การเมือง วัดกันได้ในยามวิกฤติ

ไม่แน่ใจอาจจะด้วยความบังเอิญหรืออย่างไรไม่ทราบได้


จากภาพที่ปรากฏทางหน้าหนังสือพิมพ์และ ภาพข่าวทางสถานีโทรทัศน์ในคิวที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ต่อสายเชิญหัวหน้าพรรคการเมืองกว่า 40 พรรคเข้าร่วมรับประทานอาหาร ที่บ้านพิษณุโลก

ขอรับฟังความเห็นและหารือสถานการณ์ทางการเมือง

ดูจากการจัดโต๊ะอาหารด้านขวาของ พล.อ.สุรยุทธ์ คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ด้านซ้ายคือนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยประกบซ้ายประกบขวา

ส่วนเก้าอี้ที่นั่งตรงกันข้ามกับนายกรัฐมนตรี เขาจัดไว้ให้นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย


ไม่รู้ว่าคนจัดคิวคิดยังไง จะคิดลึกไปถึงขั้นไหน

แต่โดยสถานการณ์ที่พรรคไทยรักไทยกำลังตกอยู่ท่ามกลางวงล้อม และก็อย่างที่มีรายงานข่าวเบื้องหลังบนโต๊ะอาหารบ้านพิษณุโลก นายจาตุรนต์ยังโดนรุมกินโต๊ะจากหัวหน้าพรรคการเมืองอื่น

ยื่นข้อหาเป็นตัวการก่อคลื่นใต้น้ำต่อต้านรัฐบาลและ คมช.

โดนผลักอยู่ฝั่งตรงข้ามขั้วอำนาจใหม่โดยปริยาย


เอาเป็นว่า ภาพอดีตนักศึกษาแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่หนีเข้าป่าเพราะขัดแย้งอุดมการณ์ จุดยืนอยู่ตรงข้ามกับฝ่ายผู้มีอำนาจทางการเมือง

หวนกลับมาฉายที่ จาตุรนต์ อีกครั้ง


อีกทั้งหลังการพบปะพูดคุย นายจาตุรนต์รีบเปิดแถลงข่าวแสดงจุดยืน เพราะไม่ต้องการถูกมองว่า เป็นการงุบงิบพูดคุยกัน ยืนยันการหารือในครั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ได้ต่อสายโทรศัพท์เพื่อ เชิญร่วมรับประทานอาหารกลางวันในการหารือเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญ

รักษาระยะห่างกับขั้วอำนาจใหม่

ไม่ต้องพูดถึงประเด็นใครเป็นพระเอก หัวหน้าพรรคการเมืองไหนที่ชิงบทเด่นสุด บนโต๊ะอาหารที่บ้านพิษณุโลก โฟกัส พล.อ.สุรยุทธ์ที่พูดถึงรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย

คุณจาตุรนต์ก็ให้ข้อคิดเห็นที่ดีในเรื่องรัฐธรรมนูญ ท่านก็บอกว่า


เอารัฐธรรมนูญฉบับ 2540 มาเป็นฐาน มันก็จะง่ายขึ้น ให้น้ำหนัก ให้ราคาค่างวด

ทั้งนั้นทั้งนี้ ลองเปรียบเทียบนักการเมืองหนุ่มอนาคตไกล 2 คน จาตุรนต์-อภิสิทธิ์

เซียนการเมืองรุ่นใหญ่วิเคราะห์แบบไม่ต้องคิดมาก อาศัยเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ จังหวะได้เสีย เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย

วัดกันได้ใครคือของจริง

จาตุรนต์ ได้แต้มเต็มๆไปแล้ว จากการแอ่นอกท้าลมหนาว เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายรับเก้าอี้รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย

โดดขึ้นกุมพังงาเรือที่กำลังเผชิญพายุใหญ่


เสี่ยงอับปางได้ทุกเวลา

จาตุรนต์ ไม่กลัวตาย ไม่หวั่นโดนแช่แข็งทางการเมืองหากถูกประกาศิตยุบพรรค

กล้าพูดเต็มปากเต็มคำ ไม่เอาด้วยกับฝ่ายรัฐประหาร

ชูธงประชาธิปไตยอย่างเด็ดเดี่ยวมั่นคง



ขณะที่นายอภิสิทธิ์ซะอีก ในบทของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์


ที่ภาพในอดีต คือเครื่องหมายแห่งความเป็นประชาธิปไตย มีจุดยืนอุดมการณ์อยู่ ฝั่งตรงกันข้ามกับอำนาจที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

อภิสิทธิ์ จ๋อยไปหน่อย

ไม่ค่อยกล้าสบตา ต่อปากต่อคำกับทหารเท่าที่ควร

ยังโชคดีที่ได้ลูกเก๋าของนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรครุ่นใหญ่ ออกมาโชว์บทเสาหลักประชาธิปไตย กล้าส่งเสียงเตือนขั้วอำนาจใหม่

ให้รีบเคลียร์เหตุผล อธิบายกับประชาชนถึงเหตุที่อ้างในวันยึดอำนาจ


ก่อนจะเกิดเหตุวุ่นวายกระทบความมั่นคงในระยะยาว

อภิสิทธิ์ ต้องอาศัยตัวช่วยอย่าง ชวน ประคองเกม

ผิดกับ จาตุรนต์ ที่ลุยเดี่ยวท้าลมหนาว ต้านแรงเสียดทาน

ยามวิกฤติมันวัดกันได้เลย.






แหล่งที่มา:

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์