โฆษกพรรคปชป. ระบุ"ทักษิณ"ว่าจ้างสำนักทนายระดับโลก-ล็อบบี้ยีสต์-พีอาร์ สร้างกระบวนการให้เป็นคดีในเวทีโลก โต้นปช.ประท้วง ขัดหลักสันติอหิงสา
กระแสต่างประเทศ และการเข้าแทรกแซงขององค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรม โดยการพยายามโยงเอาองค์กรต่างๆ ให้เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศ ซึ่งพรรคมองว่าเป็นการเชื่อมโยงกันระหว่างเครือข่ายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชา ทั้งในและนอกประเทศ ภายใต้ยุทธศาสตร์ต่อต้านประเทศไทย
ซึ่งเป็นการดำเนินการร่วมกัน เพราะการดำเนินการภายในประเทศจนเกิดวิกฤตและความรุนแรงมี 5 ประการ ที่ทำให้แนวทางที่เคยประกาศไว้ว่าเป็นสันติอหิงสา ขัดกับหลักสากลและไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ได้ประกาศไว้
1.การก่อวินาศกรรมโดยการก่อการร้ายด้วยอาวุธสงคราม ตามสถานที่ซึ่งเป็นสาธารณูปโภคในพื้นที่ต่างๆ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
2.การขับเคลื่อนมวลชนเข้าบุกโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และมีการลอบสังหารเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ ซึ่งขัดต่อกฎบัตรสนธิสัญญาเจนนิวา ว่าด้วยการปกป้องผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันทางสงคราม
3. มีลักษณะการพุ่งเป้าคุกคามและทำร้ายสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ที่เป็นเป้าหมายหนึ่งในการสร้างสถานการณ์ โดยกองกำลังซึ่งขัดกับหลักระหว่างประเทศว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน
4.ลักษณะการสนับสนุนการจลาจล โดยการสั่งการของแกนนำที่เคยให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศไว้ว่า มีแผนการที่เตรียมบุกเข้าไปในอาคารใกล้เคียงกับพื้นที่ราชประสงค์ หากสถานการณ์ลุกลามบานปลายขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการประสานการเตรียมจุดเผายาง ทั้งที่บริเวณราชปรารภและชุมชนบ่อนไก่ รวมทั้งการทำวินาศกรรมวางเพลิงอาคารบริเวณราชปรารภ และ
5.ลักษณะการใช้กองกำลังติดอาวุธลอบสังหารพลเรือน เพื่อสร้างสถานการณ์
ซึ่งลักษณะทั้ง 5 ข้อนี้ขัดกับหลักสากลว่าด้วยการใช้กำลัง ทำให้จำเป็นจะต้องปรับยุทธศาสตร์ด้วยการพลิกสถานการณ์ไปเป็นการสร้างสถานการณ์ เพื่อโยนความผิดให้รัฐบาลและอาศัยเครือข่ายต่างประเทศ ในการขยายผลบิดเบือนความจริง และดึงองค์กรระหว่างประเทศเข้าแทรกแซงกิจการภายในของประเทศ
"ขณะนี้ปรากฏชัดว่าเครือข่ายของพันตำรวจโททักษิณได้ว่าจ้างบริษัททนายระดับโลกมีประวัติว่าความให้อาชญากรระดับโลก ที่เกี่ยวข้องกับการก่อกบฏล้มล้างรัฐบาลในหลายประเทศ ร่วมกับเครือข่ายล็อบบี้ยีสต์ และบริษัททำประชาสัมพันธ์เพื่อจะนำเรื่องเหล่านี้เข้าสู่เวทีสากล"
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้องค์กรต่างๆ ได้ทราบอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดเมื่อมีกี่ชั่วโมงนี้ นาง Navi Pillay ข้าหลวงใหญ่ว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ได้ออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เห็นว่าการประกาศแนวทางการดูแลและควบคุมความสงบที่ยึดหลักสากลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้น ทางข้าหลวงใหญ่ฯได้สนับสนุนแนวทางของนายกฯ 3 ข้อในการใช้อาวุธจริงคือ 1.ใช้เพื่อเตือน โดยยิงขึ้นฟ้า 2.ใช้เพื่อปกป้องตัวเองเป็นทางเลือกสุดท้ายเมื่อถูกโจมตี 3.ใช้เพื่อช่วยชีวิตผู้อื่นจากการเข้ากระทำโดยการก่อการร้าย
ซึ่งทั้งหมดนี้ข้าหลวงใหญ่ยืนยันว่าบทบาทของเจ้าหน้าที่รัฐในการปกป้องชีวิตของประชาชนถือว่าเป็นบทบาทที่เป็นที่ยอมรับตามหลักสากล แต่ขณะเดียวกันก็หวังว่าการหาทางออกโดยการเจรจาซึ่งรัฐบาลได้ทำอยู่นั้น ถือว่าเป็นทางออกที่จะคลี่คลายสถานการณ์และไม่เกิดความรุนแรงขึ้น