เอ็นจีโอประณามม็อบใช้เด็กเป็นโล่มนุษย์

“ครูหยุย”ชี้การเอาเด็กมาเป็นโล่กำบังถือว่าแย่มาก มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก ชี้ต้องประณามผู้ปกครอง พ่อแม่เอาลูกมาเสี่ยงตาย...

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือครูหยุย เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ได้กล่าวประณามการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ใช้เด็กมาเป็นโล่มนุษย์ โดยนำเด็กไปยืนอยู่บริเวณกองยางรถยนต์ที่ใช้เป็นบังเกอร์เพื่อป้องกันการสลายการชุมนุมจากกลุ่มทหารที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ว่าเป็นการกระทำที่แย่มากที่นำเด็กตัวเล็กๆ มาเป็นตัวประกันความปลอดภัยให้กับตัวเองและพรรคพวก ภาพที่ออกมาฟ้องชัดเจนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมนั้นได้ใช้เด็กเป็นโล่กำบังจริง

เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็กกล่าวต่อว่า การย้ายเด็กไปอยู่ในเขตพื้นที่ปลอดภัย เช่น วัดปทุมวนารามนั้นไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

ควรนำเด็กทุกคนออกมาจากพื้นที่การชุมนุมทันที  แต่ตนเชื่อว่าแกนนำคงออกมาปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำนี้  นอกจากนั้นการทำงานของกลุ่มเอ็นจีโอและหน่วยงานด้านเด็กต่างๆ ที่อยากช่วยเหลือนั้น  เป็นไปอย่างยากลำบาก มีการกีดกันไม่ให้เข้าไปในพื้นที่

ด้าน นายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก กล่าวว่า

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบุคคลที่ควรประณามมากที่สุดก็คือ ผู้ปกครองของเด็ก เพราะไม่มีพ่อแม่ปกติคนไหนจะนำลูกของตัวเองออกมาเสี่ยงอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตแบบนี้ แม้ว่าจะมีความมั่นใจว่าฝ่ายทหารจะหยุดยิงเมื่อเห็นเด็กก็ตาม นอกจากจะต้องรีบช่วยเหลือเด็กคนนี้ออกมา ควรมีการทบทวนความเป็นผู้ปกครองของเด็กด้วย

ผอ.มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก กล่าวต่อว่า

แกนนำควรคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กให้มากกว่านี้ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่คับแคบ อึดอัด สุขอนามัยย่ำแย่ ระบบสาธารณูปโภคที่ถูกตัด ได้ส่งผลกระทบต่อเด็กโดยตรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ จนเกิดสะสมเป็นความเครียดได้ และเด็กส่วนใหญ่ในพื้นที่การชุมนุมนั้นมาจากต่างจังหวัด โดยโรงเรียนได้เปิดภาคการศึกษาแล้ว การนำเด็กมาชุมนุมด้วยนั้น เป็นการขัดขวางเด็กไม่ให้ได้รับการศึกษาตามสิทธิที่พึงได้

นายสรรพสิทธิ์กล่าวด้วยว่า กรณีเด็กอายุ 14 ปี ที่เป็นผู้ต้องสงสัยเผาตึกร้างบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงนั้น 

เนื่องจากเด็กเป็นวัยที่ชอบลอกเลียนแบบ  หากพบผู้ใหญ่ใช้ไฟเผายางรถยนต์หรืออื่นๆ เด็กอาจเกิดการลอกเลียนแบบพฤติกรรมนั้นเพียงเพื่อความสนุกสนาน เพราะเด็กนั้นไม่มีความคิดเห็นทางการเมืองอยู่แล้ว