สุเทพเสียดายจิ๋วยื่นหนังสือแจงแค่หน้าประตูชี้เอกสารไม่เคลียร์

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)

แถลงข่าวชี้แจงกรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เดินทางมายื่นหนังสือชี้แจงกรณีมีชื่อในแผนผังเครือข่ายล้มเจ้า ช่วงเช้าวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า เดิมตนได้เตรียมห้องรับรอง เพื่อชี้แจงว่าเหตุใดถึงมีชื่อไปเชื่อมโยงกับขบวนการผู้ที่กระทำความผิดต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรโดยมุ่งกระทำต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ปรากฏว่าพล.อ.ชวลิตกลับยื่นหนังสือแค่หน้าประตูร.11รอ.เป็นเอกสารใส่ซอง 8 ซอง ซึ่งเมื่อดูข้างในพบว่ามีหนังสือประวัติ หนังสือที่พล.อ.ชวลิตเขียนเอง ซีดีบันทึกคำแถลงการณ์ และหนังสือที่พล.อ.ชวลิตยื่นต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตอบโต้คำให้สัมภาษณ์ของนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย

นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อตนได้รับเอกสารเหล่านั้น ก็รู้สึกแปลกใจ และไม่เข้าใจว่าพล.อ.ชวลิตต้องการจะสื่ออะไร

ส่วนตัวรู้สึกเสียดายที่พล.อ.ชวลิตไม่เข้ามาพูดคุยกัน เพราะได้เตรียมอธิบายให้ทราบว่าเหตุใดจึงมีชื่อเชื่อมโยงกับขบวนการฯดังกล่าว ที่สำคัญเอกสารดังกล่าวคงไม่ส่งทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลง และพล.อ.ชวลิตก็ยังไม่รู้ตัวอยู่ดีว่าเหตุใดจึงมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะหนังสือหลายเล่มเท่าที่ตรวจสอบ พิมพ์มากว่า 10 ปีแล้ว แต่พฤติการณ์ที่ศอฉ.พบว่าเชื่อมโยงเพิ่งเกิดขึ้น เมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา จะเอาพฤติการณ์ที่ผ่านมาอธิบายคงยาก นอกจากนี้เท่าที่อ่านคำแถลงการณ์ของพล.อ.ชวลิตบางส่วน นอกจากไม่ทำให้หายสงสัย ยังอาจทำให้ตัวพล.อ.ชวลิตมีปัญหามากขึ้นด้วย

“ผมไม่ทราบว่าท่านตั้งใจมาแค่นั้น หรือมาเปลี่ยนใจเมื่อมาถึงประตู แต่เราได้ส่งตัวแทนออกไปรับ กรณีที่ไม่อนุญาตให้คนอื่นเว้นพล.อ.ชวลิตและผู้ติดตาม 1 คนเข้ามาในร.11 รอ.เพราะไม่ประสงค์ให้คนจำนวนมาก มาร่วมซักถามอธิบาย เพราะเรามีความตั้งใจพบกับพล.อ.ชวลิตโดยตรง เพื่อจะได้สอบถามเฉพาะบางประเด็น และหากท่านเข้ามาจะให้เกียรติทราบเป็นคนแรก จะได้รู้ว่ามีหลักฐานอะไรที่เชื่อมโยงท่าน” นายสุเทพกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พล.อ.ชวลิตอ้างว่าเกิดในวังบูรพาของสมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษีไม่มีทางจะไม่จงรักภักดี นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ติดใจตรงนั้น

เพราะพฤติการณ์ที่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับขบวนการฯเกิดขึ้นภายหลังมีนปช.แล้ว เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีล้มสถาบัน นายสุเทพ กล่าวว่า ศอฉ.ได้มีมติให้คณะกรรมการคดีพิเศษนำเรื่องดังกล่าว ไปพิจารณาในการประชุมวันที่ 3 พ.ค.ว่าจะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ หากรับเป็นคดีพิเศษกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็จะเป็นผู้รับดำเนินการต่อไป สำหรับเวลาและสถานที่ในการประชุม นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอจะเป็นคนนัดแนะมาอีกครั้ง