คมชัดลึก :นายก"อภิสิทธิ์”สั่งหน่วยงานมั่นคงจับตาการเคลื่อนไหวใต้ดินหลังม็อบยุติ พร้อมขยายเวลาประชุมวิสามัญ เพื่อให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ และขอให้ปัญหากลับมาสู่สภา
(24พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการก่อจราจลของกลุ่ม นปช.ที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจ
และยังมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ว่า ความปลอดภัยและความมั่นคงเป็นสิ่งที่เรามีมาตรการรองรับอยู่ ศอฉ.จะระมัดระวังการดำเนินการต่างๆเพื่อให้การกลับคืนสู่สภาวะปกติเป็นไปอย่างราบรื่น ตอนนี้จะเห็นว่าการประกาศเคอร์ฟิวจะร่นเวลาลงมาและประเมินรายพื้นที่ไป ตนให้นโยบายไปแล้วว่า การประกาศครั้งต่อไปจะประกาศเป็นพื้นที่ๆไป ส่วนข้อจำกัดอื่นๆที่ออกตามกฎหมายพิเศษจะประเมินเป็นระยะๆเช่นกัน เมื่อถามว่า เป็นไปได้ที่จะยกเลิกการประกาศเคอร์ฟิว นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้ให้ทุกจังหวัดประเมินสถานการณ์เข้ามา หากจังหวัดใดเห็นว่าเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติเเล้วก็เสนอให้ศอฉ.พิจารณา
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า
หลังการสลายการชุมนุมของนปช.นั้นจะกลายเป็นสงครามกองโจร นายกฯ กล่าวว่า ขอย้ำว่าไม่มีการใช้คำว่า สลายการชุมนุม ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ไม่มีการเข้าไปสลายหรือปราบปราม ส่วนการสลายและยุติการชุมนุมนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่มีการเข้าไปในแยกสารสิน ผู้ชุมนุมจึงตัดสินใจสลายและยุติการชุมนุมไปเองและพูดว่าไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสียและเป็นเรื่องที่ดี แต่ผลกระทบที่ตามมาหลังจากนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งและเป็นเรื่องที่กระบวนการทางกฎหมายและยุติธรรมต้องเดินอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อถามว่าหากมีสงครามกองโจรเกิดขึ้นจริง รัฐบาลเตรียมการไว้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงต้องทำงานหนักและต่อเนื่อง
โดยเฉพาะด้านการข่าวแต่สิ่งที่จะช่วยได้มากสุดคือการให้ข้อมูลด้วยความเป็นจริง ตนขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนด้วยเพราะมีความสำคัญมากที่สุด อะไรที่ยังมีปัญหาว่า เป็นข้อเท็จจริงหรือไม่และยังมีข้อมูลที่แตกต่างก็ต้องค้นหาความจริงกัน หากมีการปล่อยข่าวและนำข้อมูลที่บิดเบือนไปเผยแพร่จะทำให้สถานการณ์ลุกลามได้ จึงขอความร่วมมือตรงนี้
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่า จะมีการเคลื่อนไหวใต้ดินเเล้ว
นายกฯ กล่าวว่า ประชาชนจำนวนมากมีความกังวล รัฐบาลจึงต้องติดตามแบบใกล้ชิดโดยเฉพาะการทำความเข้าใจกับประชาชนทุกพื้นที่กับสิ่งต่างที่ๆเกิดขึ้น เมื่อถามว่า นายกฯจะลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนด้วยตัวเองหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “เราและทุกคนต้องพยายามที่จะเข้าไป”
“มาร์ค”สั่งจับตาการเคลื่อนไหวใต้ดิน
เมื่อถามว่า ประเทศไทยผ่านเหตุการณ์ในขั้นนี้แล้วสะท้อนว่า หากอดีตนายกฯไม่หยุด ประเทศไทยจะไม่มีวันสงบ
นายกฯ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องทำให้บ้านเมืองก้าวพ้นปัญหาที่ตกค้างอยู่ พ.ต.ท.ทักษิณหรือใครก็ตาม อาจมีเป้าหมาย มันเป็นเรื่องที่พวกเราต้องมาดูว่าเป้าหมายดังกล่าวหากเสียหายกับประเทศต้องร่วมมือกันในการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น
