สวนดุสิตโพล ระบุ ประชาชนร้อยละ 49.19 นิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มขึ้น หลังประกาศแผนโรดแม็ป 5 ข้อ แต่อีกร้อยละ 45.78 ไม่มั่นใจว่าการเลือกตั้ง 14 พ.ย.นี้จะเกิดขึ้นจริง ส่วนร้อยละ 60.29 ชี้ ผลการชุมนุมกระทบเศรษฐกิจ, ท่องเที่ยว, การลงทุน และการพัฒนาประเทศชะงัก...
เมื่อเวลา 09.00 น. 9 พ.ค. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,508 คน ระหว่างวันที่ 6-8 พ.ค.53
ถึงกรณีการประกาศแผนการสร้างความปรองดอง หรือโรดแม็ป 5 ข้อ และนายกรัฐมนตรีบอกเสื้อแดงต้องเลิกชุมนุมก่อนวันที่ 15 พ.ค.นี้ หากไม่มีการดำเนินการใดๆ อาจเปลี่ยนใจไม่ยุบสภา ซึ่งจากข้อเสนอดังกล่าวทำให้มีทั้งผู้พอใจและไม่พอใจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้เหตุผลว่าอย่างน้อยการประกาศโรดแม็ปช่วยลดบรรยากาศความรุนแรงทางการเมืองลงได้ แผนโรดแม็ปถือเป็นการหาทางออกให้การเมืองไทย และช่วยให้สถานการณ์ต่างๆ กลับคืนสู่ภาวะปกติเหมือนเดิม
โดยความเห็นจากประชาชนร้อยละ 49.19 ระบุว่า
จากการประกาศโรดแม็ป 5 ข้อ ทำให้คะแนนนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มขึ้น เพราะนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สามารถนำบ้านเมืองกลับคืนสู่สภาวะปกติ และทำตามแผนโรดแม็ปได้จริง จะได้รับความไว้วางใจ ความเชื่อมั่น และเรียกศรัทธาจากประชาชนทุกกลุ่มกลับคืนมา
ส่วนร้อยละ 45.78 ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ย.นี้ เพราะแกนนำนปช.ยังไม่มีการแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าจะสลายการชุมนุมแต่อย่างใด และยังมีกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการยุบสภา
ขณะที่ร้อยละ 60.29 เห็นว่าบทเรียนที่ประชาชนได้รับจากการชุมนุมที่ผ่านมาคือความเสียหายทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การลงทุน และการพัฒนาประเทศหยุดชะงัก ส่วนร้อยละ 44.48 คิดว่าการประกาศโรดแม็ป 5 ข้อของนายกฯ ช่วยลดความตึงเครียดทางการเมืองได้บ้าง
สำหรับร้อยละ 46.11 เชื่อว่าถ้ากลุ่มนปช.ยุติการชุมนุมได้จริง ยังกังวลถึงการเลือกตั้งใหม่ที่จะมีขึ้น การซื้อเสียง และการแข่งขันในการหาเสียงจากประชาชน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
