"ประวิตร" ไม่ห่วงฝ่ายค้านแฉคลิปสลายเสื้อแดงกลางสภาฯมั่นใจนายกฯชี้แจงได้ ยันเสียงแข็งทหารไม่ได้ยิง 6 ศพวัดปทุมฯ ด้าน "ปลัดกลาโหม" จี้สำนึก "ทักษิณ" เข้ามอบตัวข้อหาก่อการร้าย...
เมื่อวันที่ 31 พ.ค.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะนำคลิปเหตุการณ์ 19 พ.ค. 2553
ในการเข้ากระชับพื้นที่ของทหารมาอภิปรายในรัฐสภาว่า ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)ได้เตรียมข้อมูลให้นายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว และไม่ห่วงว่าฝ่ายค้านจะนำเรื่องดังกล่าวมาอภิปราย เพราะทุกอย่างเจ้าหน้าที่ได้ทำตามขั้นตอน ทำตามแผน เราไม่ได้ทำนอกเหนือแผนที่วางไว้ และไม่มีความคิดที่จะสลายการชุมุนม หากเราจะสลายการชุมนุมด้วยอาวุธคงไม่ใช้กำลังทหารมากขนาดนี้ ทั้งนี้ ไม่ห่วงว่าฝ่ายค้านจะนำเรื่องผู้เสียชีวิต 6 ศพ ในวัดปทุมวนาราม มาอภิปราย เพราะทหารไม่ได้ทำอะไร
พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกลาโหม กล่าวว่า เป็นหน้าที่ฝ่ายการเมืองต้องชี้แจง นายกฯพร้อมชี้แจง
แต่เป็นความลึกๆ ของนายกฯ ที่ฝ่ายค้านนำคลิปมาเปิดอาจมีการตัดต่อ ส่วนคลิปทางรัฐบาลส่วนใหญ่ได้รับจากสื่อไทยและต่างประเทศน่าจะใช้ตอบโต้ได้ อย่างไรก็ตาม เป็นความห่วงใยของกองทัพและทุกคนที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่ไขว้เขวของประชาชนคงต้องใช้โอกาสนี้ชี้แจงการทำงาน ศอฉ. เมื่อถามว่า เชื่อมั่นหรือไม่ข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปรายไม่ได้ปฏิบัตินอกเหนือจาก ภารกิจ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า การปฏิบัติการทหารสามารถชี้แจงได้ เพราะได้ปฏิบัติตามขั้นตอน ไม่ได้นำไปสู่การสลายฝูงชน ซึ่งมีการสั่งการจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.โดยตลอด ทั้งนี้ การอภิปรายครั้งนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลคิดว่าเป็นประโยชน์ในการใช้โอกาสนี้ ทำความเข้าใจในข้อมูลและข้อเท็จกับประชาชนว่า ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า กรณีผู้เสียชีวิต 6 ศพ กล่าวหาว่าทหารเป็นคนยิง พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่ฝ่ายค้านจะหยิบมาอภิปรายหรือไม่
แต่ ศอฉ.ได้พยายามค้นหาข้อเท็จจริงเรื่องนี้มาโดยตลอดว่าเกิดขึ้นจากใคร ซึ่งทางตำรวจและผู้ชุมนุมได้ให้ข้อมูล เป็นประโยชน์สามารถนำมาชี้แจงได้ว่าเป็นการปฏิบัติการฝ่ายไหน ส่วนที่ฝ่ายค้านบอกว่าเป็นการปฏิบัติการของทหาร ก็ต้องพิสูจน์กันต่อไปว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เราพร้อมพิสูจน์อยู่แล้ว เรื่องนี้ นายกฯได้บอกแล้วว่า ถ้าผิดพร้อมที่จะลาออกอยู่แล้ว แต่การปฏิบัติการจริงๆยืนยันว่าทหารไม่มีการสั่งการหรือ ศอฉ.ก็ไม่ได้สั่งการให้เข้าไปปฏิบัติการในพื้นที่วันปทุมวนาราม เมื่อถามว่า ศอฉ.ต้องตั้งวอร์รูม เพื่อติดตามการอภิปรายหรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งเป็นเรื่องของรัฐบาล เมื่อถามว่า ศอฉ.จะประชุมยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อหันมาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง หรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า เรื่องนี้มีการติดตามสถานการณ์ว่าควรจะต้องปรับลดสถานะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาเป็นพ.ร.บ.ความมั่นคงเมื่อไร
รมว.กลาโหมค้านแฉคลิปจี้แม้วมอบตัว
เมื่อถามว่า หลังประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวมีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความห่วงใยของทุกคน
แต่เราห่วงเรื่องการทำมาหากินของประชาชน จึงคิดว่าการควบคุมสถานการณ์น่าจะคุมได้ จึงประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว แต่หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นคงต้องกลับมาดูในรายละเอียดอีกครั้ง ก็สามารถที่จะประกาศเคอร์ฟิวใช้ได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ กอ.รมน. ยืนยันว่าพื้นที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 24 จังหวัดและ ทางเจ้าหน้าที่พร้อมควบคุมสถานการณ์ได้เมื่อถามว่า กองทัพห่วงเรื่องอะไรมากที่สุด พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า กองทัพห่วงเรื่องความปรองดองเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ประเทศชาติเสียหาย ค่อนข้างมากและต้องช่วยกันฟื้นฟูให้ประชาชนได้รับการดูแล ทั้งผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่สำคัญคือผลกระทบด้านจิตใจ จากสภาพที่ได้เห็นจะต้องได้รับการดูแลและเยียวยาอย่างเร็วที่สุด
เมื่อถามถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ถูกตั้งข้อหาก่อการร้ายไม่เข้ามอบตัว
พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัวคิดว่า เมื่อศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ต้องดำเนินการคงไม่ต้องพูดอะไรมาก หรือไม่รื้อฟื้นเรื่องเหล่านี้กลับขึ้นมา ดังนั้น ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ถ้าจับตัวได้ก็ว่าตามกฎหมาย หากจับไม่ได้ก็แล้วแต่ประเทศไหนจะให้ความร่วมมือหรือไม่ให้ความร่วมมือก็ เป็นเรื่องแต่ละประเทศ ซึ่งในเรื่องนี้เป็นเรื่องการกดดันสร้างความลำบากใจให้นายกฯพอสมควร เมื่อถามว่า คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีสำนึกที่จะมอบตัวสู้คดี พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ถ้าเป็นตนจะเข้ามอบตัวเพื่อสู้คดี แต่ในส่วนของพ.ต.ท.ทักษิณ ตนไม่ทราบ และไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะคิดได้อย่างตน
เมื่อถาม ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลังการสร้างความวุ่นวายทั้งหมดหรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า คงต้องรวบรวมประเมินดูถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเป็นมาอย่างไร แล้วที่สุดเป็นอย่างไร
ในส่วนตัวที่เราติดตามมาโดยตลอดเราคิดว่ามีส่วนร่วมแน่นอน แต่เมื่อถึงเวลา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ปฏิเสธ ทุกครั้งว่าไม่มีส่วนร่วม ทั้งที่มี คลิปและทวิตเตอร์เข้ามาปลุกระดมมวลชนคนเสื้อแดง แต่ถึงที่สุดแล้วก็ปฏิเสธ เพราะฉะนั้นในที่สุดเขาก็คงปฏิเสธความรับผิดชอบใดๆทั้งปวง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าถ้าประชาชนติดตามมาโดยตลอดคงได้เห็นถึงการกระทำของเขาเป็นอย่างไร จากเคยที่มีความรับผิดชอบแล้วในที่สุด ถามว่ารับผิดชอบไหมก็ปฏิเสธความรับผิดชอบและโยนความผิดให้คนอื่น ที่ตนพูดไม่ได้เป็นการทับถม พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงแต่อยากให้ประชาชนได้รับทราบถึงความรับผิดชอบของบุคคลคนนี้พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนที่ต้องมาศึกษาผลกระทบความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ประชาชนมีส่วนร่วมในการทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างไร ซึ่งประชาชนจะได้นำไปใช้เป็นวิจารณญาณในการตัดสินใจเลือกตั้งให้รอบคอบมาก ยิ่งขึ้น.