เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 28 เม.ย. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในฐานะโฆษกกองทัพบก
พร้อมด้วยนายธาริต เพ็งดิษย์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พล.อ.ต.อานนท์ จารยะพันธ์ ผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง และ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผบ.ตร. ร่วมกันแถลงที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ถึงเหตุการณ์สลายกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงบริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ย่านดอนเมือง โดยได้นำลูกกระสุนขนาด 40 มม. ที่ใช้ยิงจากเครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 62 ลูก ซึ่งเจ้าหน้าที่ยึดมาได้จากที่เกิดเหตุมาแสดงด้วย
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า อาวุธที่เจ้าหน้าที่ยึดมาได้ไม่ใช่อาวุธในการครอบครองของกองทัพ แต่อาวุธประเภทนี้สามารถนำเข้ามาได้บริเวณชายแดน ซึ่งเราก็ต้องระมัดระวังไม่ให้มีการนำเข้ามา
เมื่อถามว่า ในการปราบปรามครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ใช้อาวุธจริงและกระสุนจริงหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจก็มีเลือดมีเนื้อเหมือนกัน และตลอดเวลาที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าผู้ชุมนุมมีออาวุธสงคราม จึงเป็นความจำเป็นที่เจ้าหน้าที่จะไม่ยอมให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าใกล้แนวของเจ้าหน้าที่
เมื่อถามว่าได้ตรวจสอบหรือไม่ว่าพลทหารที่เสียชีวิต เสียชีวิตจากสาเหตุอะไร พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า คงต้องตรวจสอบกันก่อน เพราะในพื้นที่มีข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งสภาพดินฟ้าอากาศที่แปรปรวน แต่การที่กระโหลกเปิด ลูกตาถลนออกมาคงไม่ใช่ เพราะสภาพอากาศ ซึ่งเราต้องตรวจสอบอีกครั้ง
เมื่อถามว่า พลทหารถูกยิงจากเจ้าหน้าที่ด้วยกันหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปอะไรได้ ต้องให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน” เมื่อถามว่าจะสลายที่ราชประสงค์หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าว่า ยังตอบไม่ได้
เมื่อถามว่าแกนนำจะบุกเอ็นบีที ศอฉ. จะดำเนินการตามแนวทางเดิมหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ก็จะใช้วิธีการเดิมครับ
ศอฉ.ใช้แผนเดิมรับแดงบุกเอ็นบีที ขอเวลาสอบเหตุทหารตาย
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ศอฉ.ใช้แผนเดิมรับแดงบุกเอ็นบีที ขอเวลาสอบเหตุทหารตาย