ทัพภาค2ยกระดับพรก.ฉุกเฉิน ส่งทหารเวนคืนพื้นที่ม็อบแดงโคราช

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา รายงานเมื่อวันที่  17 พ.ค.ว่า  กำลังสารวัตรทหารสังกัดมณฑลทหารบกที่ 21 ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 จำนวน 45 นาย นำแผงเหล็กกั้นบริเวณพื้นที่ที่เป็นจุดรวมตัวชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง จังหวัดนครราชสีมา บริเวณข้างลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมกับนำแผ่นป้ายปิดประกาศซึ่งมีข้อความ “งดการชุมนุม  ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา”  มาติดไว้ทั่วบริเวณ ภายหลังจากที่จังหวัดนครราชสีมา ได้ประกาศเป็นพื้นที่บังคับใช้ พรก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2553 ที่ผ่านมา แต่หลังจากที่มีการประกาศบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉิน ก็ยังคงมีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อเป็นการประกาศห้ามมิให้กลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมในบริเวณดัง กล่าวอย่างเด็ดขาด

ขณะที่นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดนครราชสีมา หลังจากที่ได้มีการประกาศให้พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นพื้นที่ต้องบังคับใช้ พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2553 จนถึงขณะนี้ล่วงเลยมาเป็นระยะเวลาเกือบ 4 วันแล้ว แต่ยังพบว่าในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ยังคงมีการเคลื่อนไหวโดยมีการรวมตัวกันของกลุ่มคนเสื้อแดงที่บริเวณลานหน้า อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ถ.ราชดำเนิน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ในช่วงค่ำของทุกวันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางจังหวัดร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ได้เชิญบรรดาแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัด มาพูดคุยและรับทราบกฏระเบียบข้อบังคับตาม พรก.ฉุกเฉิน พร้อมกับชี้แจงให้หยุดการชุมนุมทางการเมืองเนื่องจากเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีแกนนำและกลุ่มผู้เคลื่อนไหวหลายกลุ่ม หยุดการชุมนุมไปบ้างแล้ว แต่ยังคงมีประชาชนบางส่วนที่ยังคงชุมนุมกันอยู่ อย่างเช่นเมื่อคืนที่ผ่านมา 16 พ.ค.2553 มีกลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มประชาชนที่สนใจข่าวสารจำนวนประมาณ 100 คน ได้พยายามที่จะรวมตัวกันที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และพยายามที่จะเชื่อมต่อสัญญาณการถ่ายทอดสดการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ กรุงเทพฯ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกองทัพภาคที่ 2 ได้เข้าชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนให้ยุติการรวมตัว ซึ่งภายหลังจากที่กลุ่มมวลชนได้รับทราบการชี้แจง ก็เข้าใจถึงสถานการณ์และได้แยกย้ายกันกลับบ้านไป  ซึ่งทั้งนี้หวังว่าในช่วงค่ำวันนี้คงจะไม่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงใน พื้นที่ เพราะไม่เช่นนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงจะต้องดำเนินการตามกฏหมายโดยการควบ คุมตัวผู้ชุมนุมตามข้อบังคับของ พรก.ฉุกเฉิน

นายประจักษ์ฯ กล่าวอีกว่า ความจริงแล้วการที่จังหวัดนครราชสีมา ต้องประกาศใช้ พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็เนื่องจากว่าทาง ศอฉ.ต้องการที่จะสกัด กั้นกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่ให้เดินทางไปร่วม ชุมนุมกับกลุ่ม นปช.ที่กรุงเทพฯ ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นประตูเข้าออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องประกาศ บังคับใช้ พรก.ฉุกเฉินในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้สามารถดำเนินการสกัดกั้นกลุ่มคนเสื้อแดงได้อย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามทั้งนี้เมื่อประกาศบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉินแล้ว การกระทำทุกอย่างที่เป็นข้อต้องห้ามตามข้อบังคับทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนิน การไปตามกฏหมาย เพราะหากไม่มีการดำเนินการใดๆทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีความผิดฐาน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดนครราชสีมา จะเข้าใจถึงสถานการณ์ในขณะนี้เป็นอย่างดี


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน