ข่าว คือ ข้อเท็จจริง ไม่ใช่ “เรื่องเล่า”

รายละเอียด : สรยุทธ สุทัศนะจินดา
นอกจากงานข่าวแล้ว สรยุทธ สุทัศนะจินดา ยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด (ผลิตรายการโทรทัศน์) และ บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด (รับจัดงานและกิจกรรม) ด้วย และถ้ายังจำกันได้ เรื่องของบริษัทไร่ส้ม เริ่มจากการที่เรื่องการเช่าในลักษณะแบ่งปันเวลา และหาผลประโยชน์กับข่อง 9 อสมท ในสมัยที่มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นผู้อำนวยการสถานี โดย บ. ไร่ส้มมีการขายโฆษณาแฝง โดยไม่แบ่งประโยชน์แก่ช่อง 9 ตามเงื่อนไขในสัญญา การสืบสวนในชั้นต้น มีหลักฐานการกระทำความผิดของบุคลากรต่างๆชัดเจนในฐานฉ้อโกง มีนักวิชาการอิสระท่านหนึ่งกล่าวว่า บริษัทนี้ไม่น่าจะมีโอกาสเข้ามาทำงานในช่อง 3 ซึ่งเป็นบริษัทเครือข่ายของอสมท เหตุที่ช่อง 3 คว้าตัวสรยุทธมาจากโมเดิร์น ไนน์ มีเหตุผลเดียวคือ นำสรยุทธมาเป็นจุดขายและแบ่งปันทางด้านผลประโยชน์ทางธธุรกิจ

โดยส่วนตัวแล้ว สรยุทธ สุทัศนะจินดามีสายสัมพันธ์ที่สนิทสนม แนบแน่นกับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรมา เป็นคนข่าวที่เป็นกระบอกเสียงในการสร้างภาพลักษณ์ให้แก่รัฐบาลของทักษิณมาก่อน ดังนั้น การข่าวที่เอื้อต่อการสนับสนุนคนเสื้อแดงก็จะผ่านเข้ามาในรายการนี้ โดยใช้ภาพเป็นตัวเดินเรื่อง แล้วเจ้าตัวจะทำหน้าที่ในการเสนอข่าวเชิงชี้นำ โน้มน้าวให้ผู้ชมเห็นถึง พลังของคนเสื้อแดงที่มีสังคมสนับสนุนอย่างกว้างขวาง แต่หลีกเลี่ยงที่จะเสนอข่าวแบบองค์รวม แต่เลือกที่จะนำเสนอเพียงบางส่วน บางแง่มุม เลือกเรื่องที่จะพูด สรุปง่ายๆคือ แม้จะไม่ได้โกหก ตอแหล แต่ไม่ได้พูดทุกแง่มุมของความจริง

กรณีของบริษัทไร่ส้มก็ดี , กรณีเรื่องสัมปทานของช่อง 3 กับอสมท สรยุทธไม่เคยกล่าวถึง

กนก รัตน์วงศ์สกุล เคยกล่าวตอบโต้ในคอลัมน์ ของนิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์ว่า “ไม่อาจทำงานร่วมกับคนโกง” ได้

กิตติ สิงหาปัด
กิตติ สิงหาปัด เมื่อสมัยอยู่ไอทีวี ประกาศว่า จะทิ้งไอทีวีเป็นคนสุดท้าย จนเมื่อแพแตก กลายเป็นว่า เขาเป็นคนแรกๆที่กระโดมาอยู่ที่โมเดิร์นไนน์ จากนั้นก็ย้ายตัวเองมาอยู่ที่ช่อง 3 ตามลำดับ เพื่อทำข่าวสามมิติ เป็นผู้ประกาศข่าวที่ทำตัวเป็นดารามากกว่าที่จะเป็นคนข่าวที่แท้จริง จุดยืนของกิตติ คือ การรับใช้ผู้มีอำนาจเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุน ทักษิณ ชินวัตรในสมัยเรืองอำนาจ ณ ปัจจุบันก็เปลี่ยนการแสดงหันมาเอาใจนายทุนทางธุรกิจที่ตัวเองสังกัดอยู่เท่านั้นเอง

