วันนี้( 31 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงคำอภิปรายของนายไชยยา พรหมมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย
และนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ว่า ในประเด็นแรก ที่มีการทักท้วงเรื่องสัญญาฯการถ่ายทอดช่อง 11 เรียนว่า แนวนโยบายของรบ.ชัดเจนว่า ให้มีการถ่ายทอดการอภิปราย ปัญหาที่เกิดขึ้นมีคนแจ้งมาว่า รับชมได้ ส่วนใหญ่ แต่ก็มีที่รับชมไม่ได้ 2 กรณีคือ เรื่องแรกคือ จานเดียวเทียมเรื่องการปรับเปลี่ยนการใช้ดาวเทียม และ เรื่องที่สอง เคเบิ้ล แต่ละท้องถิ่นที่จะดำเนินการ ไม่มีความพยายามที่จะสกัดกั้น ประชาชนอย่างแน่นอน
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ทั้งนายสุนัย และนายไชยยา คงทราบดีว่า ตนมีจุดยืนในการเปิดโอกาสให้ตรวจสอบเต็มที่ ส่วนเรื่องความโกรธแค้นไม่มี อยากให้ใช้เวลาสั้นๆ ทำความเข้าใจกับเพื่อนสมาชิก กับประชาชน ว่า แนวคิดรบ. กับการบริหารราชการเป็นอย่างไร มีการเปรียบเทียบเหตุการณ์วันที่ 14 ตุลาม พ.ศ.2516 วันที่ 16 ตุลาม 2519 วันที่ 17 พ.ค. 35 และแม้แต่ เหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 ทั้งนี้ ตนเติบโตมากับการเมืองด้วยทางของรัฐสภา ทราบดีว่าการใช้อำนาจรัฐต้องใช้ด้วยระมัดระวัง และไม่เชื่อว่า การใช้อำนาจด้วยกำลังจะแก้ปัญหาความเดือดร้อน ของปชช.ได้ วันนี้ก็ยังเชื่ออย่างนั้น และต้องย้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ว่า ตนและรัฐบาลไม่เคยมีแนวคิดและไม่เคยประกาศ ว่า คนเสื้อแดง หรือกลุ่มนปช.เป็นผู้ก่อการร้าย หรือเกี่ยวข้องกับกระบวนการล้มเจ้าทั้งหมด ไม่ใช่แนวคิดรบ. ตรงกันข้าม 2 เดือนของการชุมนุมที่ผ่านมา ย้ำเสมอ ว่า ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ที่มีเจตนามาชุมนุมโดยสงบ มีข้อเรียกร้องเรื่องปชต. แม้ศาลชี้ว่า การชุมนุมเกินเลยของเขตตาม รธน. ที่สงบ ปราศจากอาวุธ และไม่กระทบกระเทือนสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น รัฐบาลไม่ได้ตัดสินใจตามตัวเอง แต่ยึดถือตามคำสั่งของศาลมาโดยตลอด ขณะที่ศาลแพ่งชี้ว่า การสลายชุมนุมทำได้ แต่มาตรการกระทำได้ต้องจำเป็นและเหมาะสมกับสถานการณ์
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า แต่สิ่งที่รบ.ชุดนี้ กระทำแตกต่างจากเหตุการณ์ 7 ต.ค. 35 และ 7 ต.ค. 51 ไม่มีเจตนาไปสลายการชุมนุมที่เป็นพื้นที่ชุมนุมหลัก คำพูดที่คิดว่าเราไปสรรหาขึ้นมา โดยมีความเข้าใจว่า เป็นการสลายปราบปราม มันเป็นเรื่องการวางแนวทางในการปราบปรามหรือการสลาย เหตุการณ์ 10 เม.ย. 53 การดำเนินการขอคืนพื้นที่ ภาพที่เกิดขึ้น ว่า จนท. ปฏิบัติการทหารตั้งแต่บ่ายโมครึ่งจนถึงช่วยประมาณ 5โมงเย็น ไม่มีการสูญเสียชีวิต แต่ทันทีที่มีการยิงเอ็ม 79 มีการสูญเสียชีวิตมากขึ้น
หลังจากนั้นเป็นต้นมา โดยเฉพาะ เหตุการณ์กลางเดือนพ.ค.53 แนวทางการกระชับล้อมพื้นที่ ของรบ. เป็นการกดดันการชุมนุมโดนไม่เข้าไปสลายการชุมนุมแต่อย่างใด เหตุการณ์ 19 พ.ค. แม้มีการสูญเสียจำนวนมาก แต่ให้สังเกตว่า พื้นที่ชุมนุมหลัก ที่แยกราชประสงค์ ซึ่งมีเด็ก ผู้หญิง ไม่มีการสูญเสีย แต่กลับเกิดเหตุการณ์วุ่นวายอีกครั้งหลังจากผู้ชุมนุมประกาศยุติการชุมนุม และเกิดปัญหาการวางเพลิง การยิง และการใช้ความรุนแรง ประเด็นที่อยากเรียนว่า ทั้งหมด เป็นการปฏิบัติการ ซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ชี้แจงต่อไป