พล.อ.สนธิยันไม่สืบทอดอำนาจ ไม่รับตำแหน่งนายกฯ-รัฐมนตรี

"ย้ำ ไม่รับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ"


พล.อ.สนธิ เปิดใจผ่านรายการถึงลูกถึงคนกลางดึกคืนวันที่ 26 ตค.ทางช่อง 9 ว่า จะไม่สืบทอดอำ นาจ เพราะไม่ชอบมีอำนาจ ย้ำจะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ

(27ต.ค.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ประธานคมช. กล่าวว่า มีเรื่องต้องศึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนการร่างรัฐธรรมนูญ โดยตนศึกษา ถามจากนักวิชาการ และนำวิธีการต่างๆ มาเรียบเรียงเป็นวิธีการปฏิบัติ ที่ผ่านมาเราต้องมาดูว่าประชาธิปไตยของเราเดินไปได้หรือไม่ ดังนั้นตนคิดว่าการทำครั้งนี้คงไม่ช้าไป เรื่องวางยาตนไม่ได้ถามคนเดียว ตนถามจากหลากหลาย และถามคนละเวลา จนได้สูตรที่กำลังเป็นอยู่

"กังวลเรื่องคลื่นใต้น้ำ"


พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เรื่องคลื่นใต้น้ำ เป็นเรื่องที่ตนเป็นกังวล อยากให้ทุกอยากหยุดเพื่อร่วมกันสร้างบ้านเมือง ตอนนี้ยังได้รับข่าวสารว่ามีคลื่นใต้น้ำ ทำให้ต้องระวังตลอดเวลา และพยายามไม่ให้เกิด ตนก็ไปดูว่าต้นกำเหนิดอยู่ตรงไหน ก็พยายามไปหยุดตรงนั้น ซึ่งเรารู้ตัวกลุ่ม และบุคคลที่ดำเนินการ

พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงก่อนทำรัฐประหาร เราต้องยอมรับสถานการณ์ที่กดดัน ประชาชนเป็นแรงผลักดันค่อนข้างสุง ตนให้สัมภาษณ์หลายครั้งว่า ประชาชนเขียนจดหมายมาหาตนมาก อยากให้ตนทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ปลดล็อค เขียนมาหานานหลายเดิน แต่ช่วงระยะเวลาที่ใกล้ถึงจุด ก็เนื่องจากดูจากการบริหารบ้านเมือง ความสามัคคีคนในชาติ ที่แบ่งเป็นฝ่าย ในฐานะที่เป็นทหาร ยอมไม่ได้ที่จะเห็นประชาชนแบ่งเป็นเสี่ยง อีกเรื่องคือการบริหารงานที่แทรกแซงองค์กรอิสระ ทำให้สังคมไม่ยอมรับ เรื่องรัฐธรรมนูญก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่เกิดช่องว่างทำให้ไม่สามารถตรวจสอบรัฐบาล

"ตอนแรกมองว่าบ้านเมืองไปได้"


พล.อ.สนธิ กล่าวว่า จริงแล้วตนก็ไม่เคยคิดทำเพราะไม่ได้ต้องการอะไร ตอนแรกตนมองว่าบ้านเมืองไปได้ แต่เมื่อถึงวันที่ 19 ก.ย. ก็ต้องมาย้อนดูวันที่ 20 ก.ย. ที่พันธมิตรฯจะชุมนุม ขณะที่อีกฝ่ายก็จะนำคนมาไม่น้อย จะทำให้เกิดการเผชิญหน้า หากปะทะกันจะเกิดอะไรขึ้น เรามองว่าหาก 2 กลุ่มเจอกัน ปะทะกันแน่ ทำให้ต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และมีการใช้กำลังบานปลาย ซึ่งตนยืนยันมาตลอดว่าเจ้าหน้าที่ไม่ปะทะกับประชาชน จึงคิดว่าไม่ดีกว่าหรือที่จะไม่ให้กระทบกันทั้งสองฝ่าย หากไม่รัฐประหาร แล้วประกาศภาวะฉุกเฉิน ตนจะถูกคำสั่งให้นำทหารเข้าควบคุม

พล.อ.สนธิ กล่าวว่า การเตรียมตนจะประชุมผุ้บังคับหน่วยค่อนข้างมาก ตนทำความเข้าใจกับผู้บังคับหน่วยว่า เรามีหน้าที่ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ทหารทุกคนตนเชื่อว่าคิดเหมือนกัน ตนจึงไม่ต้องพูดหรือสั่งอะไรบ้าง เพราะแผนมีอยู่แล้ว ชื่อ ปฎพี 149 ก็นำแผนนั้นมาใช้

