ศอฉ.สั่งตัดน้ำ-ไฟประสงค์เริ่มเที่ยงคืนนี้ สั่งเดินหน้ากดดันเต็มรูปแบบ หากไร้ผลพร้อมเพิ่มมาตรการเข้มข้น ลั่นกองทัพเตรียมพร้อมสลายชุมนุม มั่นใจสงบก่อนเปิดเทอม
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 พฤษภาคม ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศุนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)
แถลงผลการประชุมศอฉ.ว่า การประชุมช่วงเช้ามีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศอฉ.เป็นประธานในการประชุม ซึ่งยอดผู้ชุมนุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีจำนวน 5 พันคน ตลอดเวลาที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้เริ่มชุมนุมในพื้นที่ต่างๆ ศอฉ. ได้ปฏิบัติงานควบคู่กับรัฐบาลมาตลอดได้พยายามทุกวิถีทาง เพื่อนำความสงบกลับสู่บ้านเมืองด้วยวิธีไม่ใช้กำลังเกินความจำเป็น มีการขอคืนพื้นที่บางส่วน มีการบังคับใช้กฎหมายโดยใช้มาตรการจากขั้นเบาไปหาหนัก และเรียนชี้แจงกลุ่มผู้ชุมนุมให้ทราบตลอดเวลาว่า การชุมนุมเป็นสิ่งผิดกฎหมาย รัฐธรรมนูญไม่คุ้มครอง เพราะทำให้ประชาชนทั่วไปเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ต่างๆที่ปฏิบัติภารกิจด้วยความยากลำบาก มีความความขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ตลอด ที่สำคัญมีกลุ่มก่อการร้าย มีกองกำลังติดอาวุธแฝงตัวปนอยู่ในพื้นที่การชุมนุม พื้นที่ราชประสงค์ในขณะนี้เป็นพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีประกาศแผนปรองดอง 5 ประการ
ขั้นต้นเข้าใจว่าน่าจะได้รับการตอบรับจากแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุม ถือว่ามีสัญญาณที่ดีในระยะแรก ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่สบายใจระดับหนึ่ง แต่ในที่สุดพิสูจน์ให้เห็นว่า แกนนำพยายามตั้งเงื่อนไขรายวันบิดพลิ้วเรื่องต่างๆ เพื่อประวิงเวลาออกไป แม้กระทั่งนายสุเทพได้ไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอแล้วก็ตาม วันนี้ยิ่งมีความชัดเจนว่า แกนนำ นปช. ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ยอมรับการดำเนินการใด
“การประชุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มติของ ศอฉ. สรุปว่าเราจำเป็นต้องใช้มาตรการกดดันพื้นที่การชุมนุมอย่างเต็มรูปแบบในวันนี้ เริ่มต้นจากวิธีการที่ไม่ใช่กำลัง คือ กำหนดตัดน้ำ ตัดไฟ สาธารณูปโภค โทรศัพท์ การเดินทางโดยการใช้บริการสาธารณะ รถเมล์ รถไฟฟ้า เส้นทางน้ำคลองแสนแสบ คือ ปิดตั้งแต่ท่าเรือสุขุมวิท 15 ถึงท่าเรือบ้านครัวเหนือ ส่วนสถานีรถไฟฟ้าอาจปิดตั้งแต่ สถานีสยามถึงสถานีเพลินจิต ราชดำริ ชิดลม นอกจากนี้ ในพื้นที่ชุมนุมทั้งหมดจะมีการปิดเส้นทางเข้าออก เส้นทางการส่งกำลังบำรุงให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ มาตรการต่างๆจะเริ่มเร็วที่สุดตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้เป็นต้นไป มั่นใจว่า ศอฉ.ควบคุมสถานการณ์ต่างๆได้” โฆษกศอฉ.กล่าว
ศอฉ.แถลงตัดน้ำไฟโทรศัพท์แดงราชประสงค์เที่ยงคืนนี้
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นความพยายามอย่างที่สุด เราพยายามหลีกเลี่ยงการใช้กำลังป้องกันการสูญเสียเลือดเนื้อ
