สื่อต่างประเทศหลายสำนักระบุตรงกัน เหตุจลาจลในกรุงเทพฯ ที่มีต้นเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมืองกำลังลุกลามหนัก เกิดเหตุรุนแรงในหลายพื้นที่ และระบุว่าเหตุการณ์รุนแรงกว่าก่อนที่แกนนำจะยุติการชุมนุมเสียอีก.
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก ได้รายงานว่า กรุงเทพมหานครได้กลายสภาพเป็นสมรภูมิของสงครามกลางเมืองแล้ว หลังกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่กำลังโกรธแค้น ลงมือก่อเหตุรุนแรงในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ จนทางการต้องประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถาน หลังเวลา 20.00 น. จนถึงวลา 06.00 น. วันรุ่งขึ้น
รายงานระบุว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุจลาจลได้วางเพลิงสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ทั้งอาคารที่ทำการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ตั้งของธนาคารหลายแห่ง รวมถึงสำนักงานใหญ่ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และห้างสรรพสินค้าสุดหรูอย่างเซ็นทรัล เวิลด์
นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่าโรงภาพยนตร์ชื่อดังแห่งหนึ่งในย่านช้อปปิ้งชื่อดังถูกเผาก่อนจะพังถล่มลงมาเช่นกัน ส่งผลทำให้ท้องฟ้าเหนือกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยหมอกควันสีดำคละคลุ้งไปทั่ว ขณะเดียวกันก็มีรายงานการเกิดเหตุรุนแรงถึงขั้นที่มีกลุ่มผู้ก่อจลาจลบุกเข้าทำลายสถานที่ราชการหลายแห่งในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
สื่อต่างประเทศหลายสำนักยังรายงานว่า อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ของไทย ก็ถูกกลุ่มคนไม่ทราบฝ่ายบุกรุกเข้าไปวางเพลิงเผาทำลาย จนทางสถานีต้องระงับการออกอากาศไปแล้วเช่นกัน ขณะที่ทางรัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศเคอร์ฟิวห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานโดยเด็ดขาด ตั้งแต่เวลา 20.00 น.วันนี้ ไปจนถึงเวลา 06.00 น. ของวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ตาม สื่อต่างชาติยังตั้งข้อสงสัยถึงคำยืนยันของทางการไทย ที่ยังคงยืนกรานว่าสถานการณ์ในกรุงเทพฯ ซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ยังอยู่ในขั้นที่ควบคุมได้ โดยสื่อต่างประเทศหลายสำนักต่างระบุตรงกันว่า สถานการณ์ในกรุงเทพฯ เวลานี้ได้เลวร้ายยิ่งกว่าก่อนที่แกนนำ นปช. จะประกาศยุติการชุมนุมเสียอีก.
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