´หญิงอ้อ´ พบ ´ป๋า´ กห.ระบุ! โยนหินถามทาง

"ปรึกษาขอ แม้ว กลับไทย"


ความเคลื่อนไหวของคลื่นใต้น้ำสายขั้วอำนาจเก่าและการเจรจาขอเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังคงถูกเพ่งเล็งจากฝ่ายความมั่นคง และเป็นที่สนใจของประชาชนทุกภาคส่วน ล่าสุดคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยมีรายงานข่าวว่า มีการขอคำปรึกษาหาช่องทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งคุณหญิงพจมานระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณยินยอมปฏิบัติตามกฎทุกอย่าง และอาสากล่อมให้สมาชิกพรรคไทยรักไทยให้อยู่ในความสงบ อย่างไรก็ตาม พล.อ.เปรมก็ไม่มีท่าทีตอบรับหรือปฏิเสธ ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงยืนกรานว่าอดีตนายกฯยังไม่ควรจะกลับประเทศในช่วงนี้ ต้องรออีกสักระยะให้สถานการณ์นิ่งเสียก่อน

กองทัพสื่อเฝ้าบ้านสี่เสาเทเวศร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ วันที่ 26 ต.ค. มีสื่อมวลชนจำนวนมากไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ เนื่องจากมีข่าวว่า คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อหารือและขอช่องทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณเดิน ทางกลับประเทศไทย ปรากฏว่า พล.อ.อู้ด เบื้องบน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเป็นนายทหารคนสนิท พล.อ. เปรม ได้เดินทางเข้าไปที่บ้านสี่เสาเทเวศร์เป็นคนแรก ใน เวลา 08.00 น. หลังเวลาผ่านไปประมาณ 50 นาที รถเบนซ์ ส่วนตัวของ พล.อ.อู้ด จึงแล่นออกจากบ้านสี่เสาเทเวศร์

พจมาน ดอดเข้าพบ ป๋าเปรม


ต่อมาเวลาประมาณ 09.10 น. มีรายงานข่าวหนาหูว่า คุณหญิงพจมานพร้อมด้วยนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชาย กำลังเดินทางด้วยรถบีเอ็มดับบลิวสีทอง ออกจากบ้านจรัญสนิทวงศ์ 69 เพื่อมาพบ พล.อ.เปรม กระทั่งเวลา 09.48 น. คุณหญิงพจมานจึงเดินทางมาถึงบ้านสี่เสาเทเวศร์ แต่ไม่ได้เข้าไปที่บ้านทันที เพราะมีสื่อมวลชนดักอยู่เป็นจำนวนมาก เกรงจะตกเป็นข่าวครึกโครม จึงได้นัดแนะกับ พล.อ.อู้ด เพื่อขอเปลี่ยนไปนั่งรถเบนซ์สีบรอนซ์ เงิน ทะเบียน ศฎ 919 ของ พล.อ.อู้ดแทน เพื่อหลบเลี่ยงสายตาผู้สื่อข่าว โดยคุณหญิงพจมานนั่งที่เบาะด้านหลัง ส่วนนายบรรณพจน์นั่งเบาะหน้าคู่กับคนขับ เดินทางเข้าไปที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อเวลา 10.50 น. อย่างไรก็ตาม รถเบนซ์คันดังกล่าวไม่ได้จอดที่หน้าประตูทางเข้าตัวบ้าน แต่เลี้ยวไปจอดที่ประตูข้าง โดย พล.อ.อู้ดได้มาเปิดประตู รถให้คุณหญิงพจมานด้วยตัวเอง ทั้งนี้ คุณหญิงพจมานใช้เวลาเข้าพบ พล.อ.เปรมเพียงแค่ 15 นาที จากนั้นออกเดินทางกลับทันที

ป.ป.ช.เชิญ ป๋า เป็นองค์ปาฐกถา

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 08.30 น. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. และนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. ก็ได้เข้าพบ พล.อ.เปรมเช่นกัน ใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 30 นาที โดยนายปานเทพเปิดเผยว่า มาเรียนเชิญ พล.อ.เปรมไปปาฐกถาเรื่องปัญหาการคอรัปชันให้แก่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ฟัง เนื่องในโอกาสวันสถาปนาสำนักงาน ป.ป.ช.ครบรอบ 7 ปี ในวันที่ 17 พ.ย.นี้ ซึ่ง พล.อ.เปรมรับปากจะไปปาฐกถา พร้อมกันนี้ยังได้ให้ คำแนะนำในการทำงานว่า ขอให้ทำงานด้วยความเที่ยงธรรม และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ แต่ไม่ได้คุยรายละเอียดเรื่องการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

