แกนนำเสื้อหลากสีเห็นด้วยโรดแมป 5 ข้อ ยันเคลื่อนไหวต่อจนกว่าเสื้อแดงยุติชุมนุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 พ.ค. นพ.ตุลย์ สิทธิสมพงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายกลุ่มคนเสื้อหลากสี

พร้อมตัวแทนกลุ่มสมาชิกเฟซบุ๊กมั่นใจหนึ่งล้านคนต่อต้านการยุบสภา เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงานนายกฯ บริเวณชั้น 2 อาคารรัฐสภา เพื่อหารือถึงการดำเนินการตามโรดแมปสร้างความปรอดอง 5 ข้อของนายกฯ ใช้เวลาพูดคุยประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที

จากนั้นเวลา 12.15 น. นพ.ตุลย์ให้สัมภาษณ์ว่า เครือข่ายเห็นด้วยกับโรดแมปทั้ง 5 ข้อ เพียงแต่กังขาว่าจะทำได้จริงหรือไม่

จึงอยากให้เวลานายกฯได้ทำตามโรดแมปเป็นเวลา 2 เดือน จากนั้นจะมาประเมินว่าได้ผลมากน้อยแค่ไหน ถ้ายังไม่เห็นผลใดๆเครือข่ายฯก็จะออกมาเคลื่อนไหว แต่รูปแบบคงไม่ใช่ออกมาชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล เพียงแต่อาจใช้วิธีจัดการเสวนา หรือแถลงข่าวต่อประชาชน หรือทำหนังสือแจ้งต่อนายกฯ
               

“เราคิดว่าทั้ง 5 ข้อเป็นเรื่องที่นายกฯต้องทำอยู่แล้ว ทั้งข้อ 1.การจาบจ้วงสถาบัน ภายในเดือนมิ.ย.นี้เราอยากให้นายกฯแสดงให้เห็นว่าได้ดำเนินการไปแล้วอย่างไรบ้าง เพราะคนต่างจังหวัดไม่อยากได้ยินวิทยุชุมชนที่หมิ่นสถาบันอีก ส่วนข้อ 3.เรื่องสื่อ เราก็อยากให้สื่อมีอิสรเสรีภาพอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังอยากให้รัฐบาลและตำรวจทำคดีความต่างๆอย่างจริงจัง อย่าทำให้สำนวนอ่อนจนคนร้ายหลุดคดีอีก แต่สิ่งที่เครือข่ายฯเน้นที่สุดคือสาเหตุที่เหตุการณ์ทุกอย่างบานปลาย เพราะทหารตำรวจร่วมมือกับรัฐบาลน้อยเกินไป หลังจากฟังเหตุผลที่นายกฯชี้แจง เราก็เข้าใจ แต่อยากให้เลื่อนเวลายุบสภาออกไปอีก เพราะทั้ง 5 ข้อต้องใช้เวลา หากทำได้จริง เชื่อว่าบ้านเมืองก็จะสงบขึ้น” นพ.ตุลย์ กล่าว

               
นพ.ตุลย์ กล่าวว่า ทั้งนี้เครือข่ายเห็นว่าการกำหนดวันยุบสภาของนายกฯเร็วเกินไป อยากจะให้เลื่อนออกไปอีก

โดยช่วงเวลาที่เครือข่ายเห็นว่าเหมาะสมคือต้นปี 2554 เพื่อให้มีรัฐบาลใหม่ภายในเดือนม.ค.จะได้มาจัดทำงบประมาณรายจ่ายประมาณปีถัดไปได้ทัน สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เครือข่ายฯเห็นว่าไม่มีความจำเป็น เพราะทั้ง 6 ประเด็นของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯไม่ใช่การแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะแก้ไขมาตรา 237 ซึ่งแท้จริงควรจะแก้เพิ่มโทษมากกว่านิรโทษกรรม นอกจากนี้เครือข่ายฯยังได้แจ้งต่อนายกฯว่าไม่เห็นด้วยกับการคืนสิทธิให้กับนักการเมือง 111+109 คน ซึ่งนายกฯก็บอกว่า เรื่องนี้ตนตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ จะต้องเอามาวางบนโต๊ะ เพื่อถามว่าคนทั้งประเทศเห็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม นายกฯไม่ได้พูดชัดว่าจะต้องมีการทำประชามติหรือไม่

               
นพ.ตุลย์ กล่าวว่า สำหรับการเคลื่อนไหวคนเสื้อหลากสี จะยังไม่ยุติจนกว่าคนเสื้อแดงจะยุติการชุมนุม

หลังจากนั้นตนก็จะเดินทางไปมอบตัวกับคดีที่มีผู้แจ้งความเอาไว้ หากคนเสื้อแดงยุติการชุมนุม เครือข่ายฯก็จะยุติการชุมนุมในที่สาธารณะ แต่จะติดตามความเคลื่อนไหวคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดต่อไป ส่วนกรณีที่แนวทางเสื้อหลากสีคล้ายกับเสื้อเหลือง เพราะจุดยืนคล้ายคลึงกัน คือปกป้องสถาบัน แต่ยืนยันได้ว่าเป็นอิสระจากกัน แม้คนเสื้อหลากสี 50% จะเป็นคนเสื้อเหลืองก็ตาม ทั้งนี้ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับแถลงการณ์ของกลุ่มพันธมิตรที่ประณามโรดแมปดังกล่าวทันที เพราะเป็นแนวทางที่รุนแรงเกินไป ดังนั้นเครือข่ายฯจึงยืดหยุ่นมากกว่า เพราะถ้าแข็งกร้าวไปคนไทยจะไม่ยอมรับ

ส่วนกรณีคนเสื้อเหลืองนำสารจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯมาให้นายกฯเหมือนกับถูกครอบงำ นพ.ตุลย์ กล่าวว่า “ส่วนตัวก็เห็นว่าไม่ค่อยเหมาะเท่าไร”