เปิดยุทธศาสตร์ แดงถอดเสื้อสู้

หลังมีการปักหลักชุมนุมกันเกือ 2 เดือน เคลื่อนย้ายเวทีที่หลับที่นอน 2 ครั้ง 2 คราวของกลุ่มคนเสื้อแดง

สำหรับการต่อสู้ได้ดำเนินยุทธวิธียกระดับการต่อสู้มามากมาย เริ่มตั้งแต่ขึ้นเวทีปราศรัย บุกสถานที่ราชการที่สำคัญ ตระเวนไล่นายกรัฐมนตรี รัฐบาล ทั่วกรุงเทพฯ ปล่อยโคมลอยไล่เฮลิปคอร์ปเตอร์ตรวจการณ์ นำไม้ไผ่เหลาแหลม ล้อยาง รถ 6 ล้อ 10 ล้อ ติดแก๊สมาวางกั้นปิดทางเข้าออกประตูรั้วทั้ง 4 ทิศ ยุทธศาสตร์ต่อรอง เจรจากับรัฐบาล ไม่เว้นแม้แต่การพึ่งผีสาง นางไม้ ไสยเวทย์ ไสยมนต์ ล่าสุดได้มีการยกระดับการชุมนุมอีกครั้ง หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไม่รับเงื่อนไขที่จะให้มีการยุบสภาภายใน 30 วัน  ประกาศ "ถอดเสื้อสู้"ถึงที่สุด ยุทธศาสตร์นี้มีแนวคิด เบื้องหลังเป็นอย่างไร ฝ่ายไหนจะได้ ฝ่ายไหนจะเสีย       

เรื่องนี้ นายก่อแก้ว พิกุลทอง 1 ในแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อธิบายว่า การที่คนเสื้อแดงประกาศให้รบนอกเครื่องแบบ "ถอดเสื้อสู้"

ก็เพียงเพราะต้องการใช้เป็นยุทธศาสตร์ชั่วครั้งชั่วคราว เหตุจากการเดินทางเข้าร่วมชุมนุมมีอุปสรรค เพราะทางทหาร ตำรวจได้ตั้งด่านสกัดถ้าพบคนสวมเสื้อสีแดงหรือมีสัญลักษณ์แดงก็จะเชิญตัว ไปกักเอาไว้เพื่อสอบปากคำ ดังนั้นเราจึงให้คนเสื้อแดงที่จะเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมที่ราชประสงค์ได้ใส่เสื้อสีอื่นเดินทางมาถึงราชประสงค์ค่อยเปลี่ยนเป็นเสื้อแดง

นพ.เหวง โตจิราการ  อีก 1 แกนนำ นปช. บอกถึงขนาดว่า เรารู้มาว่ารัฐบาลเตรียมใช้กำลังทหาร ตำรวจจากทั่วประเทศประมาณ 3-4 หมื่นคน 

เข้ามาสลายการชุมนุม ดังนั้นจึงไม่อยากให้พวกเราสวมใส่เสื้อสีแดง และ ไม่ต้องติดสัญลักษณ์สีแดง เปลี่ยนมาเป็นชุดนักรบนอกเครื่องแบบป้องกันการล้อมปราบ ตรงนี้เป็นการลับ ลวง พรางแบบหนึ่งหลังจากได้รับชัยชนะค่อยกลับมาใส่เสื้อแดงใหม่ย่อมทำได้ เราอย่าได้สร้างเงื่อนไขที่ทำให้คนเสื้อแดงไม่สามารถเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมที่ราชประสงค์ เพราะโจทย์ใหญ่คือการจะทำอย่างไรให้มีคนเสื้อแดงเข้ามาร่วมกันเป็นเรือนแสนตรึงคนเอาไว้ป้องกันการล้อมปราบจากรัฐบาลเป็นการได้ชัยชนะแบบไม่ต้องรบ


ขณะที่นายทหารผู้ซึ่งผ่านสมรภูมิรบมาอย่างโชกโชน อย่าง พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.)

วิเคราะห์กับ "ไทยรัฐออนไลน์" อย่างน่าสนใจว่า เป็นยุทธวิธีของกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นความรู้ทั่วไปทหารหลายคนก็รู้ อย่างหนึ่งเป็นการพลางตัวได้ดีขึ้น จับทางยากขึ้น ซึ่งถ้าการต่อสู้เริ่มเสียเปรียบในเชิงการข่าว รู้สึกว่าการข่าวของพวกตนเสียเปรียบ อีกฝ่ายหาข่าวได้มากขึ้น ดังนั้นการพลางตัวจะช่วยได้ การปรากฎตัวจะอันตรายทางยุทธวิธี ดังนั้นฝ่ายที่อ่อนแอจะไม่ปรากฎตัวที่ชัดเจน แน่นอนจะงงทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตามฝ่ายรัฐบาลเองในเชิงการหาข่าวก็ยากขึ้น เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใครฝ่ายไหน ยุ่งยากขึ้น แต่อย่างไรก็ต้องจัดการได้ โดยอาศัยเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีหน้าที่ในการช่วยจะต้องดำเนินการอย่างเต็มที่

