ลือแกนนำพรรคร่วม จี้นายกฯออก คุมสถานการณ์ไม่ได้

เกิดข่าวลือว่าพรรคร่วมฯทนไม่ไหวกับเหตุรุนแรงในกทม. จี้นายกฯออก ผลักความผิดม็อบแดงเป็นศัตรู นัดคุยท่าที 17 พ.ค.นี้ "ชาญชัย" ปัดไม่ใช่แกนนำหารือพรรคร่วมฯ โฆษกเพื่อแผ่นดินเผย พรรคไม่หนุนสลายม็อบ "นพ.วรรณรัตน์" โยนนายกฯรับผิดชอบคนตาย...

16 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหล่าแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ระบุว่า ที่ผ่านมาพรรคร่วมฯมีการหารือร่วมกันตลอดเวลาถึงสถานการณ์การเมือง

จากเดิมที่มีความเห็นร่วมกันว่า ปัญหาการเมืองตอนนั้น การยุบสภาไม่ใช่ทางออกของการแก้ไขปัญหา จึงพยายามประคับประคองการอยู่ร่วมกับรัฐบาลเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ แต่ภายหลังจากที่สถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้น รัฐบาลมีการใช้ความรุนแรง ประชาชนต้องมาตายเป็นจำนวนมาก พรรคร่วมฯรู้สึกไม่สบายใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้พูดคุยร่วมกันว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ซึ่งหากจะพูดไป นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ เพราะการที่คนตายไม่ว่าจะเป็นใคร แสดงว่านายกรัฐมนตรีไม่สามารถจะดูแลสถานการณ์ได้ ดังนั้นตอนนี้เห็นว่าทางออกที่น่าจะดีที่สุดคือนายกรัฐมนตรีควรจะลาออก เพราะพ้นเวลาการเจรจาไปแล้ว

นอกจากนี้ แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ระบุด้วยว่า ขณะนี้พรรคร่วมฯเริ่มจะมีการเคลื่อนไหว

โดยจะมีนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม และหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่จะประสานงานกับพรรคร่วมเพื่อหาจุดยืนของพรรคร่วมในการแก้ไขวิกฤติของประเทศ โดยทางออกที่จะทำให้ประเทศชาติเจ็บตัวน้อยสุด คือการเสียสละของนายกรัฐมนตรี หากลาออกตอนนี้ก็จะยังเหลือหน้าตาในสังคม แต่หากยังดื้อต่อไปจะไม่เหลืออะไรเลย จะไปหาเสียงที่เหนือหรืออีสานได้หรือไม่ ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีและศอฉ.ระบุตลอดเวลาว่า ผู้ชุมนุมเป็นกลุ่มก่อการร้าย แต่ทำไมศอฉ.ไม่สามารถจับหรือเปิดเผยรายชื่อกลุ่มก่อการร้ายได้เลย ถือเป็นการผลักความผิดไปให้ประชาชน โดยการบอกว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเป็นศัตรูกับรัฐบาล ตอนนี้นายกรัฐมนตรีไม่มีต้นทุนอะไรเหลือแล้ว จึงออกมาแถลงข่าวตลอดเวลา เพื่อสร้างความชอบธรรม ทั้งนี้ที่ผ่านมา พรรคร่วมไม่ได้เห็นด้วยในการใช้ความรุนแรงกับประชาชน จะเห็นว่าตอนที่มีประชุมครม.เลือดคราวที่แล้ว พรรคร่วมฯส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าร่วมด้วย เพราะเรารู้อยู่แล้วว่านายกฯจะสอบถามเรื่องการใช้กำลังกับประชาชน หลายคนจึงอ้างไม่ขอร่วมประชุมด้วย

ด้านนายชาญชัย ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่า ได้รับมอบหมายจากพรรคร่วมรัฐบาลให้เป็นผู้ประสานงาน

เพื่อหาจุดยืนในการแก้ไขวิกฤติของประเทศว่า เวลานี้ตนอยู่ที่จ.มหาสารคาม ยังไม่ได้พูดคุยกับใคร ส่วนการนัดหารือพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ก็ยังไม่ได้รับการนัดหมายมาจากพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ เพราะพรรคเราไม่ใช่พรรคที่เป็นแกนหลัก ขณะนี้ทำได้เพียงรอการประสานจากพรรคแกนหลัก โดยเฉพาะพรรคชาติไทยพัฒนา ว่าเห็นควรหารือประเมินสถานการณ์วันไหน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ขณะนี้ยังประเมินอะไรไม่ได้

เมื่อถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่นกันอยู่หรือไม่ เพราะเวลานี้มีประชาชนเสียชีวิตจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่จำนวนมาก

นายชาญชัย กล่าวว่า ยังเหนียวและก็แน่น และยังไม่มีอะไร เมื่อถามว่า การเสียสละโดยลาออกของนายกฯสามารถผ่อนคลายวิกฤติการเมืองขณะนี้ได้หรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า ไม่รู้ว่านายกฯจะคิดอะไรเช่นนี้หรือไม่ คงต้องไปถามท่านเอง

ขณะที่นพ.อลงกต มณีกาศ โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน ยืนยันว่า หัวหน้าพรรครวมทั้งผู้ใหญ่ในพรรค

