10เรื่องโกหกของ ทักษิณ ชินวัตร

 จับ 10 โกหกทักษิณ "ฉันจะทำ" สุดท้ายทุกอย่างมุ่งผลประโยชน์ตัวเอง?
       
       จับโกหก "10 โครงการใหญ่" ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศจะทำ หลังโซซัดโซเซพเนจรอยู่ต่างประเทศ ทุกโครงการดูดี-เพื่อสังคม แต่สรุปท้ายที่สุดแล้วทุกโครงการกลับมุ่งสร้างภาพลักษณ์-ผลประโยชน์เข้า กระเป๋า ขณะที่ยิงปืนนัดเดียวกันนี้ยังส่งผลดีต่อคะแนนนิยมในภาคอีสาน-เหนือ ฐานกำลังสำคัญกลุ่มคนเสื้อแดงเต็มๆ
       
       "ฉันจะกลับมาใหม่ ให้ชาวไทยจงได้โปรดรอ ต้องมีสักวันที่ฉันจะกลับมาถึง เธอคือแรงดึก เคยซาบซึ้งน้ำตาคลอ ฉันจะอดทนกับคำคนที่บ่นด่าทอ เชิญเหยียบย่ำให้พอ จะรอจนฟ้าเปลี่ยนสี กลายเป็นคนต้องพเนจร โยกย้ายที่นอนดั่งผู้ร้ายหลบหนี"
       
       เพลง "ฉันจะกลับมา" ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาคร่ำครวญในวันครบรอบวันเกิดอายุ 60 ปี ในวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น ฟังดูแล้วแม้จะดูน่าสงสารจับใจ แต่เขาก็ยังเป็นคนที่สังคมตั้งข้อสังเกตอยู่ตลอดเวลาว่าจะทำอะไรเพื่อ ประเทศชาติและสังคมโดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงจริงหรือ?
       
       นี่คือปริศนาที่ต้องหาคำตอบและเป็นที่มาของการประมวลเหตุการณ์คำให้ สัมภาษณ์และสิ่งที่เกิดขึ้น ของ พ.ต.ท.ทักษิณ หลังจากที่ต้องระหกระเหินไปอยู่ต่างประเทศว่าทุกอย่างเกิดขึ้นหรือเป็น เพียงลมปากเท่านั้น
       
       1.เลิกเล่นการเมือง ผันตัวเป็นอาจารย์
       
       เริ่มแรก หลังถูกรัฐประหารไม่นาน พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศผ่านสื่อหลายแขนงว่านับแต่ตอนนี้ เขาจะเลิกเล่นการเมือง และจะผันตัวเป็นเพียงอาจารย์สอนหนังสือ และบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม
       
       คำกล่าวนี้ไม่สามารถทำได้จริง เพราะ แม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคนใกล้ชิด จะออกมาแถลงข่าวว่าได้รับเชิญเป็นศาสตราจารย์พิเศษ และสอนในวิชาอุตสาหกรรมประชาชนที่มหาวิทยาลัย ทากุโชกุ แต่ภายหลังพบว่า ประเทศญี่ปุ่นได้ขอเลิกการสอนดังกล่าว และไม่ให้ visa พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากเป็นบุคคลที่ติดคดีอาญา 2 ปี อีกทั้งที่กล่าวว่าจะเลิกเล่นการเมืองก็ไม่จริง เพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณมีท่าทีในการเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองภายในประเทศไทยอย่าง ต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหตุการณ์เสื้อแดงเผาเมืองช่วงเมษายน 2552 ที่เขาได้โฟนอินมาเพื่อให้กำลังใจ และสนับสนุนการกระทำดังกล่าว
       
       2.ซื้อสโมสรแมนเชตเตอร์ซิตี้ เพื่อผลักดันวงการกีฬาเอเชีย
       
       ช่วงกลางเดือนมีนาคม 2550 พ.ต.ท.ทักษิณได้เข้าซื้อสโมสรแมนเชตเตอร์ซิตี้ ของประเทศอังกฤษ ในราคา 81.6 ล้านปอนด์ หรือ 5,700 ล้านบาท ขณะที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศอังกฤษ เพื่อมุ่งผลักดันให้เป็นแบรนด์เอเชีย และหวังสร้างเยาวชนเอเชียสู่วงการฟุตบอลโลก
       
