ศอฉ.ส่งทหารลงพื้นที่เพิ่มเติม เคลียร์ระเบิดหลังเหตุจลาจล ปณิธาน ยอมรับยังจับ "อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง" ไม่ได้ แจงยอดคนเจ็บ 88 คน ตาย 7 คน...
ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์(ร. 11 รอ.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
พร้อมด้วย พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษก ศอฉ. ร่วมแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศ เพื่อชี้แจงรายงานถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงคืนที่ผ่านมาพร้อมกับแนวทางการปฏิบัติต่อไป โดยนายปณิธาน กล่าวว่า เป็นที่ปรากฏชัดเจนว่ามีการก่อความไม่สงบในหลายพื้นที่
โดยเฉพาะความพยายามก่อกวนในการวางเพลิงก่อกวนประชาชนในแนวถนนพระราม 4 บริเวณคลองเตย ปากซอยไผ่สิงโต และในพื้นที่ที่มีความสำคัญของทางราชการ ศูนย์การค้าและบริเวณรอบกทม. ความพยายามดังกล่าวทำให้มีการบาดเจ็บล้มตายของประชาชนคนไทย โดยเฉพาะวานนี้(19พ.ค.2553) รายงานเบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 88 ราย เสียชีวิต 7 ราย เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่เหตุการณ์เหล่านี้ยังคงอยู่
นายปณิธาน กล่าวว่า ศอฉ. พยายามลดการก่อกวนเหตุการณ์เหล่านี้ ลดการกระทำใดๆที่ลดผลกระทบต่อประชาชน
และจะนำเอาข้อเท็จจริงทั้งหมดในห้วงที่เกิดขึ้นในช่วงคืนที่ผ่านมาทั้งหมด ให้ประชาชนรับทราบ นับรวมมีผู้เสียชีวิต 44 รายและบาดเจ็บ 398 ราย ส่วนหนึ่งเกิดจากความผิดหวัง ท้อแท้ โกรธแค้นของผู้ชุมนุมส่วนหนึ่ง แต่จะเป็นไปได้ยากที่ความรู้สึกไม่พอใจ จะทำให้เกิดเหตุการณ์บานปลายในพื้นที่ กทม.ต่อบ้านเมืองที่เรารัก และประชาชนคนไทยด้วยกันมากขนาดนี้ ถ้าไม่มีการวางแผนเตรียมการอย่างเป็นระบบ ประชาชนจะได้เห็นว่ากลุ่มคนเหล่านี้คือใคร ต้องรับผิดชอบอย่างไร รัฐบาลเข้าใจดีว่ากลุ่มคนที่มาชุมนุมและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์กติกาเดินทางกลับภูมิลำเนาปกติ แต่มีกลุ่มคนอีกกลุ่มที่มีพยายามลดความน่าเชื่อถือ ในที่สุดก็ทำร้ายประเทศไทยซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้าไประงับยับยั้งปฏิบัติหน้าที่ ในการควบคุมตัวคนเหล่านี้ มาตรการวันนี้ ศอฉ. จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเพิ่มเติมควบคุมเหตุการณ์ในหลายพื้นที่ที่มีความยากลำบาก เพื่อเข้าดูแลสถานที่สำคัญๆ พื้นที่สาธารณะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน
นายปณิธาน กล่าวว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล ที่ทำงานด้วยความเหน็ดเหนื่อยเสี่ยงชีวิต
ปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้าไปดูแลประชาชน ให้เกิดความมั่นใจว่าพื้นที่เหล่านั้นมีความปลอดภัย มีการจับกุมอาวุธได้เยอะ ส่วนกรณีที่มีการสูญเสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 6 รายภายในวัดปทุมวนาราม เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และมีความสำคัญชัดเจนว่า มีทั้งคนไทยและต่างประเทศอาศัยที่นั่น ชัดเจนว่า มีการปะทะกันรอบวัดปทุมวนาราม ซึ่งทาง ศอฉ.ได้รับการร้องขอให้เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งได้ประสานส่งเจ้าหน้าที่พยาบาล แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปได้ โดนต่อต้านอย่างรุนแรงจากกลุ่มคนที่ติดอาวุธ
