เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ซึ่งกำหนดให้เป็นงบประมาณขาดดุล วงเงินรายจ่าย 2,070,000 ล้านบาท เป็นวันที่สอง
กระทั่งเวลา 21.00 น. นายวิทยา บูรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงปิดอภิปราย ว่า
จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งพ.ร.ก.เงินกู้และพ.ร.บ. 4 แสนล้าน ซึ่งตรงนี้มีข้อสังเกตุว่า เงินที่เป็นรายได้จากการยึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ 4.6 หมื่นล้านบาทที่เอามารวมด้วยนั้น ถ้าผลคดีความออกมาพ.ต.ท.ทักษิณชนะ รัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร ถ้าเอาไปใช้ก่อนที่คดีจะยุติ เงินตรงนี้จะถือเป็นรายได้หรือไม่และจะเกิดอะไรขึ้น และการออกกฎหมายกู้เงินและการจัดงบครั้งนี้ก็ไร้ทิศทาง การกำหนดงบเพื่อใช้ในทางสังคมเช่นเบี้ยยังชีพมากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเรื่องอันตราย และการก่อหนี้ผูกพันโครงการต่างๆไว้จำนวนมากจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้เข้ามาทำหน้าที่ใหม่ หรืออยากจะเป็นรัฐบาลตลอดไป ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยไม่อาจเชื่อได้เลยว่า รัฐบาลจะจัดทำงบ 2554 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายวิทยากล่าวว่า
อยากบอกกับสภาแห่งนี้ว่าความเชื่อมั่นสำคัญที่สุด ถ้านายกฯต้องการสร้างความเชื่อมั่นทั้งการเมืองและการบริหาร ต้องตระหนักจากนี้ว่าที่จะบริหารบ้านเมืองต่อจากนี้โดยชอบหรือไม่ หากเกิดความผิดพลาดโดยการบริหารราชการแผ่นดินแล้วเกิดความผิด ที่มีการตั้งงบกลางไว้ไปชดเชยความสูญเสียในเรื่องที่เกิดขึ้นอาทิ อาคารต่างๆ ถ้าศาลบอกว่าผิด นายกฯต้องรับผิดชอบ แม้บรรยากาศที่เกิดขึ้นก่อนนี้จะไม่ใช่บรรยากาศที่เหมาะสมแก่การพิจารณางบประมาณ แนวนโยบายปรองดองสมานฉันท์ของรัฐบาลก็ไม่สามารถปฏิบัติได้เลย ความรู้สึกลึกๆคือการไม่ร่วมสังฆกรรมกับรัฐบาล แต่ด้วยสำนึกในสิ่งที่รับผิดชอบเราไม่สามารถปล่อยให้รัฐบาลดำเนินการฝ่ายเดียวได้ จึงเห็นร่วมกันว่าสมาชิกเพื่อไทยและฝ่ายค้านจะต้องทำงานให้เข้มข้นกับเงินทุกบาททุกสตางค์
"กรณ์"ย้อน 4.6 หมื่นล้านไม่ใช่เงินแม้ว แต่เป็นเงินปชช.คนไทยทั้งชาติ
จากนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ชี้แจงกรณีนายวิทยาระบุนำเงินยึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณมาใช้นั้น ว่า คำพิพากษาศาลระบุชัดว่า 4.6 หมื่นล้านบาทนั้น ไม่ใช่ของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นของประชาชนไทยทุกคน และกระทรวงการคลังจะรับผิดชอบดูแลเงินของประชาชนคนไทยทุกคนอย่างดีที่สุด ทุกบาทเป็นเงินประชาชนเท่ากัน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวอภิปรายสรุปว่า งบ 2554 เป็นการจัดทำงบเพื่อให้ประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เป้นงบที่นำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างแท้จริง ส่วนที่อภิปรายห่วงใยมานั้น ยืนยันว่าไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม แนวทางอภิปรายยางเรื่องนั้นคลาดเคลื่อน เช่นทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเพิ่มงบกลาโหมเป็นพิเศษ งบด้านเกษตรน้อยลง แต่ตรงข้าม ถ้าเปรียบเทียบกับรัฐบาลที่ท่านเคยอยู่ งบเกษตรกลับลดลง แต่งบการทหารเพิ่มขึ้น ส่วนที่พูดเรื่องความรับผืดชอบต่อเหตุการณ์การชุมนุมที่ผ่านมา ยืนยันว่ารัฐบาลยังยืนยันเดินตามแผนปรองดอง แต่ทุกครั้งที่ผ่านมากลับได้รับการปฏิเสธจากแกนนำ สุดท้ายความเสียหายที่เกิดขึ้นจะต้องมีการตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 31 มิ.ย.นี้ แต่ชัดเจนว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากคนที่มีอาวุธ จึงแปลกใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจากคนที่ทำให้เสียหาย แต่กลับมาเรียกร้องความรับผิดชอบและค่าเสียหายจากรัฐบาล ทั้งที่ผู้ที่ทำให้สูญเสียน่าจะรับผิดชอบโดยตรง ซึ่งเรื่องนี้จะมีการดำเนินการต่อไป
“การบังคับใช้กฎหมายเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษษบ้านเมือง ส่วนความคิดเห็นที่แตกต่างของประชาชน เป็นเรื่องที่เราต้องแก้ไขต่อไป งบประมาณครั้งนี้ยังสามารถหรับเปลี่ยนได้ในชั้นกรรมาธิการ ยืนยันว่างบประมาณฉบับนี้ จะช่วยให้เราเดินหน้าประเทศไทยได้”นายกฯกล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
