ศอฉ. คืนพื้นที่ราชประสงค์เปิดถนน 23พ.ค. สั่งหน่วยไล่ล่ากองกำลังติดอาวุธ ที่เปลี่ยนรูปแบบมุดลงดิน แยกเซลย่อยเคลื่อนที่เร็วก่อวินาศกรรม ลอบสังหารผู้นำ-คนสำคัญ รอจัดทำเอกสารชี้แจงภาพรวมปฏิบัติการต่อทูตทั่วโลก..
ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11รอ.) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 พ.ค. นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ศอฉ.ว่า ในการประชุมช่วงเช้า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้นำเหล่าทัพเข้าร่วมประชุม
ซึ่งนายกฯ ได้รับทราบปัญหาและข้อสังเกตต่างๆ โดยเฉพาะกรณีคลิปความเป็นอยู่ของแกนนำ นปช.ที่ถูกคุมขัง
ซึ่ง ศอฉ.เองก็ตั้งข้อสงสัยเหมือนกับทุกคนที่ได้เห็นคลิปภาพความเป็นอยู่ของแกนนำ นปช.ที่หลุดออกมาว่ามีเหตุผลอะไร นายกฯได้สั่งการให้หาข้อเท็จจริงและให้มีการปฏิบัติเป็นไปตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้การบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เดินหน้าให้ทุกฝ่ายพอใจ และให้ยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย จึงได้สั่งการให้มีการตรวจสอบอย่างรัดกุมเพื่อให้การปฏิบัติการเป็นไปตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นายปณิธาน กล่าวว่า ทาง ศอฉ.ได้รับทราบเหตุการณ์ที่มีการประกอบระเบิดรถยนต์ที่สมบูรณ์ที่สุด
ซึ่งจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบที่บริเวณแยกราชประสงค์ ทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความกังวลเพราะที่ผ่านมาเจอแต่ระเบิดในรถยนต์ไม่ใช่ลักษณะที่มาประกอบรถยนต์ในลักษณะคาร์บอมบ์เช่นนี้ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ ระเบิดคาร์บอมดังกล่าว ได้เตรียมการไว้ค่อนข้างสมบูรณ์เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสใช้งาน นอกจากนั้นยังมีของกลางและอาวุธอีกหลายอย่างที่ไม่เคย พบเห็นในการชุมนุมทางการเมือง ในประเทศไทย เช่น การใช้ยางรถยนต์วางเป็นบังเกอร์ และเมื่อกระเถิบบังเกอร์เข้าไป จะเป็นเกราะกำบังให้มีการยิงเอ็ม 79 ซึ่งเป็นการทำอย่างเป็นระบบ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบการยกเลิกข้อบังคับการควบคุมเส้นทางบริเวณพื้นที่แยกราชประสงค์ในวันที่ 23 พ.ค.นี้ ซึ่งวันนี้ (22 พ.ค.) ทางเจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบเพื่อเตรียมการคืนพื้นที่ให้กับส่วนงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กรุงเทพมหานคร (กทม.) รวมทั้งเตรียมระบบสาธารณูปโภค คาดว่าวันที่ 23 พ.ค. ประชาชนจะสามารถไปใช้พื้นที่ดังกล่าวได้ตามปกติ โดยในการดูแลรักษาความปลอดภัยทางตำรวจจะเป็นหน่วยงานหลัก และไม่มีการตั้งด่านในเส้นทางดังกล่าว แต่จะมีหน่วยลาดตระเวน เคลื่อนที่เร็วที่ ศอฉ. จัดตั้งขึ้นมาคอยดูแลป้องกันเหตุ ซึ่งเมื่อคืนพื้นที่เรียบร้อยแล้วจะมีคณะทำงานเข้าไปตรวจสอบความเสียหาย เข้าไป ในพื้นที่ดังกล่าว ก่อนที่จะนำตัวเลขเหล่านั้นส่งให้รัฐบาลเพื่อดำเนินการเยียวยา และแก้ไขปัญหาต่อไป แต่ความสูญเสียทางด้านโอกาส และภาพลักษณ์ของประเทศเป็นเรื่องที่ประเมินได้ยาก และที่ประเมินไม่ได้เลยคือความสูญเสียทางด้านชีวิต
นายปณิธาน กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมยังรับทราบการตั้งคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย และประชาชนที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย จากเหตุการณ์ความไม่สงบ จากการชุมนุมทางการเมืองโดย นายสาทิตย์ เป็นประธาน และคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่ออำนวยการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขความเดือดร้อน ของประชาชนในวะระเร่งด่วน โดย พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน นอกจากนั้นที่ประชุมยังมอบหมายให้นายสาทิตย์ ดำเนินการรวบรวมข้อมูลหลักฐาน เหตุการณ์ทั้งหมดในทุกๆ ด้านในรูปแบบของซีดี เพื่อชี้แจง ข้อเท็จจริงต่างๆ ให้แระชาชนรับทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไรกับชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ นายปณิธาน กล่าวว่า นายกฯ เป็นห่วงและกังวลในเรื่องนี้อย่างมาก และในองค์ประกอบของแผนปรองดองแห่งชาตินั้น ทุกความสูญเสียต้องได้รับการตรวจสอบอย่างจริงจัง โดยเป็นกลไกที่ทุกฝ่ายรับได้ แต่การตรวจสอบข้อเท็จจริงต้องใช้เวลาเพราะเกิดเหตุการณ์ในหลายพื้นที่ และบางพื้นที่เจ้าหน้าที่เข้าไปไม่ถึง
