป็นเรื่องธรรมดา
"แต่สิ่งที่เราพูดเป็นเรื่องดี ไม่ได้พูดทำร้ายใคร การปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จากพวกที่จาบจ้วง ที่ทำลายสถาบัน เราทำความดีเพราะฉะนั้นไม่ได้รู้สึกไม่ดีที่ได้พูดไป แต่ก็ไม่ได้โกรธพวกที่จวบจ้วงนะ แต่อยากจะเรียนว่าให้ใช้สติแล้วกลับมาคิดทบทวนใหม่ดีกว่า อันนี้ต่างหากคือชัยชนะของประเทศเรา" นักแสดงแถวหน้า กล่าว