ซึ่งทางศอฉ. จะนำคนที่อยู่ในวัดจะมาเล่าให้ฟัง ขณะนี้มีคนทยอยออกมา กว่าเจ้าหน้าที่จะให้คนล่าถอยออกมาจากวัดปทุมวนาราม
เพื่อลำเลียงคนบาดเจ็บ เสียชีวิตออกมาได้ ต้องใช้เวลานานมาก เจ้าหน้าที่ศอฉ. หลายท่านประสานอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา ชัดเจนว่าเหตุการณ์ในวัดปทุมวนาราม มีการวางแผนดำเนินการต่อต้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อย่างชัดเจน ในช่วงเช้าที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศในหลายสำนักมีการเสนอข่าวตรงกันว่า กลุ่มคนเหล่านี้ที่วางเพลิง มีอาวุธยุทโธปกรณ์ดำเนินการอย่างชัดเจนเปิดเผย นำมาซึ่งความสูญเสียต่างๆที่เกิดขึ้น
ปณิธาน รับ ยังจับตัวอริสมันต์ ไม่ได้
รัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินทุกวิถีทางดำเนินการปกป้องชีวิตประชาชน รัฐบาลเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ถึงแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยเสี่ยงต่อชีวิตและความปลอดภัย ซึ่งจะประกาศเพิ่มเติม
นายปณิธาน ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังคงมีแกนนำกลุ่มนปช.หลายคนที่ยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ หรือยังไม่เข้ามอบตัว ส่วนจะเป็นใครบ้างเจ้าหน้าที่ในพื้นที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่ และกำลังรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับการจับกุมดำเนินการคดี แต่ยืนยันว่าในส่วนของนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มนปช. ที่มีกระแสข่าวลือว่าจับกุมได้แล้วแล้วจนถึงขณะนี้ยังจับกุมตัวไม่ได้ อย่างไรก็ตามเรื่องการจับกุมยืนยันว่ารัฐบาลจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายและจะให้เจ้าหน้าที่ทำงานตามแนวทางที่วางไว้คือให้ดำเนินคดีอย่างเปิดเผยโปร่งใส อะไรที่เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯก็จะดำเนินการตามนั้น แต่ความผิดอื่น ๆ ในดคีต่างๆก็จะได้มีการรวบรวมดำเนินคดีต่อไป และยืนยันว่าการดำเนินคดีจะแยกส่วนออกจากแนวทางที่จะคุยกันในการเดินหน้าแผนการปรองดอง ขอเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมุนมยุติการกระทำใด ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ เรายินดีที่จะแก้ไขปัญหาผ่านกระบวนการปรองดองอยู่แล้ว จึงอยากขอให้ทุกฝ่ายยุติการกระทำหรือการชุมนุมในลักษณะที่มีการยั่วยุ เพราะเราไม่ต้องการเห็นเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก
นายปณิธาน กล่าวว่า สิ่งที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดคือการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ซึ่งวันนี้สถานการณ์ก็คงจะเริ่มคลี่คลายบ้าง
แต่ต้องยอมรับว่ากระบวนการที่ดำเนินการก่อความวุ่นวายอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องใช้คนมากก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองได้เยอะ ฉะนั้นการปฏิบัติงานวันนี้รัฐบาลและ ศอฉ.จะเร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลพื้นที่เพิ่มมากขึ้นพร้อม ๆ กับการดูแลเรื่องอัคคีภัย สาธารณภัยต่างๆ หากพื้นที่เริ่มคลี่คลายก็จะถอนกำลังทหารออกมาแล้วไปดูแลในพื้นที่อื่นที่ยังเข้าไม่ได้ หรื่อพื้นที่ที่ยังไม่ปกติ เพื่อให้ทหารกดดันกองกองกำลังติดอาวุธ ถอยออกไปก่อน
