“เทือก”ลั่นจะทำให้บ้านเมืองสู่ปกติโดยเร็ว

คมชัดลึก :“สุเทพ”ลั่นจะทำให้บ้านเมืองกลับสู่สภาปกติโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อวานได้มีการจับกุมตัวคนซุ่มยิงได้และไม่ได้สามารถพูดภาษาไทยได้ ได้มีการตรวจสอบอย่างไร

นายสุเทพ กล่าวว่า ยังตรวจสอบอยู่ ซึ่งตนระวังที่จะไม่พูดจาในสิ่งที่ยังไม่ชัดเจน เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่งที่ฝ่ายผู้ก่อการร้ายได้จัดให้มีหน่วยซุ่มยิงขึ้นไปอยู่บนที่สูง เพื่อยิงเจ้าหน้าที่ ประชาชน สื่อมวลชน เพื่อที่จะทำให้มีคนเสียชีวิตสูงขึ้น เอาตัวเลขผู้เสียชีวิตที่สูงขึ้นที่บาดเจ็บขึ้นไปโฆษณาชวนเชื่อและเผยแพร่ในต่างประเทศ เพื่อร้องให้ยูเอ็นหรือสหประชาชาติ ตั้งองค์กรระหว่างประเทศเข้ามาแทรกแซงอธิปไตยของประเทศไทย นี่คือเป้าหมายของผู้ก่อการร้าย

ส่วนการเข้าไปในพื้นที่ราชประสงค์นั้นต้องเป็นมาตรการสุดท้ายสิ่งที่พยายามจะทำคือการปิดล้อมพื้นที่ราชประสงค์ให้แข็งแรงไม่ให้มีการส่งเสบียงกำลังบำรุงหรืออาวุธเข้าไป

และพยายามที่จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจว่าให้รีบกลับบ้าน เพราะถ้าอยู่ก็จะเกิดอันตรายต่อตัวเอง เพราะผู้ก่อการร้ายทำโดยมีเป้าหมายที่ไม่เลือกข้าง ไม่ได้เลือกว่าใครบริสุทธิ์ หรือไม่บริสุทธิ์ ขอให้เจ็บ และให้ตายเป็นสำคัญ ซึ่งรัฐบาลก็เป็นห่วง และถ้าอยู่ต่อไปหากมีการจับกุมดำเนินกคดีก็จะโดนลงโทษไปด้วย ประชาชนก็จะเดือดร้อน

ต่อข้อถามที่ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ยอมทยอยออกนอกพื้นที่หลังจากที่ ศอฉ.ประกาศให้ออกพื้นที่ในเวลา 15.00 น. ตั้งแต่วานนี้

นายสุเทพ กล่าวว่า จะต้องวิเคราะห์กันต่อไปว่า 1. เขาไม่เข้าใจ หรือ 2. กลุ่มแกนนำผู้ควบคุมฝูงชนที่นั่นเขาสกัดกั้นไม่ยอมให้ออก ซึ่งเรามีความเข้าใจกันดีว่าประชาชนเขาเดือดร้อน ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในที่เดือดร้อน เช่น ชุมนุมบ่อนไก่

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ดำเนินการมาสองวันแล้ว แต่ยังมีปัญหา และอุปสรรคอยู่

ทั้งนี้ตนยังได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยเตรียมอาหารไว้สำหรับ 2,000 ครอบครัวเพื่อไปช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ที่เกิดวิกฤติ และถ้าประชาชนไม่สบายใจอยู่ที่นั่นทาง กทม. ได้เตรียมโรงเรียนไว้เป็นที่พักพิงชั่วคราว ซึ่งเราจะดูแลเรื่องการอยู่ การกินให้ ทั้งนี้ได้มีการขอให้ไฟฟ้านครหลวงได้เข้าไปดูแลเรื่องไฟฟ้าให้แต่ปรากฎว่าพนักงานการไฟฟ้านครหลวงเข้าไปแล้วถูกยิง เขาก็ไม่กล้าเข้าไปอีก ตนจึงได้สั่งการให้ รักษาการ ผบ.ตร. ได้จัดกำลังตำรวจไปพูดจาทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน เพราะสิ่งที่เข้าไปไม่ใช่ไปเพื่อการสู้รบตบมือกับใคร แต่เป็นการเข้าไปช่วยเหลือประชาชน