สายสวรรค์ ขยันยิ่ง
คนในวงการข่าวมองว่า เธอไม่ได้มีจิตวิญญาณของนักข่าว ไม่ได้มีความคิดเห็นของตัวเอง หรือ กล้าคิด กล้าทำ อย่างที่สัญชาตญาณของนักข่าวมีและควรจะเป็น หากแต่แสวงหาความมั่นคงทางการเงินเท่านั้น ดังนั้น ใครที่ว่าจ้างด้วยอัตราเงินที่สูงกว่าก็พร้อมจะไปส่งเสียง แสดงตัวให้ และไม่มีมีบทบาทมากนัก

ฐปนีย์ เอียดศรีไชย
แดงแท้ ของจริง ปัจจุบันอยู่ในทีมงานสามมิติของกิตติ สิงหาปัต ถ้ายังจำกันได้ เธอคนนี้นี่แหละที่ร้องไห้แทบจะเป็นจะตายเมื่อตอนที่ปิดไอทีวี

ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล
คุณปลื้ม - ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ขณะที่เป็นพิธีกรของไทยทีวีสีช่อง 3 ก็ยังเป็นผู้ดำเนินรายการคนสำคัญให้แก่วอยซ์ทีวี ของพานทองแท้ ชินวัตรควบเกี่ยวกันไปด้วย

ย้อนหลังกลับไป ...วสันต์ โพธิพิมพานนท์ (ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มทองหล่อ จำกัด) หรือ เจ้าของเบนซ์ ทองหล่อ ผู้ชัดเจนในข้างทักษิณ ชินวัตร หลังจากที่เป็นขุนพลใหม่ เข้าไปทำรายการกับช่อง 5 เมื่อปี พ.ศ. 2547 หลังจากทำรายการระยะหนึ่งเมื่ออยู่ไม่ได้ ทางช่อง 3 ก็ช้อนไว้ในฐานะที่เป็นกลุ่มก้อนและพรรคพวกเดียวกัน ไม่นับรวมกรณีของ เฉลิม อยู่บำรุง ที่มีความสัมพันธ์กับเรื่องการทำสัญญาไม่เป็นธรรมกับ อสมท

บุคลากรในวงการข่าวอื่นๆของช่อง 3 ยังมีคนอื่นๆ เช่น กรุณา บัวคำศรี, ภาษิต อภิญญาวาท, ปานระพี รพิพันธ์ที่ซื้อตัวมาจากช่อง 7 อีกด้วย

ครอบครัวข่าวน่าจะไปได้ได้ดีและไกลกว่านี้ … แต่กลายเป็นว่า คนข่าวเหล่านี้ไม่กล้าแตะแหล่งข่าวหรือเจาะลึกเทุกเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับระบอบทักษิณ ซึ่งถือว่าค้านกับสิ่งที่ช่อง 3 บอกว่า ครอบครัวข่าวของช่อง 3 ตั้งใจให้เป็นสถานีข่าวที่สมบูรณ์ที่สุด การนำเสนอข่าวของช่อง 3 ไม่ได้ดีหรือแตกต่างจากช่องอื่น ภาพของ “ครอบครัวข่าว” จึงไป็นเพียง “พรีเซ็นเตอร์ข่าว” เท่านั้นเอง

บุคคลตั้งแต่ระดับบนถึงล่างเหล่านี้ ล้วนแต่มีสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง แนบแน่นกับ ทักษิณ ชินวัตรมาก่อนทั้งสิ้น ช่อง 3 ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจเดียดฉันท์ กลับยืนมองและสนับสนุนอยู่ห่างๆ และจะว่าไปแล้ว เหล่านี้น่าจะเป็น “ผลพวง” ที่ ประชา มาลีนนท์ มีต่อ ทักษิณ ชินวัตร
ข้อความนี้เป็นเพียงบทวิเคราะห์โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน



บทวิเคราะห์จาก Ok Nation Blog


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์