ส.ส.ปชป.จวกแกนนำนปช. อ้างแดงเทียมปิดบีทีเอส

ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ระบุ แกนนำนปช.ปัดรับผิดชอบ อ้างแดงเทียมปิดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเมื่อเช้า จี้รัฐบาลเอาจริงเอาจังแก้ปัญหาม็อบเสื้อแดง...

27 เม.ย. นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปิดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่แกนนำออกมาปฏิเสธว่า ไม่ใช่พวกตน แต่เป็นแดงเทียมว่า คนเหล่านี้เมื่อทำผิดกฎหมายก็จะอ้างประจำว่าเป็นพวกแดงเทียม ทั้งที่คนในสังคมไทยส่วนใหญ่รู้กันดีว่ามันก็พวกเดียวกัน ที่แบ่งหน้าที่ทำงานโดยใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย ทำผิดกฏหมายแต่ละครั้งก็จะเฮกันลั่น ร้องไชโย แต่พอกระแสสังคมต่อต้านเพราะได้รับความเดือดร้อน จนคนส่วนใหญ่ออกมาด่าทอ พวกแกนนำก็จะอ้างว่าไม่รู้ใคร ไม่ใช่ฝีมือคนเสื้อแดง พูดเหมือนปัดสวะพ้นตัว ถือเป็นการปฏิเสธความรับผิดชอบแบบหน้าด้านๆ และแสดงให้เห็นชัดเจนว่าคุมคนในม็อบไม่อยู่

"ที่สำคัญ มีการแจ้งเตือนมาจากคนที่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดต่างๆ ตั้งด่านเถื่อน ขอตรวจค้นรถเพื่อสกัดเจ้าหน้าที่รัฐไม่ให้เข้ากทม.ว่า มีการตั้งด้านในหลายจุดหลายจังหวัด และมีคนเสื้อแดงบางคนที่มีสันดานเป็นมิจฉาชีพ ฉวยโอกาสเอาทรัพย์สินของผู้โดยสารไปเป็นของตัว เช่นเดียวกับที่มีการเตือนในเว็บ เมล์ หรือโซเชียล เน็ตเวิร์ค ที่มีการส่งข้อมูลข่าวสารผ่านเฟซบุ๊ก ไฮไฟว์ และการส่งข้อความผ่านเอ็มเอสเอ็ม หรือส่งอีเมล์ต่อให้กันว่า ขณะนี้มีสุภาพสตรี คนทำงานย่านสีลมและสุขุมวิทหลายรายแล้ว ที่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงบางคนบางกลุ่ม แปลงร่างเป็นโจร ทำทีขอตรวจค้นกระเป๋าและถุงใส่ของ แล้วมีการฉกชิงเอาโทรศัพท์มือถือหรือทรัพย์สินไป บางรายก็ย่ามใจใช้กำลังบังคับเหยื่อซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงคนเดียว ให้ไปกดเอทีเอ็มเพื่อเอาเงินสดไป โดยจับมือใครดมไม่ได้ ขณะที่เจ้าทุกข์ส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าแจ้งความกับตำรวจเพราะเห็นพฤติกรรมใส่เกียร์ว่าง และการไล่ตีม็อบคนสีลมเมื่อวันก่อนแล้ว ก็ไม่รู้จะพึ่งพาใคร" ส.ส.ชลบุรี กล่าว

นายประมวล กล่าวต่อว่า ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะเอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหาม็อบเสื้อแดง ไม่ใช่ออกมาสั่งการแบบสั่งขี้มูก ทำงานแบบหน่อมแน้ม หรือทำงานกันแบบหมาหยอกไก่ ที่สั่งการอะไรไปไม่มีการติดตามผล เมื่อฝ่ายปฏิบัติทำงานไม่สำเร็จก็ไม่มีมาตรการใดๆ ออกมา จึงทำให้เกิดการเอาแบบอย่างของเจ้าหน้าที่ที่ใส่เกียร์ว่าง มีที่ไหน รถกระบะคันเดียวปิดถนนที่มีตำรวจนั่งในรถเป็นสิบๆ คัน นั่งทำอะไรกันอยู่ ต้องรอให้ทหารมาจัดการ ทำให้กฎหมายไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ โดยไม่คิดว่า คนเราต่างมาแล้วก็ไป แต่กฎหมายชาติบ้านเมืองต้องอยู่ต่อ หากเป็นอย่างนี้ อนาคตลูกหลานไทยจะอยู่กันอย่างไร

"นอกจากนี้ ตนยังเป็นห่วงเรื่องเกี่ยวกับการขนอาวุธสงครามเข้ามาในพื้นที่กทม.และปริมณฑล เพราะมีสายข่าวแจ้งมาจากจังหวัดปราจีรบุรีว่า ขณะนี้มีกลุ่มนายทหารนอกรีต อย่างเสธ.คนดัง มีการขนส่งลำเลียงอาวุธเหล่านี้เข้ากทม. ในลักษณะการทยอยขน จึงขอให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองและรัฐบาล กำชับให้มีการตั้งด่านตรวจอย่างเข้มงวดและจริงจัง เพราะไม่ทราบว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะมีวัตถุประสงค์ใดแอบแฝง เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมาซ้ำรอยอีก" นายประมวล กล่าว