"หลายคนอาจดีใจ หลายคนอาจเสียใจ"


พล.อ.สนธิกล่าวว่า ในบก.ทบ. รุ้แผนรัฐประหารกัน 3 คน วันปฏิบัติไม่มีอุปสรรค ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ออกอากาศสดในวันนั้น ก็เป็นเรื่องปกติที่อีกฝ่ายรุ้ว่ามีความเคลื่อนไหว ตนปรับเปลี่ยนแผนบ้างจาก 24.00 น. เป็น 22.00 น. ซึ่งจริงแล้วการทำงานครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องให้งานทุกอย่างสอดประสานกันอย่างดี และไม่มีการเคลื่อนไหวต่อต้านจากฝ่ายสนิททักษิณ เพราะตนโทรติดต่อเอง

พล.อ.สนธิ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เคยถามเล่นๆบนโต๊ะอาหาร ว่าจะปฏิวัติหรือไม่ ตนก็ตอบเล่นๆว่า ปฏิวัติ ท่านก็ถามผบ.คนอื่นด้วย คนอื่นก็ตอบเหมือนตน

พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ถ้าวันนั้นตนไม่ตัดสินใจทำอย่างนี้ บ้านเมืองคงไม่ได้เป็นอย่างนี้ คงเลยการปลดล็อคหมดแล้ว หลายคนอาจดีใจ หลายคนอาจเสียใจ

"ไม่ได้ยุ่งเรื่อง ครม.เลย"


พล.อ.สนธิกล่าวว่า การเลือกนายกฯ ทั้งคณะก็ช่วยกันคิด และทุกคนคิดเหมือนกันหมด และตนไม่ได้คิดถึงคนอื่นเลยนอกจาก พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่มีใครสำรองไว้ในใจ เพราะตนคิดว่าสิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้ไปอีก 1 ปี พล.อ.สุรยุทธ์ เหมาะภารกิจทั้งหมด ทั้งเรื่องการเมือง สมานฉันท์ ความมั่นคง ตอนทาบทามตนอธิบายให้ฟังเรื่องสถานการณ์บ้านเมือง พูดเหตุผลให้ฟังว่าท่านเหมาะสมอย่างไร

พล.อ.สนธิกล่าวว่า ตนไม่ได้ยุ่งเรื่องตั้งครม.เลย ไม่ได้ฝากใครสักคนเดียว ที่ให้ตนดูแลเรื่องความมั่นคง ก็หลังจากที่ท่านเป็นนายกฯไปแล้ว ตำแหน่งประธาน สนช. ตนก็ไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นนายมีชัย ตนพูดกับทุกคนว่าขอให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย หากไปบล๊อค คมช.ก็แย่ เสียงวิจารณ์นายมีชัยในอดีต ตนไม่รู้จักมาก่อน ตนเชิญมาช่วยงานวันที่ 19 ก.ย. ขอให้มาช่วยงาน ตลอดเวลาที่มาช่วย ตนดูว่าท่านเป็นคนมีจิตใจดี รักชาติ มุ่งมั่น เรื่องวิจารณ์รับใช้ระบอบทักษิณ ตนคิดว่าหลายคนก็อยู่ใกล้ทักษิณ แม้แต่ตน ดังนั้นต้องแยกแยะให้ดี สำหรับนายวิษณุและนายบวรศักดิ์ ตนยืนยันว่าเป็นคนดี ขอให้ดูบทบาท ผลงานต่อจากนี้ไป อย่าไปตัดสินก่อน

"หนักใจอยากให้เป็นธรรมที่สุด"


พล.อ.สนธิกล่าวว่า การเลือกสมัชชาตนหนักใจ วิธีเลือกจาก 200 ให้เหลือ 100 ต้องเป็นธรรมที่สุด และคิดว่าก็ต้องมีคนที่ไม่ถูกใจแน่นอน แต่เราก็จะทำให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ตนคิดว่าหากเราไม่พูดเป็นการเมือง พูดกันตรงๆ ตนไม่ห่วงเรื่องรัฐธรรมนูญ แต่ห่วงเรื่องนักการเมืองในอดีตที่จะเข้ามาเป็นฝ่ายบริหาร ขาดอะไรบางอย่าง เช่น ขาดอุดมการณ์ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ ตนก็ให้การบ้านกับผู้ที่มาพบเยอะว่า จะทำอย่างไรให้รัฐธรรมนูญออกมาอย่างไร ที่จะทำให้นักการเมือง ไม่นำรัฐธรรมนูญ ออกนอกกรอบ นักการเมืองควรจะมีลักษณะอย่างไร รัฐธรรมนูญปี 40 ตนก็คิดว่าดีอยุ่แล้ว ดังนั้นเพียงแต่ตัด เพิ่ม สิ่งที่ดีเข้าไป และตนคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีหลายมาตราการเกินไป

พล.อ.สนธิกล่าวว่า ตนยืนยันไม่สืบทอดอำนาจ เพราะตนไม่ชอบใหญ่โต ไม่ชอบมีอำนาจ อีกกี่ปีเราก็ตายแล้ว ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า อายุ 60 ปี ทำงานให้ชาติบ้านเมืองมาขนาดนี้ จะเอาอะไรอีก เวลานี้ ตนไม่คิดเล่นการเมืองไม่คิดรับตำแหน่งนายกฯ หรือรัฐมนตรี สำหรับคนอื่นใน คมช. ก็ไม่คิดว่าจะมีใครคิดสืบทอดอำนาจ ตนเป็นเพื่อนกันมารุ้ว่าทุกคนเติบโตจากการทำงาน ไม่ได้วิ่งเต้น

"คงไว้เท่าที่จำเป็น และเลิกเร็วที่สุด"


พล.อ.สนธิกล่าวว่า กฏอัยการศึก ตนอยากถามว่าประชาชนทุกคนเดือดร้อนหรือ ตนคิดว่าประชาชนไม่น้อยยังอยากให้มีไว้ก่อน ตนไปต่างจังหวัดเจอผุ้ใหญ่มากระซิบอย่าเพิ่งเลิกกฏอัยการศึก ตนคิดว่าถ้าเลิกแล้วจะต้องไม่เกิดความหวาดระแวง เลิกแล้วทุกคนต้องอยู่อย่างมีความสุข สำหรับต่างประเทศ ตนคิดว่าเขาไม่เข้าใจคนไทย เข้าไม่รู้ปัญหาภายในประเทศเรา ดังนั้นเราต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ และตนย้ำว่าจะคงไว้เท่าที่จำเป็น และจะเลิกให้เร็วที่สุด

พล.อ.สนธิกล่าวว่า การผ่อนคลายเรื่องการชุมนุม ทุกวันนี้มีการชุมนุมเกิน 5 คน เราอนุโลม เพียงแต่ไม่อยากให้ใช้สถานที่สาธารณะ และส่วนใหญ่ก็เป็นนักศึกษา ตนก็เห็นว่าเขาควรจะรู้วิถีชีวิตของสังคม และต่อไปเขาจะเห็นเองว่าเป็นอย่างไร และนักศึกษาไม่ได้เป็นกลุ่มที่เราเฝ้าระวัง

"ทำความเข้าใจอธิบายด้วยเหตุผล"


พล.อ.สนธิกล่าวว่า เสียงวิจารณ์ คมช. ตนคิดว่ามีวิธีแก้คือ การทำความเข้าใจ เมื่ออธิบายด้วยเหตุผลแล้ว ตนคิดว่าทุกคนเข้าใจ สำหรับเสียงวิจารณ์ที่ไม่ดำเนินการกับ ทรท. หรือ ทักษิณ เต็มที่ เราก็ต้องอธิบายให้เข้าใจว่า คนเล่นทำไมถึงไม่ทำอย่างที่คนดูต้องการ และต้องรอเวลาจนถึงเวลา เราต้องยึดกติกา หากไม่ทำตามกติกาจะมีผลเสียย้อนกลับมา อยากให้ทุกคนรู้ว่าอุปสรรคต้องมี เรื่องยึดทรัพย์ เราทุกคนก็เห็นอยุ่แล้วว่า รมต.ทุกคนใครมีทรัพย์สินอยู่ที่ไหน ที่กลัวว่าจะนำไปสร้างความวุ่นวาย ตนคิดว่าหากเขาจะทำเขาไม่ได้ใช้เงินพวกนี้ มีทรัพย์สินอื่นอีกมากที่เขาใช้ได้

พล.อ.สนธิกล่าวว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณจะกลับประเทศ ตามมารยาทก็ต้องหารือกับ นายกฯ ท่านกลับได้อยู่แล้ว แต่ถึงเวลาหรือยังที่จะกลับ อยากให้ท่านคิดแค่นั้น เหตุผลเดียวคือคลื่นใต้น้ำ ให้น้ำหยุดกระเพื่อมก่อน การกลับก็ติดต่อกับนายกฯ เพราะอำนาจอยู่กับท่านนายกฯ หลังเลิกกฏอัยการศึกก็น่าจะเหมาะ แต่ก็ต้องมาดูอีกครั้งว่าสงบหรือยัง


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์