เผยโฉม4ผู้ต้องหาเผาเซ็นทรัลเวิร์ล

 

คมชัดลึก :รอง ผบช.น.เผยโฉม 4 ผู้ต้องหาตามที่ศาลอนุมัติออกหมายจับ "เผา-ลักทรัพย์" ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ส่วนหมายจับหัวหน้าการ์ด นปช.ผิดตาม พรก.ฉุกเฉิน แนะเจ้าของทรัพย์สินตรวจสอบที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน

           
ผู้ต้องหารายที่ 2
เป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ  เป็นชายฉกรรจ์ ลักษณะผอมสูง ตัดผมรองทรง สูงประมาณ 170 เซ็นติเมตร  อายุประมาณ 25 - 30 ปี  สวมเสื้อยืดสีดำ  กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบ  ในมือข้างขวาถือกระบอง เป็นภาพได้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห้างเช่นกัน  ผู้ต้องหารายที่ 3 เป็นชายไทยไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 35 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ  กางเกงขายาวสีดำ  ตัดผมรองทรง  ผิวคล้ำ  ร่วมกันทุบทำลายกระจกบริเวณโซนอีและเข้าไปลักทรัพย์วางเพลิงในห้างเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย    ผู้ต้องหารายที่ 4 เป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ ใส่เสื้อยืดสีดำ รองเท้าเตะ สวมกางเกงสีเข้มแบบสามส่วน สูงประมาณ 170 เซ็นติเมตร  รูปร่างท้วม อายุประมาณ 25 - 30 ปี  โดยผู้ต้องหาทั้งหมดมีพฤติการณ์เข้าไปทุบกระจกทำลายเข้าไปวางเพลิงลักทรัพย์ในห้างเซ็นทรัลเวิร์ล เหตุเกิดวันที่ 19 พ.ค.เวลา 14.30 น.

           
พล.ต.ต.สุเมธกล่าวต่อว่า  เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนได้ติดตมตรวจสอบภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดในจุดต่าง ๆ มีทั้งที่เห็นภาพชัดเจนและไม่ชัด


ซึ่งคนร้ายทั้งหมดนั้นเป็นกลุ่มคนเดียวกันมีพฤติการณ์เดียวกันและก่อเหตุในวันเวลาเดียวกัน ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนอื่นรวมถึงภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหารายอื่น ๆ ต่อไป  ก่อนหน้านี้วันที่ 19 พ.ค.พ.ต.ท.สุรกรณ์ นาคศิลป์  รอง ผกก.จร.สน.ยานนาวา ในฐานะผู้บังคับกองร้อยควบคุมฝูงชน กองบังคับการตำรวจนครบาล ได้นำกำลังตำรวจจำนวน 2 กองร้อยเข้าช่วยเหลือพนักงานในห้างเซ็นทรัลเวิ์รลขณะที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ 

           
“เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถนำรถน้ำเข้าไประงับเหตุได้ เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านในได้ยิงปืนและขว้างระเบิดออกมาเป็นระยะ ๆ  แต่นายตำรวจดังกล่าวได้แสดงความกล้าหาญนำกำลังตำรวจเสี่ยงภัยเข้าไปช่วยเหลือพนักงานออกมาได้ 417 คน และพบคนร้ายกำลังก่อเหตุลักทรัพย์สินภายในห้างดังกล่าวจึงทำการจับกุมไว้ได้ 9 คน พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ  กล้องวีดีโอขนาดเล็ก กล้องดีจิตอล นาฬิกาข้อมือทั้งชายและหญิง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คและเศษกระสุนปืนกลหนักชนิดเอ็ม 60 จำนวน 100 นัด นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวันดำเนินคดีแล้วข้อหา ปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธสงคราม ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาลผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวที่ศาลอาญากรุงเทพใต้“รอง ผบช.น.กล่าว  

          
พล.ต.ต.สุเมธกล่าวต่อว่า  หลังจากเหตุการณ์สงบ  ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ได้เข้าตรวจสอบภายในวัดปทุมวนารามอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม

พบทรัพย์สินที่ถูกขโมยมานำมาซุกซ่อนบริเวณใต้ฐานพระพุทธรูปเป็นจำนวนมากประกอบด้วย นาฬิกาข้อมือชายหญิงยี่ห้อต่าง ๆ จำนวน 40 กว่าเรือน กระเป๋าถือ เครื่องหนัง รองเท้าหนังยี่ห้อต่าง ๆ จำนวนมาก และจานรองแก้วชุดเครื่องหนังนำเข้าจากประเทศบราซิลอีกหลายชุด ตอนนี้กำลังตรวจสอบอยู่ว่าเป็นของที่นำมาจากร้านใดห้างใด จึงอยากประชาสัมพันธ์ไปยังเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวให้มาตรวจสอบทรัพย์สินที่หายไปตามรายการที่กล่าวข้างต้นได้ที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์