"ทหารต้องทำได้ เพราะเวลาปฏิบัติการทางทหารหลายครั้งก็ไม่ได้ใส่เครื่องแบบก็มีเหมือนกัน  ดังนั้นกระบวนการหรือยุทธวิธีของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐนั้นจะต้องทำงานด้านการข่าวให้ดีลึก ชัดเจน ตรวจสอบและแยกแยะจำแนกอย่างชัดเจนว่าใครเป็นกลุ่มไหน ติดตามเป็นตัวๆไป หากเยอะเกินก็ต้องระบุเฉพาะคนที่สำคัญๆ ไม่เช่นนั้นก็จะสู้ไม่ไหว แต่แกนนำหลักๆทำอย่างไรก็ไม่พ้น เพราะทุกคนประจักษ์แล้ว ถ้าจะหลบก็คงต้องปลอมตัว"

อดีต ผบ.ส.ส. ระบุอีกว่า อาจจะมีความเป็นไปได้เช่นกันว่าจะมีกลุ่มที่ไม่ทราบฝ่ายปะปนได้ง่ายขึ้น เข้ามาสร้างสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น

แต่อย่างไรก็ตามยังมองในมุมดีว่าการสลายสีเสื้อจะทำให้สถานการณ์จะเบาลง เพราะถ้าใส่เสื้อเหมือนกันมาชุมนุมก็อาจจะคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน ในทางจิตวิทยาส่วนนี้มีผล แต่คิดว่าฝ่ายเสื้อแดงคงไม่ต้องการแบบนี้ ต้องการหลบมากกว่า ซึ่งเรียกว่าเป็นสัญญาณที่ดี เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงเริ่มกลัวเลยหันไปใช้ยุทธวิธีแบบน้ี   

ด้านนักวิชาการรัฐศาสตร์ การปกครอง รศ.ดร.ไชยยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ว่า 

ยุทธศาสตร์นี้มองได้ 2 แนวทาง คือ 1.จะทำให้มีการแยกแยะระหว่างคนที่ชุมนุม นปช.กับคนอื่น ก็จะเกิดความไม่ชัดเจนขึ้นมา หากว่ามีการสลายการชุมนุม หรือ จับกุม จะทำได้ยากขึ้น เพราะเดิมทีมีเอกลักษณ์เฉพาะ ไปไหนมาไหนใครก็รู้หมด ซึ่งก็เป็นประการแรกที่กลุ่มคนเสื้อแดงห่วงอยู่ตลอดว่าจะมีการสลายการชุมนุม ส่วนประการ 2. นั้นจะทำให้คนที่เข้าไปปะปนกับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงนั้น ง่ายขึ้น ไม่รู้ใครเป็นใคร เพราะเดิมทีมีการจัดระบบว่าเป็นกลุ่มสีแดง ดังนั้นคนที่เข้าใส่เสื้อสีแดงหน้าตาแปลกๆ เค้าจะจับได้ ส่วนมาเป็นหลากสีนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมเองจะจัดการลำบาก ดังนั้นการปะปนของกลุ่มคนอื่นๆจะง่ายขึ้น และหากทหารที่แต่งชุดอื่นๆจะเข้าไปปะปนสลาย ตรงนี้เองคนเสื้อแดงจะเพลี้ยงพล้ำ

"ในแง่ยุทธศาสตร์ ถือว่าผู้ชุมนุมเสียหาย เพราะว่าเค้าจำเป็นต้องลดทอนความเด่นชัดของกระบวนการ สลายสัญลักษณ์ไป ในแง่หนึ่งถือว่าเป็นการสูญเสีย เพราะเมื่อก่อนไปไหนมาไหนโดดเด่นมาก ก่อนหน้านี้ใครก็โหนกระแสเค้า แต่ต่อไปนี้จะไม่มีกระแสให้โหนแล้ว ในแง่สิ่งที่เป็นนามธรรมเค้าเสียหาย"

สำหรับแง่ยุทธศาสตร์ลับ ลวง พรางนั้นถือว่ายุทธศาสตร์นี้มีทั้งได้ ทั้งเสีย แต่ในแง่อยู่เฉยข้างใน และ ทหารเข้าไปในมุมนี้เท่านั้นที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะได้เปรียบ

แต่หากยังไม่สลายและมีการส่งคนเข้าไปปะปนก็ค่อนข้างลำบาก จัดการได้ยากขึ้น ในขณะเดียวกันทางฝ่ายรัฐบาลเองก็จัดการได้ลำบากขึ้น การให้ทหารแต่ชุดเต็มรูปแบบเข้าไปจัดการคงไม่ได้แล้ว ทหารเองก็สับสน นอกจากนี้จะทำให้มีความสับสนวุ่นวายมากขึ้นทั้งสองฝ่าย จะมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายได้ง่ายขึ้น  แต่เชื่อว่าฝ่ายรัฐบาลหรือทหารคงมียุทธศาสตร์ที่จัดการได้ อาจจะมีกลยุทธิ์ต่างๆที่ใช้ในการต่อสู้สงครามมาใช้ก็เป็นได้

ใครพลั้ง ใครพลาด ประเทศชาติพังไปแล่้ว หากทุกฝ่ายยังคงดึงดันต่อสู้เอาเป็นเอาตายเช่นนี้ อีกไม่นานเราจะได้เห็นการเสียเลือด  เสื้อเนื้อของคนไทยจากฝีมือคนไทยด้วยกันเอง ในรอบที่ 3,4,5,6......... เป็นแน่แท้

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์