สาทิตย์แฉบิ๊กจิ๋วมีแนวคิดล้มสถาบัน

ที่รัฐสภา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา เห็นชัดเจนว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมีการใช้อาวุธสงครามมาต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ จากการตรวจพบระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 60 กว่าลูก ที่กลุ่มคนร้ายทิ้งไว้ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะเข้าไปตรวจสอบต่อไป ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่ แต่การที่กลุ่มผู้ชุมนุมเปลี่ยนมาใส่เสื้อหลายสี ทำให้เจ้าหน้าที่แยกแยะยาก ถือเป็นเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ของผู้ชุมนุม จึงต้องขอร้องประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องให้แยกตัวออกจากพื้นที่ชุมนุม

นายสาทิตย์ กล่าวถึงส่วนกรณีที่ ศอฉ.ออกมาระบุถึงแผนผังขบวนการล้มสถาบันว่า เพื่อชี้ให้เห็นถึงขบวนการดังกล่าวว่า มีอยู่จริง โดยเริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2550 -2551 ในช่วงหลังมีขบวนการเชื่อมโยงกันมากขึ้น มีลักษณะแบ่งกันทำงาน แต่ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนในขบวนการจะมีพฤติกรรมเหมือนกันทั้งหมด บางคนอาจอยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัย แต่บางคนก็มีความผิดชัดเจน เช่น ดา ตอร์ปิโด  นายสุชาติ นาคบางไทร ขบวนการนี้เป็นขบวนการใหญ่ มีการทำงานผ่านสื่อต่างๆ และเชื่อมโยงกับคนที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งหลายคนมีหลักฐานกระทำผิดชัดเจน

เมื่อถามว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เชื่อมโยงอย่างไรในขบวนการล้มสถาบัน จึงถูกออกหมายเรียกมารายงานตัวต่อ ศอฉ. นายสาทิตย์ กล่าวว่า พล.อ.ชวลิตเป็นคนหนึ่งที่มีแนวคิดเกี่ยวกับสถาบันไปในทางนั้น เช่น เคยพูดถึงเรื่องสภาเปรสซิเดียม และการขอเข้าเฝ้าฯ ซึ่งเหมือนกับการดึงสถาบันลงมาอยู่ในความขัดแย้ง  อย่างไรก็ตามต้องแยกแยะผู้ชุมนุมออกจากแกนนำ และผู้ก่อการร้าย เพราะผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ไม่ได้มีความคิดเรื่องการล้มสถาบัน