อู้ด ระบุแค่ถามไถ่ทุกข์สุข


พล.อ.อู้ด เบื้องบน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และนายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงกรณีที่คุณหญิงพจมานเข้าพบ พล.อ.เปรมว่าไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องการเมือง การยึดอำนาจ การตรวจสอบคดีต่างๆ ของ คตส. และ ป.ป.ช. รวมทั้งไม่ได้พูดเรื่องการขอกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย แต่เป็นการเข้าพบในลักษณะเยี่ยมคารวะผู้ใหญ่และพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันธรรมดา นอกจากนี้คุณหญิงพจมานยังเล่าให้ พล.อ.เปรมฟังถึงชีวิตประจำวันของ พ.ต.ท.ทักษิณในประเทศอังกฤษ โดย พล.อ.เปรมถามถึงความเป็นอยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณว่าสบายดีหรือไม่ คุณหญิงพจมานก็บอกว่าสบายดี วันๆก็ไปออกรอบตีกอล์ฟ นอกจากนี้คุณหญิงพจมานยังบอกว่า เข้าใจสภาพดีว่าสักวันหนึ่งก็ต้องพ้นจากตำแหน่งภรรยานายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว

เผยเงื่อนไขเจรจา-ยอมทุกอย่าง

มีรายงานข่าวว่า การที่คุณหญิงพจมานเข้าพบ พล.อ.เปรมในครั้งนี้ เป็นการขอคำปรึกษาเรื่องการเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งคุณหญิงพจมานอยากให้ คมช.ยกเลิกกฎอัยการศึกเร็วขึ้น โดยยืนยันจะปฏิบัติตามกฎทุกอย่าง หาก พ.ต.ท.ทักษิณได้กลับมา โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคลื่นใต้น้ำ และรับปากว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะอาสาชี้แจงทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคทั่วประเทศ เพื่อขอความร่วมมือให้อยู่ในความสงบในขณะที่กลับมาประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณติดต่อเจรจากับ คมช.และรัฐบาลมาแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม พล.อ.เปรมก็ไม่มีท่าทีตอบรับหรือปฏิเสธ

บุญรอด ฟันธงเกมโยนหินถามทาง


ด้าน พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม ให้ สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ติดต่อขอเดินทางกลับประเทศไทย ว่า เรื่องนี้นโยบายของกระทรวงกลาโหมต้องสอดคล้องกับรัฐบาลและ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในเบื้องต้นยังไม่มีอะไร เป็นเพียงแค่กระแสข่าวเท่านั้น ยังไม่แน่ใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางกลับมาจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงการโยนหินถามทาง คิดว่ายังไม่เหมาะสมที่จะกลับเข้ามาในเวลานี้ ทางที่ดีควรเดินทางกลับหลังจากที่สถานการณ์นิ่งมากกว่านี้ ทั้งนี้ สถานการณ์จะนิ่งก็ต่อเมื่อไม่มีคลื่นใต้น้ำ เมื่อใดที่สถานการณ์นิ่งก็จะประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก หลังจากประกาศยกเลิกกฎอัยการ ศึกแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องพิจารณาอีกครั้งถึงการเดินทางกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ยัน คมช.ส่งสัญญาณอย่าเพิ่งกลับ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ส่งผลต่อการตัดสินใจของรัฐบาลและ คมช.หรือไม่ พล.อ.บุญรอดตอบว่า เรื่องนี้ตอบไม่ได้ เพราะไม่ทราบข้อเท็จจริงและรายละเอียด เมื่อถามว่าขณะนี้สถานการณ์ยังไม่นิ่งจำเป็นต้องติดต่อ พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อขอให้อย่าเคลื่อนไหวหรือไม่ พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า ได้ส่งสัญญาณไปแล้ว โดย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และสมาชิก คมช.หลายคน เคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ คิดว่าสัญญาณนี้คงจะไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว

ชลิต ชี้ ทักษิณ อยากกลับบ้าน


พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และรองประธานคมช. กล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงพจมานเข้าพบ พล.อ.เปรมว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดของการพบกัน คงเป็นเรื่องการพบปะส่วนตัว ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ติดต่อขอกลับประเทศไทยผ่านทาง คมช.หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิตตอบว่า ไม่ทราบ แต่อาจจะพูดคุยกับประธาน คมช. เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณแสดงความประสงค์ขอกลับประเทศหรือไม่ รองประธาน คมช.กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่โดยทั่วไปก็คงอยากกลับบ้าน