       ซื้อจริง แต่ภายหลังได้ขายให้กลุ่มทุนอาดูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป ฟอร์ ดีเวลลอปเมนท์ ด้วยกำไรกว่า3 พันล้านบาท คือเข้าซื้อด้วยราคาสูงถึง 200 ล้านปอนด์ ภายหลังมีการโยงความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนื่องจากประธานกลุ่มบริษัทยูไนเต็ดฯ คือ ชีค แมนซูร์ บิน ซายัด อัล เนห์ยาน (Sheikh Mansour bin Zayed Al Nahyan) เป็นบุตรชายของสุลต่านแห่งอาบูดาบี และมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการฟอกเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ภายหลังประเทศอังกฤษได้ตรวจสอบการซื้อขายดังกล่าว และอายัดทรัพย์สิน พ.ต.ท.ทักษิณกว่า 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำการสอบที่มาของเงิน
        
        3.เปิดตัวหนังสือภาษาจีน "ทักษิณ 24 ชม."
       
       20 กรกฎาคม 2550 พ.ต.ท.ทักษิณได้เปิดตัวหนังสือภาษาจีน ชื่อ 'ทักษิณ 24 ชั่วโมง' ซึ่งเรียบเรียงโดยนักข่าวจีนที่สนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มีเนื้อหาเกี่ยวกับอัตชีวประวัติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งแต่ประวัติการเข้ารับราชการ การบริหารบ้านเมือง วิสัยทัศน์ และเหตุการณ์รัฐประหาร โดยทั้งหมดบรรยายเป็นภาษาจีน และหากขายดีจะแปลเป็นภาษาอังกฤษและไทย
       
       เนื่องจากหนังสือเล่มนี้มีบางส่วนระบุไว้ว่า จีนเป็นประเทศแรกที่จะขอลี้ภัยทางการเมือง หนังสือเล่มนี้จึงได้รับการมองว่าเป็นเพียงการสร้างภาพลักษณ์ให้พ.ต.ท. ทักษิณดูดีในประเทศจีน แต่เนื่องจากจีนชัดเจนว่าจะไม่ให้ใครใช้ประเทศจีนเป็นฐานในการเคลื่อนไหว ทางการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณจึงต้องหยุดความเคลื่อนไหวดังกล่าว อีกทั้งไม่มีการแปลหนังสือเล่มนี้เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยใดๆ
       
       4.ตั้งมูลนิธิสร้างอนาคตเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
       
       17 พ.ย.2551 พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศตั้งมูลนิธิสร้างอนาคตเพื่อชีวิตที่ดีกว่า หรือ Building a Better Future Foundation และทำเว็บไซต์ www.buildingbetterfuture.org โดยพ.ต.ท.ทักษิณนั่งเป็นประธานมูลนิธิด้วยตัวเอง โครงการนี้ส่งเสริมให้นักธุรกิจภูมิภาคเอเชียส่งโครงการเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณพิจารณาและให้การสนับสนุนเงินทุน และเชื่อมโยงกับมูลนิธิไทยคม
       
       โครงการนี้มีการเปิดตัวจริง แต่ไม่มีข่าวว่านักธุรกิจเอเชียรายใดให้ความสนใจ อีกทั้งรายชื่อคณะกรรมการ 12 คนก็ไม่มีรายชื่อที่ชัดเจน มีแต่ นายแซม มูน (Sam Moon) มีข้อสังเกตว่านายแซม มูนคนนี้อาจเป็นหนึ่งในนักประชาสัมพันธ์ นักสร้างภาพที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้จ้างมาเป็นพิเศษเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองหลังเหตุการณ์ 19 กันยายน 2549
       
       5.ลงทุนประเทศต่างๆ หาโอกาสทางการค้า
       
       
       หลายครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศในการโฟนอินกลับมาประเทศไทยว่าตนเองได้ไปลงทุนประเทศต่างๆ เพื่อยืนยันว่ายังเป็นนักธุรกิจที่มีรายได้ และประกาศว่าเป็นการหาช่องทางทำมาหากินให้คนไทย ทั้งการลงทุนขุดทองที่ดูไบ การลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านที่ประเทศฟิจิ การเข้าซื้อเกาะมอนเตเนโกร การลงทุนในประเทศนิการากัว ฯลฯ
       
       โครงการนี้ท้ายที่สุดแล้วถูกมองว่าไม่ได้เป็นการเปิดทางให้คนไทยไป ทำมาหากินในประเทศต่างๆ แต่การลงทุนดังกล่าวมีเบื้องหลังที่พ.ต.ท.ทักษิณใช้เป็นข้อต่อรองในการลี้ ภัยทางการเมืองและเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่ถูกส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับ ประเทศไทยเท่านั้น โดยเฉพาะการลงทุนในนิการากัว ที่พ.ต.ท.ทักษิณได้พาสปอร์ตพลเมืองมาใช้เดินทางไปประเทศต่างๆ และล่าสุดที่ฟิจิ ที่สื่อท้องถิ่นรายงานชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องการแค่สัญญาไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดนเท่านั้น เช่นเดียวกับการประกาศในการโฟนอินถึงคนเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่ที่ท้องสนาม หลวงในวันที่ 28 กรกฎาคม 2552 ว่า เป็นโรคเหงา และอยากให้คนไทยไปทำเหมืองเพชรที่แอฟริกา และดูลู่ทางไว้ให้แล้ว โอกาสเป็นจริงจึงยาก
       
       6. สมานฉันท์
       
       เกือบทุกครั้งที่มีการโฟนอิน พ.ต.ท.ทักษิณ เสนอแนวคิดในการสมานฉันท์เพื่อความปรองดองในชาติไทย ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2550,มีนาคม 2552 โดยให้ทุกฝ่ายสมานฉันท์
       
       แต่พฤติกรรม พ.ต.ท.ทักษิณออกมาในทิศทางตรงกันข้าม เพราะพยายามสร้างความแตกแยกในสังคมไทยให้มากขึ้น โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์แดงเดือด ที่คนเสื้อแดงได้บุกโรงแรมที่พัทยาเพื่อล้มประชุมอาเซียนซัมมิท และเผาเมือง โดยพ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้าขอบคุณคนเสื้อแดงที่สู้เพื่อความถูกต้อง และสนับสนุนให้กลุ่มคนเสื้อแดงสู้ต่อไป ขณะเดียวกันการสมานฉันท์ถูกมองว่าท้ายที่สุดแล้วเป็นเพียงเกมล้มรัฐธรรมนูญ 2550 เพื่อประโยชน์ในการหลุดคดีความอาญาของตัวเอง
       
       7.แก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ยากจน ให้คนอีสาน
       
       ส่วนเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินในการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดสกลนครและศรีสะเกษ ช่วงวันที่ 28 มิถุนายน 2552 ว่า พร้อมที่จะกลับมาทำงานรับใช้ประเทศชาติ และพร้อมแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหาประชาชน ปัญหายาเสพติด ปัญหาหนี้สิน และปัญหาประเทศเพื่อนบ้าน
       
       "ผมพร้อมจะกลับไปทำงานรับใช้ประเทศชาติ เพราะยังมีประโยชน์อยู่ อายุ 60 ยังทำอะไรได้อีกเยอะ อย่าปล่อยให้แห้งตายกลางทะเลทรายแบบนี้"
       
       การประกาศครั้งนี้ถูกมองว่าเอาบุญเก่ามาประกาศเพื่อประโยชน์ในการ เลือกตั้งซ่อมเท่านั้น เช่นเดียวกับเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2552 ที่กล่าวฝากผ่าน สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย โอกาสไปเยี่ยมที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยให้ความหวังคนหาเช้ากินค่ำในภาคอิสาน เหนือ และกลาง ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย
       
       8. ปลูกบ้าน-ออนแอร์ทุกวันจันทร์ที่อุดร
       
       15 กรกฎาคม 2552 พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินผ่านสถานีวิทยุคนรักอุดร FM 97.5 ที่จังหวัดอุดรธานี บนเวทีปราศรัย 'รวมพลคนเสื้อแดง พลังแห่งประเทศไทย เลือกเพื่อไทยกลับสู่สภา' ชมรมคนรักอุดรที่สนามทุ่งศรีเมือง ว่าจะกลับมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และหากกลับเมืองไทยได้จะมาซื้อที่ดิน และปลูกบ้านที่จังหวัดอุดรธานี
       
       การประกาศครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นการหาเสียง และซื้อใจคนอุดรธานีที่เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคอิสานที่มีคนเสื้อแดงมากที่สุด อีกทั้งเป็นฐานการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่สำคัญ ภายหลังคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณเตรียมออนแอร์ทุกวันจันทร์เวลา 9.00-10.00 น. เพื่อตอบโต้รายการ 'เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์' แต่ขณะนี้ยังไม่มีการออนแอร์เนื่องจากกลุ่มผู้ใกล้ชิดกล่าวว่าต้องรอ พ.ต.ท.ทักษิณ สะสางงานให้เรียบร้อยก่อน
       
       9.ให้ทุนเยาวชนและบุคคลทั่วไป 6,000 ทุน
       
       พ.ต.ท.ทักษิณได้ทำโครงการผ่านมูลนิธิไทยคม โดยจะมอบทุนการศึกษาจำนวน 6,000 ทุนให้แก่เยาวชน และบุคคลทั่วไป จำนวนรวม 66 ล้านบาท โดยจัดประกวดเรียงความเรื่อง "อนาคตประเทศไทยที่ฉันฝัน"
       
       งานนี้จัดมอบขึ้นในวันแซยิด พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกมองว่านอกจากทำบุญทั่วประเทศแก้กรรมแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ยังใช้โอกาสนี้ทำทาน เพื่อให้ดวงการเมืองของตัวเองดีขึ้น พร้อมทั้งได้คะแนนเสียงจากการให้ทุนครั้งนี้ด้วย
       
       ดูโครงการต่างๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศจะทำ หรือบางโครงการได้ทำไปแล้ว ทุกโครงการล้วนแต่มุ่งประโยชน์ส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะด้านคะแนนนิยมเท่านั้น
       
       สุดท้ายแล้วจึงเกิดคำถามว่า คนไทยจะเชื่อได้อย่างไรว่า พ.ต.ท.ทักษิณ "กลับมาแล้วจะไม่โกง"!
        
       10.ทีวีดาวเทียม 100 ช่อง
       
       เซอร์ไพรส์ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวาระแซยิด 60 ปี พ.ต.ท.ทักษิณประกาศทำทีวีดาวเทียม 100 ช่อง ครอบคลุมทั่วโลก และมีช่องทางสำคัญให้กับประเทศไทย 3 ช่องได้แก่ ช่องโฆษณาขายสินค้าโอทอปและเอสเอ็มอี ช่องเรียลิตี้โชว์แก้ปัญหาความยากจน และช่องการศึกษา โดยจ้างติวเตอร์มาแนะแนวทางการศึกษาต่อในประเทศและต่างประเทศ และจะออกอากาศเดือนสิงหาคม
       
       มองว่าเป็นการพยายามทำช่องที่ดูเหมือนเป็นประโยชน์สำหรับคนไทย เพื่อให้เผยแพร่ได้ในเมืองไทย โดยมีการอ้อนวอนรัฐบาลว่าให้เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติอย่าปิดสถานีนี้ ซึ่งนอกจะเป็นประโยชน์ต่อการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้เป็นช่องทางการสื่อสารกับมวลชนเสื้อแดงที่สำคัญ อีกทั้งยังสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นคนทำประโยชน์ให้กับสังคมไทยเพื่อเรียก คะแนนนิยมคนเสื้อแดงต่อไป รวมทั้งยังมีข้อดีทางตรงที่จะได้รับคือ ผลประโยชน์ทางธุรกิจจำนวนมหาศาลด้วย
       
       นี่คือ 10 ประเด็นปัญหาที่พ.ต.ท.ทักษิณ เคยกล่าวไว้ ซึ่งกาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งใดจริงสิ่งใดเป็นเท็จ..!
       
       "วางบิล"บิ๊กเซอร์ไพรส์ หนุนลิ่วล้อรวยยกแก๊ง
       
       งานครบรอบวันเกิดปีที่ 60 ของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเมื่อ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา นับเป็นคนไทยคนแรกที่มีคนร่วมอวยพรและจัดงานวันเกิดรวมถึงมหกรรมพิธีกรรม ทางไสยศาสตร์ให้ทั้งประเทศ
       
       ไม่ว่าจะเป็นวันงานตามวัดต่าง ๆ ที่มีพิธีสวดแก้กรรม สะเคราะห์ เสริมดวงชะตาให้เจ้าของวันเกิด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์