ไม่มีเจตนากดดันนายกฯให้ลาออกเพื่อเสียสละตามที่เป็นกระแสข่าว เป็นเพียงข่าวปล่อย ทั้งนี้กระแสข่าวที่เกิดขึ้น เกิดจากบางคนต้องการจะพูด แต่ตัวเองพูดออกตัวไม่ได้ จึงโบ้ยว่าเป็นความเห็นของหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ก็เท่านั้น อย่างไรก็ตามพรรคยังคงยืนยันในจุดเดิมคือ พรรคไม่มีส่วนร่วมต่อการมีมติในการสลายการชุมนุมทุกกรณีทุกเหตุการณ์ เพราะพรรคไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง เมื่อช่วง 3-4 วันก่อนหน้านี้ นายพินิจ จารุสมบัติ แกนนำพรรค ได้รับประทานอาหารพูดคุยปัญหาเกี่ยวกับการเมืองร่วมกับนายกฯ และนายพินิจบอกผ่านไปยังนายกฯว่า เป็นห่วงเรื่องการใช้ความรุนแรงต่อการสลายการชุมนุม และการสลายการชุมนุมทุกครั้ง พรรคเพื่อแผ่นดินไม่ขอสนับสนุนการสลายการชุมนุม ซึ่งนายกฯก็เข้าใจ

ด้านนพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวถึงกระแสข่าวการหารือของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่า

เป็นการหารือกันตามปกติถึงสถานการณ์การเมือง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราก็เสียใจต่อการสูญเสียชีวิตของประชาชน ดังนั้นเราจะต้องหารือร่วมกันในเรื่องนี้ ซึ่งพรรคร่วมทุกคนไม่สบายใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นใคร เราก็ไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย ทุกคนถือว่าเป็นทรัพยากรสำคัญ ซึ่งตนเห็นด้วยกับการเจรจา เพราะไม่อยากให้ใช้ความรุนแรง ไม่อยากเห็นการสูญเสีย

เมื่อถามว่าเห็นด้วยกับการตัดสินใจของรัฐบาลในการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมหรือไม่ น.พ.วรรณรัตน์ ตอบว่า รัฐบาลก็มีหน้าที่

แต่พรรคร่วมฯไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย เราอยากเห็นการเจรจามากกว่า เมื่อถามว่าการสูญเสียครั้งนี้ รัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร น.พ.วรรณรัตน์ ตอบว่า เรื่องนี้ต้องไปถามที่หัวหน้ารัฐบาล เพราะเป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคภูมิใจไทยว่า การหารือกันของพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 17 พ.ค.นี้ พรรคภูมิใจไทยจะส่งตัวแทนไปร่วมหารืออย่างแน่นอน

แต่ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคคงต้องอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ไปก่อน เนื่องจากโครงการในส่วนของพรรคร่วมฯหลายโครงการยังต้องเร่งดำเนินการ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ยังไม่ได้ดำเนินการ เป็นสิ่งสำคัญที่พรรคร่วมฯจะต้องทำให้แล้วเสร็จ ส่วนสถานการณ์ขณะนี้อยู่ในขั้นของวิกฤติ นายกรัฐมนตรีก็ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่การอยู่ต่อไป ก็เป็นความยากลำบากที่รัฐบาลจะสามารถทำงานได้ ยิ่งถ้ายังดึงดันสลายการชุมนุมต่อไป ก็จะทำให้สถานการณ์ยิ่งไปกันใหญ่ อีกทั้งขณะนี้ยังมีกระแสจากภายนอกประเทศว่า สหประชาชาติจะเข้ามาร่วมดูแลสถานการณ์ในประเทศไทย เพราะขณะนี้ประชาชนเสียชีวิตไปกว่า 50 คนแล้ว

ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ตอนนี้ตนอยู่ต่างจังหวัด และหัวหน้าพรรคจะกลับจากต่างประเทศคืนนี้

ซึ่งวันที่ 17 พ.ค.จะมาคุยกัน และจะคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นด้วยว่าจะเอาอย่างไร โดยต้องดูข้อเท็จจริงว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง รัฐบาลทำอะไรไปบ้าง และฟังเหตุผลว่าทำไมถึงทำอย่างนั้น จะกระชับพื้นที่เสร็จสิ้นเมื่อไหร่ และจะมีการแถลงท่าทีพรรคร่วมฯสู่สาธารณะ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า แกนนำพรรคร่วมฯระบุถึงกรณีการยิงพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ก็มีการคุยกันว่าเป็นการยิงจากตึกสูง

คนที่จะอยู่บนตึกสูงได้มีแต่เจ้าหน้าที่เท่านั้น เพราะตึกสูงทุกแห่งมีการเฝ้าระวังขั้นสูงสุด ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีกองกำลังจากฝ่ายอื่นขึ้นไปบนตึกสูงได้ หรือหากเจ้าหน้าที่ปล่อยให้มีกองกำลังไปอยู่บนตึกสูงได้ แสดงว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยได้จริง เพราะฉะนั้นลองคิดดูแล้วกันว่าฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายยิงพล.ต.ขัตติยะ