จ่อออกหมายจับตัวการเผาเมืองเพิ่ม-“ไอ้ตู่” ให้ปากคำพรุ่งนี้

“ธาริต” เผย ดีเอสไอรับคดีก่อการร้ายมาแล้ว 116 คดี ยังมีเกิดขึ้นต่างจังหวัดทยอยเข้ามาเพิ่มอีก ระบุ ที่ประชุม 13 หน่วยงาน มีมติเอกฉันท์ให้ส่งเรื่องญาติผู้ตายเหตุปะทะ 10 เมษา ร้องทุกข์กล่าวโทษ “มาร์ค-เทือก” ให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ มั่นใจหลักฐานขอหมายจับ “แม้ว” ก่อการร้าย หากศาลอนุมัติจะตามมาดำเนินคดีให้ได้ จ่อออกหมายจับตัวการ-ผู้หนุนก่อการร้ายชุด 3 ชี้ “ไอ้ตู่” เข้าให้ปากคำต่อดีเอสไอพรุ่งนี้
       
       วันนี้ (24 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แถลงข่าวภายหลังประชุมตัวแทน 13 หน่วยงาน เหตุการณ์ทหารปะทะผู้ชุมนุม นปช.ทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ว่า ได้ประชุมคณะพนักงานสอบชุดใหญ่ เพื่อสรุปความคืบหน้าคดีและหารืออุปสรรคการทำงาน โดยที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้ส่งเรื่องกรณีญาติผู้ตายมาร้องทุกข์กล่าวโทษนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่งคง ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ กรณีเหตุการณ์รัฐบาลขอคืนพื้นที่ราชดำเนิน บริเวณแยกคอกวัว จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ที่ดีเอสไอ 1 เรื่อง ที่กองปราบปราม 6 เรื่อง ทั้งหมดจะได้รวบรวมส่ง ป.ป.ช.
       
       นายธาริต กล่าวต่อไปว่า หลังจากการชุมนุม นปช.ยุติแล้ว หากเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้น โดยที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องคดีก่อการร้ายก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกี่ยวเนื่องเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้น เช่น มีการวางเพลิงเผาทรัพย์ แต่เป็นเรื่องขัดแย้งส่วนตัว ก็จะไม่เกี่ยวกับคดีพิเศษ แต่ถ้าพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมก็จะเป็นคดีพิเศษที่ดีเอสไอต้องรับผิดชอบทั้งสิ้น สำหรับคดีก่อการร้ายขณะนี้ สรุปว่า ดีเอสไอรับมาแล้วทั้งหมด 116 คดี แต่ยังมีคดีที่เกิดขึ้นในต่างจังหวัดทยอยเข้ามาเพิ่มเติมอีก
       
       ส่วนเรื่องการห้ามบุคคลและนิติบุคคลต่างๆ เกือบ 200 รายชื่อ ทำธุรกรรมทางการเงินนั้น เป็นเรื่องของ ศอฉ.โดยดีเอสไอ ปปง., ป.ป.ส.และสรรพากร เป็นเพียงเจ้าหน้าที่สอบสวนพยานหลักฐานและประมวลเรื่อง หลังจากทางธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ส่งรายละเอียดการทำธุรกรรมทางการเงินย้อนหลัง 9 เดือนมาให้ ซึ่งทั้ง 4 หน่วยงานจะประสานร่วมมือกันทำงาน
       
       มั่นใจหลักฐานขอหมายจับ “แม้ว” ก่อการร้าย
       ต่อข้อถามว่า วันพรุ่งนี้มั่นใจหรือไม่ ว่า ศาลจะอนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ข้อหาผู้ก่อการร้าย นายธาริต กล่าวว่า เรามั่นใจในพยานหลักฐานที่ดำเนินการไป แต่จะศาลจะอนุมัติออกหมายจับข้อหาผู้ก่อการร้ายในราชอาณาจักร หรือไม่เป็นดุลพินิจของศาล แต่หากศาลอนุมัติก็จะดำเนินการเพื่อให้ได้ผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดี โดยจะประสานงานกับสำนักงานอัยการสูงสุดและเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ
       
       เมื่อถามว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายแล้ว เกรงว่า จะเกิดแรงกระเพื่อมจากผู้ชุมนุม นปช.หรือไม่
       
       นายธาริต กล่าวต่อว่า หากเกิดความไม่เรียบร้อยขึ้นก็เป็นเรื่องของ ศอฉ.ที่จะดำเนินการรับผิดชอบ ส่วนดีเอสไอก็จะทำหน้าที่ตามปกติ
       
       จ่อขอหมายจับแก๊ง นปช.ก่อการร้ายชุดที่ 3
       นายธาริต กล่าวต่อไปว่า สัปดาห์นี้ดีเอสไอจะขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ชุดที่ 3 โดยเป็นแกนนำ นปช.ระดับถัดไป โดยจะมีทั้งตัวการและผู้สนับสนุนการก่อการร้าย ส่วนแกนนำนปช.ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อการร้ายเรียบร้อยแล้ว โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ
       
       “ไอ้ตู่” ให้ปากคำดีเอสไอพรุ่งนี้บ่ายโมง
       ส่วนกรณีของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ที่ถูกจับกุมข้อหาก่อการร้าย แต่ได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากเป็น ส.ส.และมีเอกสิทธิ์ทางการเมืองคุ้มครองนั้น ล่าสุด ได้รับการติดต่อจาก นายคารม พลทะกลาง ทนายความ ว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะมาให้ปากคำชี้แจงข้อกล่าวหากับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.) เวลา 13.30 น.