ทักษิณร่อนแถลงการณ์โต้ล้มสถาบัน เตรียมฟ้องหมิ่นฯ สุเทพ-สรรเสริญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายด้านกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวพร้อมเผยแพร่แถลงการณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อสื่อมวลชน

"มีเนื้อหาว่า ตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ ศอฉ.ได้แถลงข่าวในทำนองพาดพิงข้าพเจ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการล้มล้างสถาบัน และจะออกหมายจับสำหรับความผิดที่เกี่ยวข้องนั้น

ข้าพเจ้าขอเรียนว่า ประชาชนคนไทยทุกคนรอการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาล ไม่ใช่รอให้รัฐบาลสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น รัฐบาลมีหน้าที่สร้างความปรองดอง ไม่ใช่สร้างความแตกแยก รัฐบาลต้องอดกลั้นที่จะไม่ทำลายฝ่ายตรงข้ามด้วยความเท็จ แต่ต้องดำเนินการตามความจริง

พี่น้องคนไทยทราบดีว่า พรรคประชาธิปัตย์แพ้การเลือกตั้งทุกครั้ง ในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา เพราะประชาชนปฏิเสธการทำงานการเมือง ที่มุ่งแต่ทำลายฝ่ายตรงข้ามด้วยความเท็จ แต่ล้มเหลวในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนทุกครั้งเมื่อเป็นรัฐบาล และรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังต้องรับผิดชอบในการเสียชีวิตของพี่น้องผู้ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยกว่า 20 คน คดีเหล่านี้มีอายุความหลายสิบปี และคนกระทำผิดต้องไม่ลอยนวล

ข้าพเจ้าขอเรียนว่า ถ้าพิจารณาจากประวัติการทำงานระหว่างข้าพเจ้าและนายสุเทพนั้น บุคคลที่มีใจเป็นธรรมจะเห็นได้ไม่ยากว่า นายสุเทพไม่มีสิทธิและความเหมาะสมใด ที่จะมากล่าวหาว่าข้าพเจ้าไม่จงรักภักดีและอยู่ในขบวนการล้มสถาบัน เพราะตลอดชีวิตการรับราชการตำรวจ และการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รองนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี เป็นเวลากว่า 5 ปี ข้าพเจ้าได้ทุ่มเททำงานรับใช้ประเทศชาติ ด้วยสำนึก ที่เกิดมาในรัชกาลของพระองค์ และด้วยสำนึกเทิดทูนในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ข้าพเจ้าเป็นนักประชาธิปไตยและยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข ข้าพเจ้าไม่เคยแม้แต่จะคิดกระทำการตามที่นายสุเทพและรัฐบาลนี้กำลังกล่าวหาอย่างไร้มูลความจริง

ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้นายสุเทพ พรรคประชาธิปัตย์และรัฐบาลนี้ รวมตลอดถึงบุคคลอื่นๆในสังคมไทยยุติการผูกขาดความจงรักภักดี และยุติการนำประเด็นเรื่องสถาบันที่เทิดทูนมาทำลายบุคคลอื่นอย่างไร้คุณธรรม เพราะสถาบันอยู่เหนือการเมือง ข้าพเจ้าจะไม่ยอมให้บุคคลใดใส่ร้ายข้าพเจ้าด้วยความเท็จ และบุคคลที่ทำลายบุคคลอื่นด้วยความเท็จจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายบ้านเมืองต่อไป"

จากนั้น นายนพดล กล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้าทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ จะยื่นแจ้งความต่อกองปราบปรามเพื่อดำเนินการเอาผิดฐานหมิ่นประมาท

กับนายสุเทพ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ. และบุคคลที่เกี่ยวข้องตามที่ปรากฏหลักฐาน เรื่องนี้จะไม่มีการยอมความ ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้น ยังไม่ตัดสินใจ แต่จะไม่ฟ้องร้องสื่อ เพราะถือว่าเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ ทั้งนี้ ทราบว่า บุคคลอื่นที่ปรากฏชื่อในเอกสารเครือข่ายขบวนการล้มสถาบันที่โฆษก ศอฉ.นำมาแถลง ซึ่งรวมถึงนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการฟ้องร้องเป็นรายบุคคลด้วย ซึ่งแค่เอกสารดังกล่าวก็เพียงพอ ครบองค์ประกอบที่จะดำเนินคดีเพราะเป็นการดูถูกดูหมิ่นสร้างความเกลียดชังและก่อให้เกิดเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยหวังว่าศาลจะให้ความเป็นธรรม

นายนพดล กล่าวว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานพรรคเพื่อไทย

ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวหน้าขบวนการนั้น เดิมทีท่านจะไม่ฟ้องร้อง เพราะถือว่าขอกันกินมากกว่านี้ แต่ที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้คำแนะนำว่าเป็นเรื่องใหญ่ การฟ้องร้องจะเป็นผลดีในระยะยาว เพราะจะมีการบันทึกว่าถูกกกล่าวหา ดังนั้น มีความเป็นไปได้ที่พล.อ.ชวลิตจะฟ้องร้องด้วย

นายนพดล กล่าวด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ป่วยหรือเสียชีวิตตามทีปรากฏเป็นข่าว

และไม่ได้ถูกชาวมอนเตเนรโกตะโกนขับไล่ตามที่สำนักข่าวเนชั่นนำเสนอข่าว เราอยากขอร้องว่า คุณไม่รักเราไม่เป็นไร แต่ขอให้รักความจริง การพาดหัวข่าวโดยไม่รับผิดชอบ ถือว่าไม่ใช่การทำหน้าที่สื่อที่ดี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นคนไทยมีสัญชาติไทย แต่เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ของมอนเตเนโกร ถือพาสปร์อตของมอนเตเนโกร แม้ว่าจะมีพาสปอร์ตของประเทศนิคารากัว แต่ไม่ค่อยได้ใช้ และมีที่พำนักที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  โดยในระยะเวลาอันใกล้นี้คาดว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงจะมีการทำอะไรสักอย่างเพื่อปฏิเสธข่าวลือเรื่องป่วยและเสียชีวิต