"มาร์ค"เสนอ 5 กรอบทุกฝ่ายปรองดอง ร่วมแก้ทั้งระบบ ช่วยกันดูแลสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ดึงสู่การเมือง ปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ สร้างเป็นธรรมทุกเรื่อง มีกลไกอิสระคุมการนำเสนอข่าวสาร ตั้ง กก.อิสระสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ไม่สงบทุกกรณี ประกาศแผนแก้ปัญหาการเมือง จัดเลือกตั้ง 14 พ.ย. หากผู้ชุมนุมปฏิเสธยังคงเดินหน้าต่อ แต่กำหนดเวลาแน่นอนไม่ได้ เมื่อเวลา 21.10 น. วันที่ 3 พฤษภาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี "วันนี้จะมาพูดถึงการคลี่คลายสถานการณ์ ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เป็นการสะสมปัญหามาเป็นระยะเวลานานหลายปี ที่สะสมมาทั้งหมดทำให้เกิดความแตกแยกร้าวลึก คำตอบทางการเมืองที่อยากบอกประชาชนในวันนี้ คือการสร้างกระบวนการปรองดองขึ้นมา กระบวนการนี้ผมได้สดับตรับฟังจากหลายฝ่ายที่ได้ถ่ายทอดปัญหาความเดือดร้อนที่อาจเป็นปัญหาความขัดแย้งอย่างครบถ้วน" 2.การปฏิรูปประเทศ เพื่อแก้ไขความขัดแย้งอาจจะถูกมองว่าเป็นการเมือง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากความไม่เป็นธรรม ของเรื่องเศรษฏิจ หลายคนที่มาชุมนุมอาจจะสัมผัสโดยตรงว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ขาดโอกาส ถูกรังแก สิ่งที่เราจะช่วยกันทำ คือ ไม่ปล่อยให้เป็นเหมือนในอดีตที่รัฐบาลก่อนหน้านี้ที่ทำให้ระบบเกิดความไม่เป็นธรรม "วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนจะได้รับสวัสดิการในเรื่องอาชีพ รายได้ ความมั่นคงในชีวิต และพี่น้องประชาชนที่ทุกข์ร้อนเป็นพิเศษ จะต้องได้รนับการดูแลอย่างเป็นระบบ ต้องมีการดึงเอาคนจากทุกภาคส่วนในสังคม เข้ามาช่วยกันแก้ไข้อย่างเป็นระบบ และมีเป้าหมายที่ชัดเจนที่สามารถประเมินผลได้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดที่เข้ามาบริหารประเทศต้องต้องเข้ามามาสร้างความเป็นธรรมอย่างชัดเจน" 3.ในยุคปัจจุบันสังคมไทยเป็นสังคมข้อมูลข่าวสาร จริงอยู่ที่เราต้อง "เคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก" แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า อำนาจของสื่อถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง อาศัยช่องโหว่ทางกฎหมาย แม้กระทั่งสถานีของรัฐก็ถูกกล่าวหาว่านำไปเสนอให้เกิดความขัดแย้ง สื่อต้องมีเสรีภาพ แม้จะมีอิสระในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่จะไม่สร้างความขัดแย้งภายในประเทศ 4. หลังจากชุมนุมเคลื่อนไหว มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดความรุนแรงและสูญเสีย เกิดข้อสงสัยต่างๆนาๆ ไม่ว่าการสูญเสียเหตุการณ์ 10 เมษายน เหตุการณ์ที่สีลม หรือที่ดอนเมือง กระทบกระเทือนจิตใจประชาชน ทุกเหตุการณ์จำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ต้องมีคณะกรรมการอิสระเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่าง ๆและให้เกิดความเป็นจริงต่อสังคม 5. เกี่ยวกับการเมืองโดยตรง แม้นักการเมืองจะเป็นคนกลุ่มเล็ก แต่เป็นตัวแทนของประชาชน ความขัดแย้งทางการเมืองที่ยาวนานกว่า 4-5 ปีที่ผ่านมา เกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรมในหลายด้าน ทั้ง รัฐธรรมนูญ กฎหมายบางฉบับ การลิดรอนสิทธิผู้เกี่ยวข้องทางการเมือง ถึงเวลาเอามาวาง และมีกลไกให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เรื่องรัฐธรรมนูญ จนถึงความผิดการชุมนุมทางการเมือง ไม่ใช่เกิดความรู้สึกไม่ยอมรับ 5 ข้อนี้ที่เสนอต้องมาช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ จะเป็นองค์ประกอบการปรองดอง กระบวนการนี้ ไม่บรรลุ เป้าหมายหากไม่ได้รับความร่วมมือ ทุกฝ่าย รัฐบาล รัฐสภา องค์กรภาคประชาชน เข้ามาทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ซึ่งจะต้องไม่มีการขัดขวาง การปะทะ มั่นใจว่าจะใช้เวลาไม่นานจะสร้างความปรองดองกลับคืนสังคม และรัฐบาลพร้อมจะให้มีการเลือกตั้งให้ประชาชนตัดสินอีกครั้ง หากแผนการปรองดองและทำบ้านเมืองให้งสงบสุข การจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่ 14 พฤษจิกายน เป็นเป้าหมายที่รัฐบาลพร้อมดำเนินการ หากไไม่ได้รับการสนับสนุน รัฐบาลมุ่งมั่นเดินตาม 5 ข้อต่อไป เพียงแต่กระบวนการต่างอาจล่าช้า เราอาจไม่สามารถจัดการเลือกตั้งตามที่เสนอไว้ เกิดขึ้นเมื่อไหร ดังนั้นขอเชิญชวนทุกฝ่ายให้มามีส่วนรวมในกระบวนการปรองดอง
แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ได้พูดผ่านรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ได้พูดถึงการแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองสิ่งที่รัฐบาลเน้นยำมาตลอด หลังจากได้ทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการเร่งรัดขยายผล การก่อการร้าย การตรวจยึดอาวุธสงครามเป็นจำนวนมาก ส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญาได้ดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง และบอกกลับพี่น้องว่ารัฐบาลจะให้คำตอบทางการเมืองโดยเร็ววัน
กระบวนการปรองดองมีองค์ประกอบ 5 ข้อ
1. ประเทศไทยเราโชคดีที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นที่ยึดเหนี่ยวหลอมรวมคนไทยทั้งชาติ แต่น่าเสียดายที่มีคนกลุ่มหนึ่งดึงสถาบันกษัตริย์ลงมา มีความพยายามดึงสถาบันลงมาสู่ความขัดแย้งทางการเมือง การที่จะทำให้สังคมไทยเป็นปกติสุขต้องช่วยกัน ไม่ให้ดึงสถาบันกษัตริย์ลงมา แผนการ คือ ทุกฝ่ายต้องลงมาช่วยกันทำงานเทิดทูนสถาบันกษัตรย์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานแก่ประชาชน ไม่ว่าเรื่องรู้รักสามัคคี อยากเชิญชวนทุกฝ่ายมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อไม่ให้ถูกกดึงมาเป็นเครื่องมือความขัดแย้งทางการเมือง
มาร์คเสนอเลือกตั้ง14พ.ย.ยุบสภาใน5เดือน-ชง5ข้อปรองดอง
แน่นอนข้อเสนออาจไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับทุกคน แต่มีคำตอบไม่มากก็น้อย
และเป็นจุดที่คิดว่าจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง กลุ่มเสื้อแดงที่มาแสดงออก สิ่งที่เสนอไม่อาจตอบสนองยุบทันที15วัน หรือ 30วัน ได้กระบวนการปรองดองจะแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ และแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน เป็นข้อเสนอที่มีคำตอบให้กับท่าน
บางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม ให้การสนับสนุนรับบาล ให้กำลัง ท่านอาจไม่เห็นด้วยกับการลดวาระรัฐบาลมา 1 ปี
แต่อยากให้มั่นใจในกระบวนการนี้ เพราะข้อเสนอทั้งหมดเป็นคำตอบทางการเมือง ส่วนการดำเนินคดี บุคคลที่มีความผิดต่างๆก็ยังดำเนินการอยู่ และการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นปลายปี ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลจะไม่สามารถมารับใช้ประชาชนได้อีก ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนเป็นข้อเสนอที่ยังยึดมั่นในหลักการ การเป็นนิติรัฐ เป็นคำตอบทางการเมือง เชื่อว่าข้อเสนอนี้รักษานิติรัฐและปกป้องการเมืองในรระบอบประชาธิปไตย
ข้อเสนอเรื่องการปรองดองไม่ง่าย เป็นข้อเสนอที่ไม่ถูกใจใครแม้แต่คนเดียวเลยก็ได้ แต่การปรองดองอย่างแท้จริงจะเกิดขึ้น ได้คือ ไม่มีใครได้ทุกอย่าง แต่ทุกฝ่ายต้องพร้อมจะเสียสละ ผมเชื่อโดยบริสุทธิ์ว่าเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ
หากผู้ชุมนุมไม่ยอมรับข้อเสนอจะทำต่อ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร เชื่อว่าข้อเสนอนี้จะเป็นที่ยอมรับสำหรับคนไทยทุกกลุ่ม และผมจะพยายามให้คนไทยมีความสุขในวันพุธนี้ที่เป็นวันฉัตรมงคล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ที่ให้เลือกตั้งวันที่ 14 พ.ย. คาดว่ารัฐบาลต้องประกาศยุบสภาประมาณปลายเดือนกันยายนหรือไม่เกิน 1 ตุลาคม 2553 หรืออีกประมาณ 5 เดือนเนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 กำหนดว่าถ้ามีการยุบสภาต้องจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วันนับแต่วันยุบสภาผู้แทนราษฎร