เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 26 เมษายน กลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประมาณ 200 คน
ได้ก่อเหตุปิดถนนบริเวณปากซอยวิภาวดีรังสิต 16 หรือซอยโชคชัยร่วมมิตร ตรงข้ามซอยวิภาวดี 3 ถ.วิภาวดี-รังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานีวิทยุชมชนคนแท็กซี่ พร้อมกับปิดถนนขาเข้ากรุงเทพฯ 2 ช่องทางโดยให้รถวิ่งได้ช่องทางเดียว และกลุ่มคนเสื้อแดงยังได้ตรวจค้นรถทุกคันที่สงสัยว่าจะขนเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจเข้ามาสมทบในกรุงเทพฯ เนื่องจากเกรงว่าจะมีการขนทหารและตำรวจเพื่อสลายการชุมนุมที่เวทีแยกราชประสงค์ จนทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ขณะนั้นมีรถขนทหารประมาณ 15 นายพร้อมอาวุธวิ่งเข้ามา กลุ่มคนเสื้อแดงจึงเข้าไปปิดล้อมและไม่ยอมให้รถคันดังกล่าววิ่งผ่าน
ต่อมาพล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 และพ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 เข้ามาเจรจา
สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงโดยปฏิเสธไม่ยอมให้รถผ่านพร้อมกับปล่อยลมยางล้อหลังจนแฟบ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำรถคันดังกล่าวไปยัง สน.สุทธิสาร โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 4-5 คน เดินทางไปด้วย
ระหว่างนั้นมีรถเก๋งบีเอ็มดับบลิววิ่งผ่านมาและคนขับรถได้ปาขวดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ปรากฏว่ากลุ่มคนเสื้อแดงได้ฮือเข้าทุบรถจนได้รับความเสีย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเข้าห้ามและให้ชายคนดังกล่าวขับรถออกไป ต่อมาแกนนำ นปช.ได้ใช้โทรโข่งประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมหนีเข้าไปในซอยดังกล่าว โดยบอกว่าได้ได้ข่าวว่าจะมีทหารชุดใหญ่เข้ามาปราบ
ต่อมาพล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. และพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้เดินทางมาควบคุมสถานการณ์ พร้อมกำลังประมาณ 100 นายเดินทางมาเจรจากลุ่มผู้ชุมนุมขอให้สลายตัวกลับบ้าน แต่ตลอดทั้งคืนกลุ่มคนเสื้อแดงยังคงปักหลักชุมนุมโดยไม่ยอมกลับบ้านแต่อย่างใด