เพื่อไทยซัดธาริตเตรียมขอหมายจับนปช.รุ่น 3 หวังดิตเครดิส

เพื่อไทยซัด"ธาริต"เตรียมขอหมายจับนปช.รุ่น 3 หวังดิตเครดิส

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงเมื่อวันที่ 30 พ.ค.กรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีผู้ก่อการร้าย ออกมาระบุถึงความคืบหน้าในการขออนุมัติออกหมายจับแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รุ่นที่ 3 ในคดีก่อการร้ายเพิ่มเติมกว่า 20 คน ซี่งมีส.ส.พรรคเพื่อไทย อยู่ในข่ายการออกหมายจับครั้งนี้ด้วย ว่า การออกมาให้ข่าวของนายธาริต มองว่ามีนัยยะทางการเมือง ต้องการดิสเครดิตทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน และถือเป็นการข่มขู่คุกคาม ใช้กฎหมายพิเศษเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อไม่ให้พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ โดยเฉพาะในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 31 พ.ค.-1 มิ.ย.นี้ ไม่ให้เป็นไปโดยสะดวก เนื่องจากฝ่านค้านจะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ทั้งเรื่องการทุจริต และการสลายการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.– 19 พ.ค. จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 88 ราย บาดเจ็บเกือบ 2,000 ราย และโยงว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายเพื่อทำลายน้ำหนักในการอภิปรายของฝ่ายค้าน

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ทั้งหมดคือวิชามารของคนในรัฐบาลที่ใช้หน่วยงานของรัฐเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพราะรัฐบาลใช้หน่วยงานของรัฐกล่าวหาแกนนำ และกลุ่มผู้ชุมนุมว่ามีอาวุธสงครามร้ายแรงแต่จากเหตุสลายการชุมนุม ไม่พบอาวุธสงครามร้ายแรงอยู่กับผู้ชุมนุม แต่มีการจัดฉากว่าพบอาวุธร้ายแรงหลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมจบสิ้นลง หลังมีประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกจากเคหะสถานในยามวิกาล และพื้นที่ชุมนุมมีแต่เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อยู่ปฏิบัติงาน ดังนั้น ที่รัฐบาลและ ศอฉ.กล่าวหาว่าแกนนำ นปช.เป็นผู้ก่อการร้าย เป็นข้อกล่าวหาที่ยังไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน แต่กลับนำคดีก่อการร้ายเป็นการกล่าวหาที่นำเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง

              "ถ้าเปรียบเทียบกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีระเบิดคาร์บอมรายวัน ลอบยิงประชาชน และเจ้าหน้าที่เสียชีวิตกว่า 4,000 ราย รัฐบาลยังเรียกว่าผู้ก่อความไม่สงบ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ ใช้คดีก่อการร้ายเป็นประโยชน์ทางการเมือง แทนที่จะมองที่ข้อเท็จจริง ความขัดแย้งถึงได้บานปลาย ขยายวงกว้างไปยังต่างจังหวัด เพราะรัฐบาลขาดนิติรัฐและนิติธรรม จึงขอเรียกร้องให้ดีเอสไอ อย่าเป็นเครื่องมือทางการเมืองของรัฐบาล เพราะถ้าฟ้าเปลี่ยนสี ประชาชนกลับมามีอำนาจ  ข้อเท็จจริงถูกเปิดเผย  บุคคลและหน่วยงานที่ลุแก่อำนาจที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการให้ร้ายประชาชน จะถูกดำเนินคดีเสียเองตามกฎแห่งกรรม"