เมื่อถามว่าหากปัญหาย้อนกลับไปเหมือนช่วงเม.ย. 2552 จะทำอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าไม่มีใครอยากเห็นเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
และต้องตั้งคำถามอย่างจริงจังว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นใครได้ประโยชน์ ตนมองไม่เห็นว่าใครจะได้ประโยชน์ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นใด มีแต่ความเสียหายและแตกแยก ตนไม่คิดว่าคนที่ทำในสิ่งนี้จะมีเป้าหมายที่จะได้บางสิ่งบางอย่าง ซึ่งก็ไม่ได้ เพราะสังคมส่วนใหญ่รับไม่ได้กับลักษณะความรุนแรงที่ใช้ เมื่อถามว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มันจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ เป็นหน้าที่ของรัฐและอยากให้ประชาชนร่วมมือในการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น เมื่อถามว่าสิ่งสำคัญเร่งด่วนที่ต้องจัดการคืออะไร นายกฯ กล่าวว่า ตนคิดว่าจะเลือกทางใดทางหนึ่งไม่ได้ ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเอง กระบวนการยุติธรมรต้องเร่งดำเนินการและการฟื้นฟูก็ต้องทำต่อ
เมื่อถามว่า วันนี้มีข้อกังขาว่า ตำรวจไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง แล้วจะต้องปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่
เพราะปล่อยให้มีการเผาศาลากลางจังหวัด นายกฯ กล่าวว่า เวลาที่มีกรณีเฉพาะก็ต้องสอบข้อเท็จจริงและหลังจากนี้ภาพรวมทั้งหมดในสองเดือนที่ผ่านมา จุดใดที่จำเป็นต้องปฏิรูปก็ต้องทำ ตนขอให้เหตุการณ์กลับสู่ภาวะที่บริหารจัดการตามปกติได้ก่อนและจะประเมินระบบ ไม่ใช่เฉพาะรายบุคคล
เมื่อถามว่านายกฯคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลบ้างหรือไม่ในเรื่องแผนปรองดอง นายกฯ กล่าวว่า คุยบ้างแล้ว ทราบว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะพบปะกัน และครม.ได้พูดถึงบทบาทด้านแผนฟื้นฟูและการมีส่วนร่วมที่จะช่วยกันและให้ความสำคัญมากขึ้นที่ตนเน้นรายละเอียดไปแล้ว
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจฯแล้ว นายกฯ กล่าวว่า เบื้องต้นต้องดูว่ามีการยื่นหรือไม่
หากมีการยื่นมา ประธานสภาต้องตรวจสอบญัตตินี้ หากส่งมารัฐบาลจะดำเนินการตามกระบวนการ เมื่อถามว่าจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญฯเพิ่มอีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องดูก่อน หากยื่นญัตติและประธานตรวจสอบแล้วว่าเป็นเช่นใด แต่ในใจของตนนั้นคิดว่าหากจะขยายการประชุมวิสามัญออกไปอีกก็ทำได้
เมื่อถามว่าการยื่นญัตติครั้งนี้คู่ขนานการเคลื่อนไหวใต้ดินนอกสภาด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า หากมีการอภิปรายฯตนอยากให้ทุกอย่างกลับมาอยู่ในสภา
อย่านำสภาเป็นเครื่องมือไปใช้ในการทำให้เกิดการเคลื่อนไหวใต้ดินคู่ขนานหรือความวุ่นวาย หากเปิดประชุมแล้วก็ขอให้ทุกอย่างกลับมาอยู่ที่สภา เมื่อถามว่าวันนี้สองกระบวนการสอดประสานคือ เคลื่อนไหวนอกสภาแล้วล้มเหลว การเคลื่อนไหวจึงกลับมาอยู่ในสภาอีกครั้ง นายกฯ กล่าวว่า อยู่ที่ข้อเท็จจริง และต้องมองการกระทำของแต่ละคนว่า ใครที่ใช้บทบาทและอำนาจของตัวเองในลักษณะที่มีส่วนทำร้ายบ้านเมืองนั้นต้องรับผิดชอบ