เมื่อวันที่ 13 พ.ค. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศอฉ.เตรียมล้อมคนเสื้อแดงในช่วงเย็น ว่า ยืนยันว่าสำหรับคนเสื้อแดง นี่คือสถานการณ์แห่งสันติภาพ หากรัฐบาลเห็นว่าเป็นสถานการณ์แห่งสงครามก็ว่าไป เพราะการเอากำลังมาปิดล้อม วางพลแม่นปืน และใช้กระสุนจริงไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ขอเรียกร้องของเรามีข้อเดียวคือเรียกร้องให้นายสุเทพเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เป็นทางออกที่ง่ายกว่าและไม่เกิดความสูญเสียใดๆ เลย ยืนยันว่าจะพยายามรักษาสถานภาพไว้ให้ได้ แต่ถ้ารัฐบาลจะเริ่มสงครามเราจะต่อสู้ด้วยสันติวิธี โดยจะต่อต้านผลักดันด้วยสันติวิธี แต่เวลานี้ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการนั้นเป็นไปตามหลักสากลหรือไม่
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า รัฐบาลต้องเข้าใจว่า คนเสื้อแดงในฐานะผู้เดือดร้อนไม่ใช่ลูกไล่ ดังนั้นถ้าจะมีการเจรจาต้องทำด้วยความจริงใจ ไม่ใช่ข่มขู่ วันนี้รัฐบาลนอกจากปล้นอำนาจแล้วยังจะปล้นเสรีภาพการตัดสินใจด้วยหรืออย่างไร ส่วนที่รัฐบาลอ้างว่าต้องการเปิดพื้นที่เพื่อให้เด็กให้ได้เรียนได้ตามปกตินั้น คนเสื้อแดงไม่ได้ขัดขวางสิทธิ์นั้น แต่หากมีการเปิดเรียนจะประสานกับโรงเรียน เพื่อพูดคุยถึงมาตรการความปลอดภัย และจะอำนวยความสะดวกให้ แต่ทำไมรัฐบาลไม่เร่งเจรจาให้จบก่อนวันนั้น วันนี้คนเสื้อแดงไม่ได้อยู่เรียกร้องให้มีวันเลือกตั้ง แต่ 21 ชีวิตที่ตายไปต้องมีคนรับผิดชอบ ระหว่างรัฐบาลเริ่มกระบวนการยุติธรรม กับการเอาสไนเปอร์ เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว ที่ริมถนนนั้นจะเป็นการเพิ่มคนเจ็บคนตาย ขอให้คิดว่าอันไหนควรที่จะทำกว่า หรือนายอภิสิทธิวันนี้แยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนควรไม่ควร ส่วนความพร้อมในการรับมือการสลายการชุมนุมมีมาตรการไว้เรียบร้อยแล้ว และในเวลา 18.00 น. จะมีการซักซ้อมมาตรการรับมือกับการสลายการชุมนุม