เมื่อช่วงเช้าทาง รรท.ผบ.ตร.ได้ผลักดันให้เจ้าหน้าที่สาธารณูปโภคต่างๆ เข้าไปดำเนินการ แต่ปัญหาถ้าเกิดความไม่ปลอดภัย
ทหารในพื้นที่ก็จะไม่อนุญาต เพราะถ้าชั่งน้ำน้ำหนักดูแล้วก็จะต้องเอาความปลอดภัยและชีวิตของเจ้าหน้าที่ให้ปลอดภัยเป็นหลักก่อน พี่น้องประชาชนอาจจะต้องอดทนรอบ้าง และต้องเข้าใจว่าหากเจ้าหน้าที่เข้าไปแล้วเกิดความสูญเสียชีวิตมันทดแทนกันยากคนร้ายมีเป้าหมายโจมตีธุรกิจเฉพาะ
ส่วนขณะนี้มีหลักฐานเชื่อมโยงในลักษณะการทำงานที่เป็นขบวนการของกลุ่มที่ก่อเหตุจลาจลหรือไม่
เพราะหลังเกดเหตุมีนักการเมืองหลายคนเข้าไปประสานงานและเยี่ยมผู้ชุมนุม นายปณิธาน กล่าวว่า มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้น และทางดีเอสไอได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะเห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนไหวไม่ได้เป็นอิสระ แต่มีเครือข่ายและเป็นระบบ ไม่เช่นนั้นคงไม่ก่อความวุ่นวายได้เกือบ 40 จุด และเป็นการก่อความวุ่นวายที่มีเป้าหมายชัดเจนว่าเป็นธุรกิจประเภทใด สถานที่ใด
ทั้งนี้ มีการบันทึกหลักฐานชัดเจนจากสื่อต่างประเทศ และเมื่อพิจารณาเครือข่ายทางการเงิน การติดต่อและการเชื่อมโยงต่าง ๆ แล้วทางดีเอสไอจะได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้รับทราบต่อไป
ส่วน ในพื้นที่ 30 กว่าจุดที่มีการก่อเหตุร้ายมีพื้นที่ใดที่ปลอดภัย 100 % แล้วบ้าง นายปณิธาน กล่าวว่า ขณะนี้เข้าใจว่าบริเวณถนนพระราม 4 สถานการณ์ดีขึ้นมาก แต่ยังมีปัญหาในบางส่วน ขณะที่พื้นที่ราชประสงค์เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปได้บ้างแล้ว แต่ยังต้องระมัดระวังเรื่องวัตถุระเบิดและกลุ่มคนที่หลบซ่อนอยู่ ดังนั้นวันเดียวกันนี้ก็จะเริ่มต้นการสแกนพื้นที่อย่างละเอียดมากขึ้น ส่วนสื่อมวลชนที่จะเข้าไปในพื้นที่นั้น ขอให้ประสานกับ ผบ.สถานการณ์ในพื้นที่ก่อน เพราะเป็นเรื่องที่ทางศอฉ.เป็นกังวล เนื่องจากสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศอาจยังเป็นเป้าหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้บุคคลที่อยู่ในพื้นที่ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขก็ตกเป็นเป้าไปแล้ว หากสื่อมวลชนไม่ประสานงานหรือทำความเข้าใจอาจจะเกิดปัญหาได้ จึงขอให้ติดต่อประสานงานตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ด้วย ซึ่งจะมีระบบรองรับไว้แล้ว
นายปณิธาน กล่าวว่า สำหรับตัวเลขความเสียหายที่เกิดขึ้นทาง ครม.เคยมีมติมอบหมายให้คณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การชุมนุมเป็นผู้ดูแล
ซึ่งมีภาคเอกชนหลายส่วนได้ร้องขอความช่วยเหลือมาบ้างแล้ว และเตรียมที่จะเสนอเข้าสู่ครม. สำหรับการดูแลพื้นที่ก่อเหตุวุ่นวายในต่างจังหวัดนั้น ทางศอฉ.ได้สั่งการให้กระชับกำลังในหลายพื้นที่ ซึ่งจะมีการบังคับบัญชาอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มีบุคคลสั่งการและเชื่อมโยงกับศอฉ. ขณะนี้ยังไม่มีการคาดโทษผวจ.ที่ปล่อยปละจนคนเสื้อแดงบุกเผาศาลากลาง เพราะเรายังต้องการให้โอกาสทุกคนได้ทำงานก่อน และให้ผวจ.ส่งเจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับบัญชาเหตุการณ์ลงไปในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เราต้องยอมรับว่าในหลายพื้นที่เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจเพราะมีพื้นที่กว้าง และเจ้าหน้าที่ยังจัดระบบไม่ดี