นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการ ศอฉ.ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ถึงการประชุม ศอฉ.เมื่อช่วงเช้า
ในส่วนของการเจรจาในช่วงเย็นของวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา มีข้อยุติที่ชัดเจนและมีการพูดคุยครบทุกประเด็นแล้วว่า จะมีการปฏิบัติอย่างไร แต่ในส่วนของแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ดูเหมือนจะมีความเห็นไม่ตรงกัน จึงทำให้เกิดกรณียืดเยื้อ สำหรับนายกฯ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าฝ่ายรัฐบาลได้เปิดโอกาสให้มีการเจรจาและพูดคุยในเงื่อนไขต่างๆ จนครบถ้วนแล้ว ถ้าล่าช้าจะเกิดความเสียหาย ดังนั้น สิ่งที่เหลือเป็นเรื่องของความมั่นคงที่ต้องไปดำเนินการ และมีมาตรการในการกดดันกลุ่มผู้ชุมนุม
"ยังคิดว่าภายในไม่เกินครึ่งวันนี้ (12 พฤษภาคม) ควรที่จะข่าวดีให้กับคนไทย ส่วนของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายแกนนำได้พูดคุยกันตรงทุกประเด็นแล้ว จึงไม่ควรเกินเที่ยงนี้ ควรจะมีข่าวที่เป็นสัญญาณดีของการเลิกการชุมนุม ซึ่งถ้ากลุ่มผู้ชนุมนุมเห็นแก่ประเทศชาติ เห็นแก่ชาวบ้านที่มาชุมนุม และมีความเป็นเอกภาพในแกนนำ โดยไม่ประสงค์ที่จะให้เกิดความรุนแรง ทุกอย่างก็น่าจะเรียบร้อย โดยเป็นการเดินตามแผนปรองดองที่จะมีการประกาศในเรื่องของการยุติการชุมนุม ซึ่งรัฐก็รอสัญญาณอยู่" นายสาทิตย์ กล่าว
เมื่อถามว่า แผนโรดแมปจะถูกยกเลิกโดยปริยายใช่หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องต้องแยกแยะออกจากกัน
โดยเรื่องการปฏิรูปสื่อ การปฏิรูปประเทศไทย และการปกป้องสถาบันนั้น ยังคงดำเนินการต่อ ส่วนกระบวนการเริ่มการยุบสภาเป็นเรื่องที่ต้องดูเงื่อนไขว่าถ้าไม่มีการสลายการชุมนุมโดยฝ่ายผู้ชุมนุมเอง ก็คงเป็นเรื่องที่ต้องทบทวนเหมือนกัน ถือว่าอยู่นอกเงื่อนไขแล้ว ขณะนี้สิ่งที่เราดูคือภายในเที่ยงวันนี้ จะมีปฏิกิริยาที่เป็นข่าวดีให้กับคนไทยโดยกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ เพระดูเหมือนว่าทุกอย่างได้พูดคุยจบสิ้นหมดแล้ว
“ถ้าแกนนำมีความเป็นเอกภาพและเห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมืองทุกอย่างก็จบได้ ในส่วนของรัฐบาล ก็ไม่อยากจะสร้างความขัดแย้งต่อไป และขอปฏิเสธว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้อยากเห็นความรุนแรงหรือกระหายเลือด เพียงแต่นายกฯต้องการให้เด็กได้ไปโรงเรียน ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ แต่มีบางส่วนในกลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมที่กระหายเลือด อยากเห็นความรุนแรงเพื่อสร้างเป็นเงื่อนไขทางการเมือง รัฐบาลจึงเห็นว่ากระบวนการเจรจาได้ทำมาอย่างครบถ้วนแล้ว เพราะฉะนั้น วันนี้ซึ่งไม่ควรเกินเที่ยง ก็ควรมีคำตอบที่ชัดเจน มาตรการการกดดันก็ต้องเดินหน้าต่อไป” นายสาทิตย์ กล่าว
เมื่อถามว่า ถ้าหลังเที่ยงวันนี้แล้วไม่มีคำคอบ จะมีมาตรการอย่างไร นายสาทิตย์ กล่าวว่า มาตรการด้านความมั่นคงต้องเดินต่อ ซึ่งมีหลายขั้นตอน รวมทั้งมีมาตรการในการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนจะทำอะไรแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับฝ่ายความมั่นคงที่จะดำเนินการ
เมื่อถามว่า ถ้ามีการเข้าไปดำเนินการในพื้นที่ รัฐมีมาตรการในการดูแลประชาชนที่อยู่ในพื้นที่การชุมนุมอย่างไร
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ศอฉ.มีหน้าที่ในการดำเนินการเพื่อให้สถานการ์การชุมนุมยุติ ขณะนี้มีแผนที่เป็นขั้นตอนอยู่แล้ว โดยทุกขั้นตอนจะคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชน แต่ถ้าจำเป็นจริงๆที่ต้องดำเนินการ ก็อาจส่งผลกระทบต่อประชาชน ทำให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนบ้าง แต่ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำ มิฉะนั้นความเดือดร้อนที่ใหญ่กว่าอาจส่งผลกระทบระยะยาว แต่ ศอฉ.เตรียมแผนการไว้อย่างดีแล้ว โดยประสานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง