วันนี้ ( 30เม.ย.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร
กล่าวถึงแกนนำ นปช.ที่นำการ์ดบุกค้นโรงพยาบาลจุฬาฯ ว่า ขอประณามว่าเป็นพฤติกรรมที่ป่าเถื่อนและชั่วช้าที่สุดเท่าที่มนุษย์จะพึงกระทำต่อกัน มีการข่มขู่เจ้าหน้าที่พยาบาล จนถึงขั้นมีหมอและพยาบาลต้องกราบไหว้เพื่อจะปฏิบัติหน้าที่รักษาคนป่วยต่อ ทำให้สังคมไทยและนานาชาติต่างรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่ต่ำช้าเช่นนี้ การที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. ออกมาขอโทษ มันไม่พอ หาก นพ.เหวงมีลูกสาวและลองเทียบเหตุการณ์ว่า ถ้ามีคนไปข่มขืนลูกสาวของนพ.เหวงแล้ว และออกมาขอโทษโดยยอมรับว่า ทำไปครั้งเดียว และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกจะรู้สึกอย่างไร เพราะความรู้สึกนี้ก็ไม่ต่างกันกับความรู้สึกของญาติผู้เจ็บป่วยที่รักษาในโรงพยาบาลจุฬาฯ ที่รับผลกระทบทางเสียงและความปอดภัยจนต้องย้ายออกไปรักษาที่อื่น
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์เลวเช่นนี้ แกนนำนปช.ก็ออกมาปฏิเสธว่าเป็นแดงเทียมหรือปัดความรับผิดชอบว่าไม่ใช่มติของแกนนำ นปช. ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าในกลุ่มผู้ชุมนุมมีกองโจรติดอาวุธที่หวังยั่วยุให้เกิดความรุนแรง เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องจัดการให้เด็ดขาด หากไม่ทำหรือหย่อนยานก็เป็นหน้าที่ของ ศอฉ.ที่จะลงโทษเพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ล่าสุดที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำ นปช.บุกค้นโรงพยาบาลจุฬาฯอีกครั้งในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ สะท้อนถึงการใช้อำนาจรัฐที่ไร้ประสิทธิภาพ ไม่มีผลในการปฏิบัติจนส่งผลกระทบสั่นคลอนอำนาจนิติรัฐ และที่สำคัญเหตุการณ์นี้เป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ที่ต้องการกดดันอำนาจรัฐให้อ่อนแอลงไปอีก ทั้งยังสะท้อนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นกำลังหลักในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จนเกิดคำถามว่า วันนี้ท่านทำหน้าที่ด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรีในวิชาชีพของท่านอย่างเต็มที่แล้วหรือยัง เพราะผลงานที่ผ่านมาต่างสะท้อนถึงความล้มเหลวของสถาบันตำรวจที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รักและที่พึ่งของประชาชาชนทั่วไป.