ส่วนกรณีองค์กรสิทธิมนุษยชน "ฮิวแมน ไรท์ส วอตช์" ออกแถลงการณ์เตือนรัฐบาลไทยห้ามใช้กำลังปราบม็อบและห้ามมีการใช้คุกลับกักขังแกนนำ นปช. ขณะที่ทางสหภาพยุโรปแถลงการณ์เรียกร้องให้ทางการเคารพสิทธิมนุษยชน ว่า โดยพื้นฐานของการรายงานขององค์กรเหล่านี้จริง ๆก็เป็นห่วงเรื่องความรุนแรงเหมือนเรา ซึ่งจริงๆ จุดยืนไม่ต่างกันคือเราต่อต้านความรุนแรงและเรียกร้องให้มีการยุติการใช้กำลังและความรุนแรงในทุกรูปแบบ ในช่วงแรกองค์กรเหล่านี้อาจยังไม่เห็นข้อมูลทั้งหมด แต่เมื่อมีการจลาจลชัดเจน บางประเทศ เช่น สหรัฐฯ ก็ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องฝ่ายผู้ชุมนุมยุติการก่อจลาจลเผาบ้านเผาเมือง จะเป็นแนวทางที่องค์กรสากลต่างๆ ใช้เรียกร้องให้มีการสอบสวนกรณีที่มีการใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในการ ก่อวินาศกรรมและจลาจล ส่วนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในทุกกรณีเราจะมีการเข้าสู่กระบวนการเพื่อให้เกิดความโปร่งใส
นายปณิธาน กล่าวด้วยว่า สำหรับการชี้แจงข้อเท็จจริงต่อต่างประเทศนั้น ในสัปดาห์หน้าหากมีการประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวแล้ว ทางปลัดกระทรวงการต่างประเทศจะเชิญคณะทูตานุทูตทั้งหมดมาแลกเปลี่ยนข้อมูล ชี้แจงอีกครั้ง และทางทำเนียบรัฐบาลเองเมื่อนายสาทิตย์ จัดทำรายงานสรุปสถานการณ์การก่อความไม่สงบเรียบร้อยฉบับสมบูรณ์ ก็จะมีการชี้แจงภาพรวมในปฏิบัติการทั้งหมดอีกส่วนหนึ่งด้วย
"การดูแลสถานการณ์ขณะนี้ถือว่าควบคุมได้หมดแล้ว แต่สภาวะยังไม่ได้กลับคืนสู่ปกติ 100 % ยังต้องมีการฟื้นฟูเยียวยา การดำเนินคดี และการปิดล้อมจับกุม สกัดกั้น ความพยายามที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้"
อย่างไรก็ตาม ศอฉ.มีความเป็นห่วงและให้ความสำคัญมากกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่เชื่อว่ายังมี อยู่ แต่รูปแบบจะเปลี่ยนไปอาจไปก่อวินาศกรรมหรือลอบทำร้าย แทนการปฏิบัติการแบบที่เราเห็นในช่วงที่ผ่านมา
โดยอาจแปลงรูปลงใต้ดินมองเห็นได้ยากขึ้น แยกเป็นเซลหรือกลุ่มเล็กๆ ปฏิบัติเฉพาะใช้โอกาสที่เปิดและการเคลื่อนที่ที่เร็ว เคลื่อนไหวเป็นอิสระ แยกเป็นกลุ่มย่อยเพื่อให้เกิดความคล่องตัว แล้วแฝงตัวเข้าไปก่อวินาศกรรมหรือก่อความวุ่นวาย รวมทั้งประทุษร้ายผู้นำ ฝ่ายบริหารที่ดูแลด้านความมั่นคงและบุคคลสำคัญ เราจะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ทาง ศอฉ. ก็ได้เตรียมการและสั่งการให้หน่วยงานไปดูแลหาวิธีที่จะปิดล้อมคนเหล่านี้
ส่วนการที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศจะกลับมาชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ ที่ห้องสนามหลวง นายปณิธาน กล่าวว่า ศอฉ.รับทราบและนำเอามาพิจารณาประกอบเพื่อเตรียมการรองรับสถานการณ์ กำลังประเมินอยู่ เพราะคิดว่าวันนี้คนไทยยังไม่อยากเห็นการชุมนุมกลายเป็นอย่างนี้อีก ซึ่งการจัดระบบต่างๆ อาจจะรัดกุมยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไปริดลอนสิทธิของเขาที่จะมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ต้องดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นที่ผ่านมาอีก.
ศอฉ.เตรียมคืน ราชประสงค์ เปิดถนน23พค.
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!