ยืนกรานให้รออีกระยะ

ต่อข้อถามว่าสถานการณ์ขณะนี้เหมาะสมที่ พ.ต.ท. ทักษิณจะกลับไทยหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิตตอบว่า เป็นเรื่องที่ คมช.ต้องพูดคุยกัน ปัจจัยสำคัญคือเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับไทยจะต้องไม่มีความเคลื่อนไหวทางการเมือง หากกลับมาแล้วอยู่บ้านตามปกติ ไม่ดำเนินการทางการเมือง ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามีการทำให้เกิดความไม่สงบหรืออะไรต่างๆ ก็เป็นเรื่องไม่เหมาะสม ดังนั้น น่าจะรออีกสักช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งไม่น่าจะนาน ทั้งนี้ การทำงานของ คมช.ได้มีการประชุมทบทวนกันทุกสัปดาห์ เรื่องคลื่นใต้น้ำทางการเมืองคิดว่าไม่น่าห่วง เพราะส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งทหารและตำรวจในพื้นที่ก็ดำเนินการตามปกติ ส่วนที่ทีมโฆษกพรรคไทยรักไทยยืนยันว่าไม่มีคลื่นใต้น้ำนั้น แล้วแต่จะพูด แต่สถานการณ์ขณะนี้เท่าที่ทราบจากสายข่าวเห็นว่าคลื่นใต้น้ำยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ เป็นเรื่องที่ คมช.และรัฐบาลต้องทำความเข้าใจต่อไป

สนธิ ลั่นถ้าจะกลับต้องบอก คมช.


เมื่อเวลา 16.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. ได้ลงแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสัมพันธ์กับนักฟุตบอลทีมชาติไทยอาวุโส โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มวังน้ำยม เข้าร่วมการแข่งขันด้วย ทั้งนี้ พล.อ.สนธิให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยว่า ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะยังไม่เหมาะ แต่เราไม่ปิดโอกาสของ พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องนี้ต้องหารือกันก่อน เมื่อถามว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณเช่าเครื่องบินเหมาลำเดินทางเข้ามาประเทศจะต้องแจ้งให้ คมช.ทราบก่อนหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า โดยมารยาทแล้วหากจะเข้ามาต้องแจ้งก่อน เพราะต้องขออนุญาต หากจะลงจอดต้องแจ้งว่าเป็นเครื่องบินมาจากไหน ซึ่ง พ.ต.ท. ทักษิณต้องส่งสัญญาณให้เราทราบล่วงหน้า

ยันไม่ได้ติดต่อกับ พจมาน

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากที่คุณหญิงพจมานเข้าพบ พล.อ.เปรม ได้ติดต่อขอเข้าพบ คมช.บ้างหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ยังไม่ได้ติดต่อกัน และการที่คุณหญิงพจมานเข้าพบ พล.อ.เปรมก็ไม่ได้ติดต่อทาง คมช. แต่ติดต่อผ่านผู้ใหญ่ ต่อข้อถามว่ามีความเห็นอย่างไรที่คุณหญิงพจมานเข้าพบ พล.อ.เปรม เพื่อขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับประเทศไทย พล.อ.สนธิกล่าวว่า ก็ให้กลับมา เพื่อจะได้รู้ว่าประเทศไทยสงบ เมื่อถามว่าการเข้าพบกับ พล.อ.เปรมจะเป็นการสร้างความกดดันให้ คมช.หรือไม่ พล.อ. สนธิกล่าวว่า ต้องไปถาม พล.อ.เปรมว่าคุยอะไรกับคุณหญิงพจมาน

ปัดข่าวเด้ง ผบ.ตร.


เมื่อถามถึงกระแสข่าว คมช.จะปลด พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. และให้ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะมีข่าวว่า พล.ต.อ.โกวิทไม่พอใจการทำรัฐประหารของ คมช. พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่มีการปลดใคร ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีเหตุผล ความสัมพันธ์ของ คมช.ไม่มีปัญหาอะไร สามารถทำงานกันได้ด้วยดี โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ ก็ทำงานประสานกันอย่างดี เมื่อถามว่าสาเหตุที่ พล.ต.อ. โกวิทไม่มาร่วมงานเลี้ยง คมช.เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา เพราะไม่พอใจ คมช.ใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า งานเลี้ยงใครจะมาก็ได้ ไม่มาก็ได้ และงานเลี้ยงดังกล่าวเน้นเฉพาะผู้ที่ร่วมทำงานกับ คมช.ที่อยู่ประจำชั้น 4 กองทัพบก ไม่ได้มีอะไร

