´เกม´ การเมืองนี้...ดูช่างงี่เง่าสิ้นดี!?

พร้อมทั้งจะมีการ ´จัดฉาก´ นัดทั้งสื่อไทย-สื่อเทศให้มาร่วมทำข่าวที่ ´ม็อบ´ สนับสนุนมาต้อนรับ โดย พ.ต.ท.ทักษิณเองจะยินยอมให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ควบคุมตัวและกักบริเวณ เช่นเดียวกับนางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของพม่าแล้ว...

ท่านรู้สึกกันอย่างไรบ้าง-ครับ เชื่อหรือไม่เชื่อ? หรือว่าเป็นแค่ ´เกม´ การเมือง!?

´ไม่เชื่อ-ครับ´ ด้วยเหตุผลสั้นๆ คือ หากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แผนการนี้จะต้องใช้เงินหรือคนอย่างมหาศาล เพราะไหน? จะต้องแจ้ง ´สื่อ´ ค่ายต่างๆ ไม่ว่าไทยหรือต่างประเทศ กันล่วงหน้า ไหน? จะต้องกระจายคนให้ออกไป ´จัดตั้ง´ มวลชนในพื้นที่ต่างๆ

ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่เว้นกระทั่งเรื่องการจะ ´ปิดลับ´ ไม่ให้อีกฝ่ายทราบการเคลื่อนไหว และที่สำคัญ จะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่ปรากฏอยู่ในข่าว

หรือ คมช. รวมทั้งตัว พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีได้ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังมีกระแส ´คลื่นใต้น้ำ´ ความพยายามที่จะสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายของเครือข่ายอำนาจเก่า และกลุ่มผู้สูญเสียอำนาจในปัจจุบัน!?

ในฐานะประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาแสดงความเห็น ´จี้´ ให้ คมช.เร่งชี้แจงสาเหตุของการรัฐประหาร ´โค่นระบอบทักษิณ´ เมื่อวันที่ 19 กันยา

วิกฤติที่เกิดขึ้นนั้นเพราะระบอบทักษิณอย่างน้อย 4 ประการที่คณะปฏิรูปการปกครองฯ ยกขึ้นมา ได้แก่ ความขัดแย้งแตกความสามัคคี การทุจริตประพฤติมิชอบ การแทรกแซงองค์กรอิสระ การประพฤติลักษณะหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ยังไม่ได้อธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่า เหตุ 4 ประการที่นำมาอ้างนั้น ได้สร้างความเสียหายอย่างไร คนที่ฟัง ´ทักษิณ´ พูดมา 5 ปี ส่วนใหญ่เขาเชื่อ วันนี้ก็ยังเชื่อ ยังพอใจ ´ทักษิณ´ อยู่ ดังนั้น คณะผู้ยึดอำนาจควรชี้แจงกับประชาชนถึงรายละเอียดความเสียหายที่เกิดขึ้น.

ว่าให้ใช้เหตุผลข้อเท็จจริงมาหักล้างความเชื่อที่ผิดๆ ของคนส่วนใหญ่เท่านั้น ส่วนในอีกด้านหนึ่งยังเป็นการ ´ตัดไม้ข่มนาม´ ฝ่ายที่กำลังเตรียมวางแผนจะจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่กลายๆ ด้วย

เพราะนับตั้งแต่คณะผู้ยึดอำนาจ ที่เรียกว่า คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือคปค. ที่แปรสภาพมาเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช.ในเวลาต่อมา...

คณะผู้ยึดอำนาจได้ประเมินและระแวดระวัง

การตอบโต้ของเครือข่ายฐานอำนาจ ´นักการเมือง´ ที่พยายามเคลื่อนไหวสร้างความปั่นป่วนเป็น ´คลื่นใต้นํ้า´ อยู่แล้ว

ซึ่งมีเงินทุนและฐานมวลชนอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. เพื่อตรวจสอบโครงการต่างๆ ในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา

การออกประกาศ คปค.ฉบับที่ 27

จนทำให้มีแกนนำกลุ่มต่างๆ และ ส.ส.จำนวนกว่า 100 คน ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย หรือกระทั่งการที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เดินสายไปพบอดีตกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย หรืออดีตแกนนำพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ในภาคอีสาน

ที่เคยเป็นแกนนำพรรคคอมมิวนิสต์ อย่าง น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช หรือสหายจรัส และนายภูมิธรรม เวชยชัย หรือสหายใหญ่ ที่เคยพบปะหารือกับคนกลุ่มนี้ และให้เงินสนับสนุนกลุ่ม ´สโมสร 19´ ซึ่งเป็นกลุ่มอดีตแกนนำพรรคคอมมิวนิสต์ในภาคอีสาน จะชิงออกมาเคลื่อนไหวก่อน

ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ตุลา. แต่แผนแตก เพราะทางการสิงคโปร์ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณจะใช้เป็นทางผ่านมาไทย ไม่ยอม และแจ้งข่าวให้ คมช.ทราบนั้น อาจจะทำให้ คมช.ประเมินสถานการณ์ต่างๆ ใหม่อีกก็ได้ ซึ่งเท่าที่ผมทราบมา ทาง คมช.ก็ประเมินว่าข่าวการขอกลับไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็น ´เกม´ การเมือง!?

นั้น ตอนนี้ คมช. ก็คงจะรู้แล้วด้วย เนื่องจากมันสอดคล้องกับการออกมาเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองบางพรรคพอดี... นี่! พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่เริ่มต้นโต้กลับเลยนะครับ

แต่ก็มี ´ผู้ไม่หวังดี´ ออกมาร่วมผสมโรงแล้ว

นึกๆ ก็เห็นใจคณะผู้ยึดอำนาจอยู่เหมือนกัน พยายามสร้างความสมานฉันท์ทุกอย่าง รวมทั้งยังให้อภัยนักการเมืองทุก ´ขั้ว-ฝ่าย´

แต่สุดท้ายก็ยังถูกนักการเมืองที่กลัวจะเสียประโยชน์ เล่น ´เกม´ สร้างความปั่นป่วน (อีก) จนได้