“ประวิตร”ลั่นป้องสไนเปอร์เด็ดหัวผู้นำ

 

คมชัดลึก :“ประวิตร” ลั่นพร้อมป้อง“สไนเปอร์”เด็ดหัวผู้นำ ยังไม่เลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หวั่นแดงป่วนซ้ำ เผย ผบ.เหล่าทัพ พร้อมหนุนล่าตัว “ทักษิณ” กลับไทย สั่งหน่วยข่าวจับตา “ก่อการร้าย” เคลื่อนไหว ยันกองทัพเดินหน้าสร้างปรองดอง


เมื่อถามถึงการยกเลิกเคอร์ฟิวนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับศอฉ.ว่าจะประเมินสถานการณ์ว่า ในพื้นที่ กทม.ปริมณฑล และต่างจังหวัด

มีความเรียบร้อยขนาดไหน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งต้องมีการพิจารณาร่วมกันกับหลายฝ่าย เมื่อถามว่า หากยกเลิกเคอร์ฟิวจะส่งผลกระทบต่อการจับกุมผู้ก่อการร้ายหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้ายกเลิกก็ยกเลิกแค่เคอร์ฟิว แต่ยังไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การดำเนินการจับกุมผู้ก่อการร้าย เจ้าหน้าที่ดำเนินการอยู่ และทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันในการติดตามจับกุมตามหมายจับ ที่ทาง ศอฉ.ได้ดำเนินการไว้ อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งเราจะต้องพยายามจับกุมให้ได้


เมื่อถามว่า การข่าวมีการประเมินถึงกลุ่มก่อการร้ายที่แฝงตัวใน กทม.หรือไม่

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องมีการติดตามและความเคลื่อนไหวของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธต่างๆ ซึ่งทุกหน่วยข่าวจะเร่งดำเนินการติดตามกลุ่มคนเหล่านี้เพื่อทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยและเกิดความปรองดองของคนในชาติ เมื่อถามถึงกรณีที่หลายคนเป็นห่วงเกรงว่า กลุ่มก่อการร้ายจะใช้อาวุธสงครามสไนเปอร์สังหารผู้นำ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่หน่วยงานด้านความมั่นคงเป็นห่วงและต้องดูแลป้องกันเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยภายในประเทศ ซึ่งน่าจบสิ้นลงไปได้แล้ว อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงอย่างชัดเจนแล้วว่า เราต้องแยกแยะ อันไหนเป็นกองกำลังติดอาวุธที่ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย หรือประชาชนที่มาเรียกร้องประชาธิปไตยและไม่ได้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย ทั้งนี้เชื่อว่า คงจะไม่เป็นปัญหาสะสม แม้จะมีข่าวว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมจะชุมนุมอีกครั้ง หากทุกฝ่ายเข้าใจและเป็นคนไทยด้วยกันก็คงจะอยู่ร่วมกันได้


เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ข้อหาก่อการร้าย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า

เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทสกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และอัยการสูงสุดที่จะต้องดำเนินการในการประสานงานติดตามจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งหากมีการขอความร่วมมือมายังกองทัพทางกระทรวงกลาโหมและผบ.เหล่าทัพพร้อมจะให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย


เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยเป็นเพราะไม่ยอมรับกติกาใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องทำให้เป็นไปตามกติกา กฎหมาย และรัฐธรรมนูญ

หากไม่เป็นไปตามกติกาก็ไม่ไหว จะให้ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้ จะต้องมาพูดคุยกันเท่านั้น ส่วนเรื่องการปรับเปลี่ยนทีมรักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีนั้น ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะต้องพิจารณาในการระวังป้องกัน ส่วนการเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับนายกรัฐมนตรี มีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของบุคคลสำคัญ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์