นพดล อ้างแค่เยี่ยมคารวะผู้ใหญ่

ขณะที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงพจมานเดินทางเข้าพบ พล.อ.เปรม ว่า การเข้าพบดังกล่าวเป็นลักษณะของเด็กเข้าเยี่ยมคารวะผู้ใหญ่ตามมารยาทปกติ หลังจากเดินทางกลับมาจากประเทศอังกฤษ เพื่อมาสะสางธุรกิจส่วนตัวและธุระครอบครัว คุณหญิงพจมานไม่ได้ตั้งใจเข้าไปพูดคุยเรื่องการเมือง แต่เข้าพบเพื่อหารือทั่วไปในฐานะที่ พล.อ.เปรมเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ทั้งนี้ คุณหญิงพจมานยังไม่มีกำหนดเดินทางไปประเทศอังกฤษ จะยังอยู่ที่ ประเทศไทยเพื่อสะสางเรื่องต่างๆ สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องการกลับประเทศไทย ซึ่งเป็นบ้านเกิด รวมทั้งอยากจะชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆ แต่จะเดินทางกลับมาเมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกฎอัยการศึก พ.ต.ท.ทักษิณมีดุลพินิจพอที่จะคำนึงถึงความเหมาะสมและความสมานฉันท์ของประเทศ คงจะรอสถานการณ์คลี่คลายก่อน น่าจะเดินทางกลับหลังยกเลิกกฎอัยการศึก

ตั้งทีมทนายสู้คดีร้อน


เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้สั่งให้ฝ่ายกฎหมายเตรียมชี้แจงข้อกล่าวหากับ คตส. และ ป.ป.ช. อย่างไรบ้าง นายนพดลตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานได้แต่งตั้งคณะทำงานฝ่ายกฎหมายส่วนตัว เพื่อจัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจในการชี้แจงบัญชีทรัพย์ต่อ คตส. และ ป.ป.ช. เบื้องต้นคณะทำงานฝ่ายกฎหมายได้เตรียมข้อมูลในข้อกล่าวหาการเสียภาษีของบริษัทในเครือชินวัตร การขายหุ้นชินคอร์ปให้กับกองทุนเทมาเสก และการซื้อที่ดิน ปรส. ของคุณหญิงพจมาน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณได้ย้ำให้ติดตามการดำเนินการของ คตส. และ ป.ป.ช. อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะโทรศัพท์มาสอบถามตนเป็นระยะ ส่วนคดียุบพรรคนั้น ให้ทีมกฎหมายพรรคไทยรักไทยเป็นผู้ดูแล

สุริยะใส ฉะ ป๋า เกี้ยเซี้ย พจมาน

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการ รณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า การพบกันระหว่าง พล.อ.เปรมกับคุณหญิงพจมานในขณะนี้ ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า พล.อ.เปรมมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากได้มีองค์กรประชาชนหลายกลุ่มไปยื่นเรื่องเรียกร้องให้ พล.อ.เปรมแก้ปัญหาบ้านเมือง แต่ พล.อ.เปรมก็ไม่ให้เข้าพบ โดยพยายามอธิบายว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง แต่ครั้งนี้กลับให้ พล.อ.อู้ด เบื้องบน ทหารคนสนิท ไปรับคุณหญิงพจมานมาพบที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ทำให้เกิดความเคลือบแคลงในสังคมว่าจะมีวาระซ่อนเร้นหรือการเกี้ยเซี้ยอะไรหรือไม่ นอกจากนั้นยังส่งผลในแง่จิตวิทยาต่อกองทัพ และหน่วยงานต่างๆที่กำลังพิสูจน์ความผิดของครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจตั้งคำถามว่า มีการตกลงหรือสมยอมกันไปแล้วหรือไม่

เย้ยเปลืองตัวโดยใช่เหตุ


นายสุริยะใสกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ถือว่า พล.อ.เปรมเปลืองตัวโดยไม่จำเป็น ขณะที่คุณหญิงพจมานและพรรคไทยรักไทยได้ประโยชน์มหาศาล เพราะได้สร้างขวัญกำลังใจให้เครือข่ายระบอบทักษิณและลิ่วล้อที่กำลังเคลื่อนไหวใต้ดิน ทำให้เกิดความฮึกเหิม มีกำลังใจมากขึ้นว่า พ.ต.ท. ทักษิณและพรรคไทยรักไทยยังอยู่และจะกลับมายิ่งใหญ่อีก เนื่องจากเชื่อว่าฝ่ายนำเคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น พล.อ.เปรมจำเป็นต้องชี้แจงกับประชาชนว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนคุณหญิงพจมานควรหยุดเคลื่อนไหวในลักษณะล็อบบี้วิ่งเต้น

หรือพยายามฟอกความผิดให้กับตัวเองและครอบครัว เพราะกระบวนการพิสูจน์ความผิดกำลังทำงานอยู่ นอกจากนี้ ขอฝากเตือน คมช. และรัฐบาลตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องว่า ถ้าสร้างเส้นแบ่งระหว่างเทพกับมาร ความดีกับความชั่วไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าจะแก้ปัญหา บ้านเมืองได้ สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ควรให้กลับมาจนกว่าจะมีการพิสูจน์ความผิด ถ้าปล่อยให้เข้าประเทศตอนนี้ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะประชุมเพื่อกำหนดท่าทีต่อต้านทันที


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์