ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า
พรรคประชาธิปัตย์รู้สึกวิตกแนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. จากที่เคยบอกว่า จะชุมนุมแบบสันติอหิงสา แต่รัฐบาลไม่รับข้อเสนอ ก็เปลี่ยนเป้าหมายมาเคลื่อนไหว 2 ลักษณะเพื่อหวังผลล้มรัฐบาล โดย 1. การเคลื่อนไหวเข้าสู่การกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยกลุ่มมวลชนจำนวนมาก เพื่อหวังสร้างภาวะอนาธิปไตย ที่รัฐบาลไม่สามารถจัดการปัญหาได้และสิ้นสภาพในที่สุด โดยเป็นรูปแบบการก่อการจลาจลเหมือนเหตุการณ์เดือน เม.ย.เลือดปี 2552 เช่น ตัวอย่างที่จ.ขอนแก่นและการปิดถนนพหลโยธิน และ 2. การเคลื่อนเข้าสู่การใช้กำลังและอาวุธสงคราม โดยกองกำลังที่มีการประกาศโดยเปิดเผย ที่ดำเนินการอย่างชัดแจ้งทั้งวันที่ 10 เม.ย.และ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา รวมทั้งการก่อวินาศกรรมในสถานที่ราชการต่อเจ้าหน้าที่ต่อประชาชน รวมถึงการขว้างระเบิดใส่บ้านแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อคืนที่ผ่านมา
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า การเคลี่อนไหวทั้ง 2 ลักษณะหวังผล 2 เป้าหมายคือ 1.หวังให้เกิดปฏิกริยาจากประชาชนที่ไม่พอใจ และเคลื่อนไหวในการปกป้องถิ่นฐานและชุมชนของตัวเอง เช่น กรณีคนหลากสีที่กทม.และต่างจังหวัด หวังให้เกิดการปะทะระหว่างคนไทยด้วยกัน เหมือนที่แกนนำนปช.และพรรคเพื่อไทยเคยมาประกาศมาก่อนหน้านี้ว่า จะยกระดับให้เป็นสงครามกลางเมือง และ 2.หวังยั่วยุเพื่อให้เกิดปฏิกริยาจากเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้เกิดการเผชิญหน้า โดยกลุ่มที่เป็นแนวร่วมจะไม่หยุดยั้ง แม้กระทั่งการกระทำการกับกลุ่มพวกเดียวกันเอง และโยนความผิดให้รัฐบาล ขณะเดียวกันพรรคขอสนับสนุนแนวทางของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในการแก้วิกฤต โดยการใช้ความร่วมมือจากฝ่ายนโยบายการเมือง ฝ่ายความมั่นคง โดยเหล่าทัพต่าง ๆ และฝ่ายการปกครองโดยผู้ว่าราชการจังหวัด