ปลุกใจทีมกม.คดียุบพรรค "บัญญัติ"ชี้ถ้าต้องถูกยุบด้วยเทคนิค สังคมจะไร้ที่พึ่ง มั่นใจส.ส.ต้องแตกไปหลายพรรค วอนทำปชป.ให้เข้มแข็ง บอกนักการเมืองรุ่นใหม่เห็นเงินสำคัญกว่าอุดมการณ์ พร้อมเสี่ยงลงทุนเพื่อเข้าสู่ตำแหน่ง
พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ประชุมคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย เพื่อเตรียมต่อสู้คดียุบพรรคอย่างต่อเนื่อง หลังศาลรัฐธรรมนูญส่งสำนวนคดีการใช้เงินกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ผิดวัตถุประสงค์มาให้ โดยเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 เมษายน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษา ปชป.เป็นประธานการประชุม และมีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษา ปชป.เข้าร่วมประชุมด้วย
ภายหลังการประชุม นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ปชป. เปิดเผยว่า
ที่ประชุมได้มอบให้คณะทำงานไปศึกษารายละเอียดข้อกล่าวหาเรื่องการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ โดยนายชวน ได้กล่าวให้กำลังใจทีมกฎหมายว่าขอให้สู้เต็มที่ ขณะที่นายบัญญัติได้พูดถึงสถานการณ์ทางการเมืองทั่วไปว่า การเมืองในปัจจุบันนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน เพราะอุดมการณ์นักการเมืองในระยะหลังไม่เข้มข้นเท่ากับในอดีต ถือว่าเป็นอันตรายกับประเทศชาติ จึงน่าจะมีการปฏิรูปการเข้าสู่อำนาจของนักการเมือง เพราะขณะนี้นักการเมืองพร้อมเสี่ยงในการลงทุนเพื่อเข้าสู่ตำแหน่ง เพราะเห็นว่ามีความคุ้มค่าที่จะเสี่ยง ถือว่าคนนับถือเงินมากกว่าอุดมการณ์ ถ้าระบบเป็นอย่างนี้ในอนาคตอาจเจอนักการเมืองที่แย่กว่าอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง จะกลายเป็นว่า ปชป.จะเริ่มกลายเป็นส่วนน้อยของสังคมไป จึงขอให้กำลังใจว่า ต้องทำเรื่องคดียุบพรรคให้ดีที่สุด
"รู้สึกเสียดาย หาก ปชป.มีอันเป็นไปด้วยเทคนิค คนจะแตกไปหลายพรรค ซึ่งจะไม่มีหลักประกันอะไรให้กับคนที่มีแนวคิดเดียวกับเรา ดังนั้นเราต้องทำพรรคให้เข้มแข็ง เพื่อที่จะเป็นหลักให้กับประเทศได้"นายนิพิฏฐ์ อ้างคำพูดของนายบัญญัติ
รายงานข่าวจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเปิดเผยถึงกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญหลังจากได้รับคำร้องของนายทะเบียนพรรคการเมือง ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยยุบ ปชป.ในกรณีใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาทไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ซึ่งอาจเข้าข่ายตามมาตรา62 และ65 ของพ.ร.บ.พรรคการเมือง 2541 และมาตรา82และ 93 ของพ.ร.บ.พรรคการเมือง 2550
"ขณะนี้ ปชป.ในฐานะผู้ถูกร้องได้รับแจ้งหนังสือจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วันแล้ว ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ ทั้งนี้หาก ปชป.เห็นว่าระยะเวลาดังกล่าวไม่ทันในการรวบรวมพยานเอกสาร พยานบุคคลก็สามารถขอยืดเวลาการยื่นคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้อีก 30 วัน แต่ทั้งนี้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะต้องมาพิจารณากันว่า มีเหตุผลอันสมควรแก่การขยายเวลาการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาให้แก่ ปชป.หรือไม่"แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว กล่าวว่า
หลังจากผ่านขั้นตอนการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแล้ว ศาลจะพิจารณาข้อต่อสู้ของ ปชป. จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการที่ศาลจะนัดเรียกให้ ปชป.มาตรวจเอกสารหลักฐานและบัญชีพยาน แล้วศาลจะเริ่มกระบวนการพิจารณาโดยใช้ระบบการไต่สวน ทั้งนี้คดีดังกล่าวถ้าองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าข้อต่อสู้ที่ ปชป.ยื่นมานั้นศาลเห็นว่าได้ข้อเท็จจริงปรากฎว่าพยานเอกสาร พยานบุคคล เพียงพอต่อการวินิจฉัย ก็ไม่จำเป็นที่ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวน เพื่อสืบพยานในชั้นศาลได้ จากนั้นศาลก็จะเปิดให้มีการแถลงปิดคดี และเข้าสู่กระบวนการที่ตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดโดยจะต้องใช้มติเสียงข้างมากในการพิจารณา อย่างไรก็ตาม ถ้าหากคณะตุลาการพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีดังกล่าวต้องการได้ข้อเท็จจริงทีเพิ่มเติมก็จำเป็นที่จะไต่สวนโดยออกนั่งบัลลังก์สืบพยานในชั้นศาล ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะวินิจฉัยชี้ขาดได้