อธิบดีกรมดีเอสไอ เผยรอเวลาเหมาะ"เมธี"เปิดปากผ่านทีวี มั่นใจขบวนก่อการร้าย แหล่งข่าวระบุจับคนสนิท"เสธ.แดง"ขับรถรับส่งชุดดำซุ่มยิง10เม.ย.
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เปิดเผยถึงการนำข้อมูลการให้ปากคำบางส่วนของนายเมธี อมรวุฒิกุล แนวร่วม นปช.
ออกมาเปิดเผยเพื่อตอบข้อสงสัยของสังคมที่ตั้งคำถามว่า การชุมนุมของ นปช.มีอาวุธจริงหรือไม่ และกองกำลังชายชุดดำเป็นใคร ซึ่งเรื่องนี้ทางพรรคฝ่ายค้านก็ตั้งคำถามว่า อธิบดีดีเอสไอไม่พูดความจริงเกี่ยวกับคำให้การของนายเมธี จึงขอชี้แจงว่าขณะนี้นายเมธีก็พร้อมจะเปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณะ แต่เมื่อชั่งน้ำหนักถึงข้อดีข้อเสียในช่วงนี้ขอให้ความสำคัญกับประเด็นใหญ่คือการสอบสวนคดีก่อการร้ายก่อน จากนั้นเมื่อถึงเวลาเหมาะสมอาจจะขอให้นำตัวนายเมธีออกมาพูดกับสาธารณะ
ด้านแหล่งข่าวชุดสืบสวนคดีก่อการร้าย 10 เม.ย.เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกของวันที่ 27เม.ย.
ตำรวจชุดสืบสวนที่ตามประกบตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้เข้าจับกุมตัว นายชยุต ใหลเจริญ หัวหน้าการ์ด นปช.ซึ่งแนวทางการสืบสวนระบุนายชยุตเป็นบุคคลใกล้ชิดกับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธแดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำผู้ต้องหา ถึงข้อมูลบ่งที่ชี้ในวันที่ 10 เม.ย.หลังเกิดเหตุปะทะหน้ากองทัพภาคที่ 1 และสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยมีการฉีดน้ำและยิงกระสุนยางเพื่อสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง ทำให้ผู้ชุมนุมถอยร่นมารวมตัวที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ
ในช่วงเย็นวันนั้นเอง นายชยุตเป็นผู้ขับรถยนต์นำชายหลายคนสวมชุดสีดำและสวมหมวกปกปิดใบหน้า พร้อมอาวุธสงครามมาส่งที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
จากนั้นจึงเกิดการซุ่มยิงทหารและยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่หน่วยทหารหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา หลังก่อเหตุนายชยุตสั่งการให้นำอาวุธออกจากพื้นที่ชุมนุมไปซุกซ่อนในแหล่งต่างๆ "นายชยุตม์เป็นหัวหน้าการ์ดตัวเบ้งของการก่อการร้ายเลย เราจับไว้ที่ค่ายทหาร เขาอยู่กับเสธ.แดงตลอด ถ้ายอมเปิดปาก ซึ่งก็คงไม่ง่ายเหมือนกับเมธีที่เขาเต็มใจเพราะเขาเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์ แต่คนนี้ถ้ายอมเปิดปากเราจะได้ขบวนการที่เชื่อมโยงเยอะเลย" แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวยังได้เปิดเผยถึงการตั้งข้อสังเกตต่างๆ ทำนองว่าคำสารภาพของนายเมธีน่าเชื่อถือหรือไม่ เพราะไม่ได้เป็นแกนนำ
มีสิ่งบ่งชี้อย่างน้อย 5 ประการที่น่าจะพิสูจน์ได้ว่า อย่างน้อยนายเมธีก็ไม่ได้เป็นแค่คนนั่งฟังอยู่หน้าเวที แล้วก็ไม่ใช่รับแต่คำสั่งอย่างเดียว เพราะบางอย่างเขาก็สามารถตัดสินใจเองได้ เช่น นำปืนที่ยึดจากทหารออกไปแจกใครต่อใคร "สิ่งบ่งชี้ที่ว่าก็คือ หนึ่ง เมธีขึ้นเวทีหลายครั้ง สอง มีหลักฐานเมธีเดินกับเสธ.แดงหลายครั้ง ซึ่งต้องยอมรับว่าเสธ.แดงเป็นคีย์แมนคนหนึ่ง ไม่ว่าเขาจะเล่นละครยอมรับ ไม่ยอมรับยังไงก็แล้วแต่ สาม เมธีสามารถไปหยิบอาวุธร้ายแรงบนเวทีได้ สี่ เมธีสามารถครอบครองอาวุธร้ายแรงอย่างทาโว่ได้ ซึ่งต้องถือว่าเป็นอาวุธร้ายแรงเพราะสามารถยิงคนตายนับสิบ และเป็นปืนที่ทันสมัยด้วย 5. เมธีสามารถให้การระบุถึงตัวละครต่างๆได้ ซึ่งสัญญาณเหล่านี้ เราจะบอกว่าไม่ได้เป็นแกนนำก็คงไม่น่าจะได้ เพราะคนที่ไม่ได้เป็นแกนนำบนเวทีอย่าง 3 เกลอ แต่มีอำนาจสั่งการปฏิบัติการต่างๆอย่างเช่น นายชยุตม์ ก็มีไม่น้อยทีเดียว" แหล่งข่าวกล่าว
ผู้สื่อข่าวระบุถึงเหตุการณ์ปะทะวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ปืน เครื่องกระสุน และอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนหลายร้อยรายการถูกยึดไป
เช่น เป็นปืน 62 กระบอก ประกอบด้วย ปืนทาโว่ 25 กระบอก ปืนลูกซอง 27 กระบอก ปืนเอ็ม 16 จำนวน 9 กระบอก ปืนพก 1 กระบอก ซึ่งปืนที่ยึดได้จากนายเมธี อมรวุฒิกุล คือปืนทาโว่ หรือ Tavor TAR-21 ของบริษัท IWI (Israeli Weapons Industries Ltd.) แห่งประเทศอิสราเอล ชนิดปืนไรเฟิลจู่โจมแบบ Bull-pup ใช้กระสุนขนาด 5.56x45 มม. อัตราการยิง 750-900 นัดต่อนาที