พลิกปูม เสธ.แดง ผู้แสวงหาศัตรูรอบทิศ จาก ผบ.ตร.ถึง ผบ.ทบ.

แม้ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก  จะไม่ใช่แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือกลุ่มเสื้อแดง

แต่ต้องยอมรับว่า เสธ.แดงมีบทบาทอย่างสูงในการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสือแดงโดยเฉพาะการคัดค้านการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ภายหลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีประกาศแผนปรองดองและให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่าวไปในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2553


แต่ในที่สุด เสธ.แดงซึ่งสร้างศัตรูไว้รอบทิศรวมถึง พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ก็ถูกยิงด้วยปืนความเร็วสูงที่ขมับด้านขวาบริเวณสี่แยกศาลาแดง อาการสาหัส


พล.ต.ขัตติยะ เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเมื่อมีคดีความการรื้อบาร์เบียร์ย่านซอยสุขุมวิท 10 และถูก พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น

ฟ้องเรียกค่าเสียหายที่กล่าวหาว่า พล.ต.อ.สันต์ มีพฤติกรรมในการใช้อำนาจโดยมิชอบและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งทุจริตการจัดซื้อ-จัดจ้าง การทำสำนวนคดีรื้อถอนบาร์เบียร์ที่มีพฤติการณ์ช่วยเหลือนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และเป็นผู้มีส่วนร่วมในการอุ้มนายชูวิทย์จากโรงแรมดิเอมเมอรัลด์ รัชดาภิเษก จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเขียน "หนังสือ คม...เสธ.แดง" ขึ้น อันเป็นหนังสืออัตชีวประวัติและรวบรวมความคิดคำพูดของ พล.ต.ขัตติยะ เอง


ในด้านบทบาททางการเมือง  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 พล.ต.ขัตติยะ  ได้วิพากษ์วิจารณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลายต่อหลายครั้งเรื่องปัญหาการฆ่าตัดตอนในสงครามกวาล้างยาเสพติด ซึ่งทำให้เกิดปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และการปล้นปืนขึ้น


ต่อมาในการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อ พ.ศ. 2551และ เข้ายึดทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ขัตติยะได้ไปปรากฏตัว ณ ที่ชุมนุมด้วย

โดยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า เข้ามาสังเกตการณ์ แต่ต่อมาไม่นาน พล.ต.ขัตติยะได้เปลี่ยนท่าทีใหม่วิพากษ์วิจารณ์กลุ่มพันธมิตรฯ ที่นำประเด็นเขาพระวิหารมาเป็นประเด็นทางการเมือง ทำให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศ


ขณะที่กลุ่มพันธมิตรได้วิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกที่นิ่งเฉยในประเด็นเขาพระวิหาร ซึ่งพล.ต.ขัตติยะ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์พล.อ.อนุพงษ์หน้อมแน้ม จึงโดนตั้งคณะกรรมการสอบวินัย ซึ่งผลการสอบไม่มีความผิด แต่ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ผู้บังคับบัญชา


ในเหตุการณ์ยึดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองของกลุ่มพันธมิตรฯ  พล.ต.ขัตติยะได้วิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ พล.อ.อนุพงษ์  อีกครั้งว่าปล่อยให้พันธมิตรยึดสนามบินไม่ยอมนำกำลังออกมาช่วยรัฐบาลตามที่มีคำสั่งจาก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในายกรัฐมนตรีในขณะนั้น รวมถึงกรณีผู้นำเหล่าทัพไปให้สัมภาษณ์ช่อง 3 ในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ บอกให้ นาย สมชาย วงษ์สวัสดิ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี


หลังจากจุดๆนี้เป็นต้นไป พล.ต.ขัตติยะได้ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกลุ่มพันธมิตรฯและพล.อ.อนุพงษ์และวิพากษ์วิจารณ์ พลงอ.อนุพงษ์อย่างรุนแรง

จนกระทั่งถูกคำสั่งพักราชการในเดือนมกราคม 2553 ในข้อหาวิพากษ์วิจารณ์ผู้บังคับบัญชา ซึ่ง พล.ต.ขัตติยะ ไม่ยอมรับ โดยอ้างว่า กองทัพไม่มีอำนาจในการสั่งพักราชการตน เนื่องจากเป็นถึงนายทหารระดับนายพล
ต่อมา พล.ต.ขัตติยะก็ได้ประกาศตัวว่าเป็น  นปช. และตระเวนไปปราศรัยที่เวทีคนเสื้อแดงทั่วประเทศ และประกาศตัวว่าถ้าสามเกลอพลาดจะขึ้นเป็นแกนนำแทนด้วย


ในเรื่องนี้ต่อมา ทำให้นายทหารระดับสูงของกองทัพบกได้ออกมาวิจารณ์การกระทำของ พล.ต.ขัตติยะ ถึงความเหมาะสมรวมทั้งได้แสดงออกถึงการร่วมใจปกป้องศักดิ์ศรีของกองทัพด้วย


นอกจากนี้  พล.ต.ขัตติยะ ได้มีแนวคิดจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา ในชื่อ พรรค เสธ.แดง เพื่อลงเลือกตั้งในปลายปี 2550 โ  แต่ไม่ได้รับการรับรองให้จดทะเบียนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. โดยนางสดศรี สัตยะรรม ให้เหตุผลว่าเป็นชื่อบุคคลไม่สามารถนำมาตั้งชื่อพรรคได้ โดยส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ โดยเรื่องชื่อพรรคนี้เรื่องค้างอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ 2 ปีเต็มไม่มีความคืบหน้า พล.ต.ขัตติยะ จึงขอถอนเรื่องออกมาและมาจัดตั้งใหม่ ในนามว่า พรรคขัตติยะธรรม



เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์