ดังนั้น ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ชุมนุม หรืออาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ชุมนุม หรือพื้นที่ใกล้เคียงอาจต้องได้รับผลกระทบ ประสบปัญหาไม่สะดวก สบาย ศอฉ.ต้องกราบขออภัย ณ ที่นี้ ทันทีที่มีการคลี่คลบายสถานการณ์ได้ ทุกอย่างจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบอีกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่ชุมนุมใกล้เคียง ผ่านใบปลิว เอสเอ็มเอส รถกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ มาตรการดังกล่าวคงไม่ถึงขั้นต้องอพยพประชาชนในบริเวณพื้นที่ชุมนุมออก แต่บางคนที่มีที่พักสำรอง ขอความกรุณาออกจากพื้นที่ก่อน แต่หากมีความจำเป็นอาศัยอยู่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ที่ตั้งด่านอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับที่ชุมนุมจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับท่านในการผ่านเข้าออก อาจทำเอกสารเป็นรายบุคคล ส่วนกระทรวงต่างประเทศได้ชี้แจงสถานทูต สำนักข่าวต่างประเทศเรียบร้อย
“วันนี้จะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับมาตรการที่กำหนดมาหารือในรายละเอียดว่า มีข้อปฏิบัติอะไรบ้าง ส่วนจะใช้เวลาในการกดดันพื้นที่นานแค่ไหนนั้น ยังตอบไม่ได้ แต่เชื่อว่าคงไม่ใช้เวลาเนิ่นนานนัก เพราะเรามีขีดจำกัด เพราะใกล้ช่วงเวลาเปิดเทอมที่มีผลต่อความปลอดภัยของเยาวชนของขาติ ส่วนกรณีที่หากมาตรการนี้ไม่เป็นผล จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ผมยังไม่ขอเรียนชี้แจงให้ทราบ แต่มาตรการนี้ไม่ใช่มาตรการสุดท้าย แต่หากไม่เป็นผลคงต้องมีมาตรการเข้มข้นมากไปกว่านี้ คงจะมีการชี้แจงเข้าใจเพิ่มเติมต่อไป”โฆษกศอฉ. กล่าว
“กองทัพพร้อมที่จะใช้กำลังทหารในการขอพื้นที่คืน มาตรการในการกดดันหลังเที่ยงคืนของคืนนี้ นายกฯได้ขีดเส้นตายเอาไว้ว่า ต้องยุติการชุมนุมภายในวันนี้ ในช่วงที่ผ่านมา นายกฯได้ทอดสะพาน เพื่อความปรองดองอย่างที่สุด แต่สิ่งต่างๆที่แกนนำได้เปิดออกมาเป็นเงื่อนไขรายวัน เช่น กรณีที่นายสุเทพ มอบตัวดีเอสไอ การรับทราบข้อกล่าวหากับดีเอสไอ แต่สุดท้ายกลุ่มผู้ชุมนุมกลับระบุว่า ต้องไปมอบตัวกองปราบ สาเหตุเพราะดีเอสไอเป็นกรรมการใน ศอฉ. จึงอยากถามว่า ผบ.ตร.ไม่ได้เป็นกรรรมการ ศอฉ.หรือ อย่างไรก็ตามเชื่อว่า สุดท้ายต้องสงบ แต่กำหนดเวลาไม่ได้ แต่เวลาเปิดเทอมของนักเรียนใกล้เข้ามา นายกฯขีดเวลาที่ชัดเจนวันนี้สุดท้ายที่ต้องยุติการชุมนุมโดยไม่มีเงื่อนไข ส่วนที่มีการเชิญผู้ว่าราชการจังหวัด 39 จังหวัดมาหารือ เป็นรายงานข้อมูลข่าวสารว่ามีการเคลื่อนไหวเวทีคู่ขนาน ถึงแม้ผู้เคลื่อนไหวจะมีจำนวนไม่มากต้องป้องกันไว้ก่อน
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ การตัดน้ำตัดไฟจะส่งผลให้กลุ่มเสื้อแดงอาละวาดมีการเผา ทำลายตึก อาคารสถานที่บริเวณที่ชุมนุม
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาโดยเฉพาะแกนนำว่า หากยิ่งทำความเสียหายมาก หลังจากจบการชุมนุมคดีต่างๆก็จะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น หากผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมเองจะมีภาพอีกอย่างหนึ่ง แต่หากให้เจ้าหน้าที่รัฐยุติการชุมนุม โดยใช้วิธีการบังคับก็จะเป็นภาพอีกแบบหนึ่ง ทั้งนี้ ที่ประชุม ศอฉ.พูดถึงเงื่อนไขที่ผู้ชุมนุมกำหนดเป็นแค่การต่อรอง เช่น เรื่องประกันตัว คดีความ โดยรัฐบาลยืนยันมาตลอดไม่มีการต่อรองในเรื่องพวกนี้เพราะเป็นเรื่องของศาล โดยกลุ่มเสื้อแดงเคยบอกว่าไม่ต้องการให้เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม วันนี้เป็นสิ่งที่ชี้ชัดว่า เขาพยายามบีบให้รัฐเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยเจ้าหน้าที่รัฐก็บอกว่าไม่ได้
เมื่อถามว่า เราจะทำให้เสร็จก่อนวันที่ 17 พ.ค.นี้ ก่อนเปิดเทอมใช่หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า มีความชัดเจนในระดับหนึ่งเพราะนายกฯเป็นผู้กำหนด ไม่เช่นนั้นปัญหาจะขยายรุกลามไปเรื่อย เมื่อถามว่า ศอฉ.มีการคาดการณ์ไว้หากปล่อยให้ชุมนุมจนถึงเปิดเรียนอาจมีการจับนักเรียนเป็นตัวประกัน พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถคิดได้ ศอฉ.ก็คิดถึงเรื่องนี้ เพราะความปลอดภัยนักเรียนเป็นเรื่องใหญ่